จูเนียร์ เอเชียน ทัวร์ นัดเปิดสนามพร้อมจัด 27-29 ม.ค.นี้

โดยรายการนี้นับเป็นแมตช์เปิดการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมกอล์ฟเยาวชนนานาชาติ จูเนียร์ เอเชียน ทัวร์ 2023 โดยแบ่งเป็นการแข่งขันทั้งสิ้น 6 รายการในประเทศไทย และในอนาคตจะมีการกระจายการแข่งขันไปยังประเทศอื่นๆ โดยที่มีเมืองไทยเป็นศูนย์กลาง ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกแต่ละรุ่นอายุจะได้รับทัวร์การ์ดสำหรับฤดูกาล 2023 เพื่อลงแข่งขันทั้ง 6 รายการ เพื่อเป็นแมตช์เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟเยาวชนได้มีแมตช์แข่งขันแบบมีมาตรฐานเพื่อพัฒนาศักยภาพในกีฬากอล์ฟ 

โดยในทุกรายจะได้นับคะแนนสะสมในอันดับนักกอล์ฟสมัครเล่นโลก( WAGR ) และ Junior Golf Scoreboard  ระบบแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ แบ่งออกเป็นประเภทชายและหญิงแต่ละรุ่นอายุ 10-12 ปี, 13-14 ปี และ 15-18 ปี โดยจะมีการเก็บคะแนนสะสมเพื่อลุ้นสิทธิไปแข่งขันในระดับเยาวชนนานาชาติในต่างประเทศแล้ว ยังพิเศษยิ่งขึ้นกับการได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันระดับ LPGA, Ladies European Tour, Asian Tour, TrustGolf Tour รวมถึงอีกหลายทัวนาเมนต์อาชีพที่จะจัดขึ้นในเมืองไทยอีกด้วย

สำหรับการแข่งขันรายการนี้จะมีรอบควอลิฟายในวันที่ 26 มกราคมนี้ ณ สนามเซาเทิร์นฮิลล์สฯ เพื่อคัดนักกอล์ฟผลงานดีที่สุด 30 รายเข้าสู่รอบทัวร์นาเม้นท์ พร้อมกันนั้นนักกอล์ฟ และผู้ติดตามจะต้องมีการแสดงผลตรวจเชื้อ ไวรัส โควิด-19 จากคลีนิค หรือโรงพยาบาล ภายในเวลา 72 ชม. หรือ ตรวจด้วยตัวเอง 24 ชม. ก่อนเข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์

ทัวร์นาเม้นท์ที่นักกอล์ฟเยาวชนจากการแข่งขัน JAT รุ่น โอเพ่น คลาส ประกอบด้วยการแข่งขัน แอลพีจีเอ ทัวร์ โคแซงชั่น เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ รายการ ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติส โอเพ่น รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งจะมอบให้กับนักกอล์ฟหญิงที่ผลงานสะสมดีที่สุด 4 คนจากการแข่งขัน JAT สนามที่ 1-3 

นอกจากนั้นยังรวมถึงการแข่งขัน เอเชียน ทัวร์ โคแซงชั่น เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ รายการ เอเชียน มิกซ์ คัพ กับนักกอล์ฟชาย-หญิง ที่ผลงานดีที่สุด จากการแข่งขัน JAT สนามที่ 1-2 และ รายการ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเล้นจ์ กับนักกอล์ฟชาย-หญิง ที่ผลงานดีที่สุด จากการแข่งขันสนามที่ 2-3 พร้อมกันนั้นยังมอบโอกาสให้แชมป์จากการแข่งขัน JAT ในทุกสนาม ร่วมการแข่งขัน ไทยแลนด์ มิกซ์ สนามที่ 1-3 และ ผู้เล่นที่มีคะแนนสะสมดีที่สุดจาก JAT สนามที่ 1-3 ร่วมการแข่งขัน ไทยแลนด์ มิกซ์ สนามที่ 4 อีกด้วย