สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ผู้จัดการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ แถลงข่าวการจัดการแข่งขันในปี 2023 กับการก้าวสู่ทัวร์นาเม้นท์คิดคะแนนสะสมอันดับโลก หรือ เดอะ วีเมนส์ เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิ้ง (WWGR) อย่างเป็นทางการ ด้วยการจัดแข่งขัน 10 แมตช์ ชิงเงินรางวัลรวม 17.4 ล้านบาท พร้อมเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันรอบคิวสกูล ในการจัดอันดับสิทธิ์แข่งขันในซีซั่นนี้อีกด้วย
งานนี้ได้รับเกียรติจาก นายกฤษดา ตัณฑ์วิไล นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมพัฒนากีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) นายกิตติศักดิ์ ชัยมงคลตระกูล ผู้อำนวยการกิจกรรมพิเศษ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ ณ อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ (Town Hall ชั้น 34) เมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม 2566
นายกฤษดา ตัณฑ์วิไล นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ผู้จัดการแข่งขัน ไทย แอลพีจีเอ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีได้เดินทางมาถึงเป้าหมายสำคัญอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์กับนักกีฬา และประเทศไทยเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าการจัดการแข่งขันของไทยได้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลในทุกด้าน เช่น สนามกอล์ฟ รูปแบบ และคณะกรรมการ รวมถึงความสามารถของนักกีฬา หลังจากนี้สมาคมฯ จะมุ่งมั่นพัฒนาในทุกๆ ด้านต่อไป ผมขอขอบคุณ ตั้งแต่อดีตนายกสมาคมฯทั้งสองท่าน รวมถึงทีมงานสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี นักกีฬา และผู้ให้การสนับสนุนทุกภาคส่วน"
นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมพัฒนากีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย พูดถึงการสนับสนุนจากทางภาครัฐว่า "การกีฬาฯ เล็งเห็นการพัฒนาของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาการแข่งขัน โดยเฉพาะกับปีนี้ที่ได้รับพิจารณาเป็นทัวร์นาเม้นท์คิดคะแนนสะสมอันดับโลกด้วย ซึ่ง การกีฬาฯ พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกับเป้าหมายของสมาคมที่ต้องการพัฒนาทัวร์ให้ทัดเทียมกับนานาชาติ"
สำหรับการแข่งขันในฤดูกาลนี้เริ่มต้นด้วยการแข่งขันรอบ คิวสกูล ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม นี้ ณ สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท เพื่อการจัดลำดับสิทธิ์นักกอล์ฟในการเข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้ โดยจะคัดผู้เล่นในอันดับ 1-20 จะคว้าสิทธิ์ในลำดับสิทธิ์ที่ 8 และอันดับ 21-50 คว้าสิทธิ์แข่งขันในลำดับสิทธิ์ที่ 9 และ ตั้งแต่อันดับ 51 เป็นต้นไปอยู่ในลำดับสิทธิ์ที่ 10 โดยชิงเงินรางวัลรวม 200,000 บาท โดยกรณีที่อันดับที่ 20 มีผู้เล่นมากกว่า 1 คน จะใช้การเปรียบเทียบสกอร์ในการตัดสิน (การเปรียบเทียบสกอร์หมายถึง การเปรียบเทียบสกอร์รวมดีที่สุดของการเล่น 18,9,6,3 หลุม ตามลำดับ หากยังเสมอ ให้เปรียบเทียบหลุมต่อหลุม โดยนับย้อนกลับจากหลุม 18 จนกว่าจะได้ผู้ชนะ)
ด้านการแข่งขันปีนี้จะสตาร์ทด้วยรายการ บีจีซี แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัล 1.2 ล้านบาท ณ สนาม วอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท ระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีแมตช์พิเศษชิงเงินรางวัล 2.5 ล้านบาทกับรายการ สิงห์ พัทยา เลดี้ส์ โอเพ่น ที่สนามแหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นเนล คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม และรายการ ไทย แอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนาม รอยัล หัวหิน กอล์ฟ คอร์ส ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม และปิดท้ายซีซั่นกับรายการ บีจีซี ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ส ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท ที่สนาม แบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน โดยรวมทั้งสิ้นเป็น 10 รายการ ชิงเงินรางวัลรวม 17.4 ล้านบาท
การแข่งขัน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ ได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จํากัด (มหาชน), บริษัท ปทุมธานีกล๊าส อินดัสทรี, บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จํากัด, เซ็นทรัล กรุ๊ป, บริษัท เมืองไทยประกันภัย จํากัด (มหาชน), บริษัท ลีโอเนียน (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด โดยนับเป็นทัวร์กอล์ฟที่ 12 ที่ได้รับการยอมรับจาก เดอะ วีเมนส์ เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิ้ง (WWGR) เข้าสู่การคิดคะแนนสะสมอันดับโลก "โรเล็กซ์ วีเมนส์ เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิ้ง" ต่อจาก เคแอลพีจีเอ ดรีม ทัวร์ ซึ่งได้รับรองล่าสุดเมื่อปี 2021