ไม่มีใครปฏิเสธความเก่งกาจของ รถถัง จิตรเมืองนนท์ แต่ข้อสงสัยเกิดขึ้นเมื่อเขาทำน้ำหนักไม่ผ่าน 2 ไฟต์ติดต่อกัน
คำครหาและคำวิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย แม้จะชนะ เดนิส พูริช และ จาค็อบ สมิธ แต่ รถถัง ก็ยังมีเสียงก่นว่า "เคี้ยวหมู"
อย่างไรก็ดี สิ่งที่เสียไปมากกว่าชื่อเสียงคือ เข็มขัดแชมป์โลก อันเป็นเกียรติยศที่เขาถือครองมานานถึง 5 ปี
ภายใต้ความเฮฮาของ รถถัง ในใจเขาแบกรับความกดดันอย่างยิ่งใหญ่
นักมวยระดับซูเปอร์สตาร์ ทำไมแบบนี้
นักชกค่าตัวหลัก 10 ล้านบาท ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย
สิ่งเหล่านี้เป็นภาระหนักที่เขาต้องแบกรับบนบ่าทั้งสองข้าง
ปัจจุบัน มวยไทย ยกระดับขึ้นสู่ระดับโลก การรักษามาตรฐานที่จุดสูงสุดไม่ใช่เรื่องง่าย
มากไปกว่านั้น เมื่อคุณอยู่สูงเท่าไหร่ ทุกการกระทำก็จะถูกจับตามองยิ่งขึ้น
รถถัง เคยพูดไว้ว่า -เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่สามารถทำปัจจุบันให้ดีได้-
คำพูดนี้สะท้อนความจริงที่ว่า การจมอยู่กับอดีตไม่ช่วยอะไร กลับทำให้เราจมปลักกับความทุกข์
"เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์" มันใช้ได้เสมอ
รถถัง เข้าใจดีว่า ความเป็นยอดมวย ไม่ได้หมายถึงแค่การต่อสู้บนเวที แต่ยังรวมถึงความเป็นมืออาชีพ, ความมีวินัย, และการดูแลร่างกาย
มรสุมชีวิตที่เขาเรียกว่า "ฝันร้าย" รถถัง กลับมาตั้งมั่นและตั้งใจใหม่เพื่อไฟต์ที่ ไซตามะ ซูเปอร์ อารีน่า
เขาเริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิต ตื่นซ้อมเช้า และปรับหลายสิ่งที่เคยทำ
ปีเตอร์ มิลเลอร์ นักโภชนาการฝีมือดีถูกดึงมาดูแล รถถัง โดยเฉพาะ
เขานำ วิทยาศาสตร์การกีฬา มาใช้เพื่อพลิกวิธีการทำน้ำหนักให้แตกต่างจากที่เคยทำ
คำถามคือ รถถัง จะทำอย่างไรเพื่อกลับไปสู่จุดที่ควรจะเป็น?
คำตอบของเขาคือ หมัดซ้ายส่ง ทาเครุ เซกาวา พ่ายแพ้ไป
รถถัง คนเดิมในร่างใหม่ กลับมาแล้ว
ผมไม่รู้ว่า เขาใช้คำที่ถูกต่อว่าหรือด่าทอมาใช้เป็นพลังเพื่อเติมความมุ่งมั่นหรือไม่
แต่จากผลลัพธ์ที่ออกมา ผมเชื่อว่า รถถัง ทำแบบนั้นแน่ ๆ
รถถัง แสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเขายังคือ "The Iron Man"
เป็น รถถัง คนเดิมที่แฟนมวยรักและชื่นชอบ
HOSSALONSO