ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬามวยไทยและศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน Mixed Martial Arts หรือ MMA (เอ็มเอ็มเอ) สนามที่ 5 รายการ "เลเจนด์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์-เลเจนด์ เอฟซี อันดามันดา ภูเก็ต" ณ เวทีมวยชั่วคราว สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่จัดการแข่งขันโดย เดอะ เลเจนด์ อารีน่า ร่วมกับ กลุ่มบริษัทพราว, อันดามันดา ภูเก็ต บลูพอร์ต หัวหิน และ "วิว" เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโด ฮีโร่ขวัญใจชาวไทย เจ้าของเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2004 ในฐานะโปรโมเตอร์

ในงานยังได้รับเกียรติจาก นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายนฐา ชมเสวี ผู้จัดการทั่วไปสวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต, นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต, นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, นายดำรง ไชยเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต, พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และนายยุทธนา พิทักษ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต ร่วมกันมอบรางวัลให้นักกีฬา

บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากประชาชนในพื้นที่และชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก แม้มีฝนตกลงมา ก่อนที่ แมทธิว ดีน พิธีกรหนุ่มสุดหล่อ และ "โปรโมเตอร์วิว" เยาวภา บุรพลชัย ทำหน้าที่ดำเนินรายการบนเวที จะให้สัญญาณ 10 คู่มวยเด็ด เริ่มชกตามโปรแกรม

ไฮไลต์ของสนามนี้ อยู่ที่การแข่งขันมวยไทย รุ่น 47 กก. หญิง ระหว่าง จันทกานต์ มโนบาล หรือ พญาหงส์ อโยธยา ไฟท์ ยิม แชมป์เควันหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทย วัย 19 ปี ที่พกสถิติชกมวยไทยมาแล้ว 61 ไฟท์ เอาชนะไปได้ถึง 48 ไฟท์ ขึ้นเวทีดวลกับ มาการ์เร็ท วาเนก เจ้าของฉายา "ขุนเข่าทะเลเดือด" จากหงส์ทองมวยไทย อดีตโปรแกรมเมอร์สาวจากสหรัฐฯ ผลการชกปรากฎว่า "พญาหงส์" ที่จะแม้เป็นรองส่วนสูงและช่วงชก ใช้จังหวะฝีมือ บวกการออกอาวุธที่ครบเครื่องและดุดัน เอาชนะคะแนนไปเมื่อครบ 3 ยก

ด้านมวยไทยคาดเชือก รุ่น 65 กก. ชาย ทศวรรษ จันทะดวง หรือ ฟ้าลิขิต เดอะเลเจนด์ อารีน่า นักชกหนุ่มวัย 28 ปี เจ้าของสถิติการชก ชนะ 69 แพ้ 10 เสมอ 2 ไฟท์ สู้กับ อเลน ยาอูนี่ (บางเทา มวยไทย) จากอาร์เจนติน่า ได้อย่างสนุกสูสี ครบ 3 ยก กรรมการให้เสมอกันไป

ส่วนคู่เอก มวยเอ็มเอ็มเอ รุ่น 61.2 กก. ชาย ปีเตอร์ เดเนโซ (มารอค ยิม) ลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก แชมป์เอ็มเอ็มเอ เวทีเลเจนด์ เอฟซี ดวลกับ อาลี อัคบา (ไทยเกอร์ มวยไทย) อดีตนักกีฬาวูซูทีมชาติอิหร่าน คู่นี้ผลัดกันออกอาวุธจนเจียนอยู่เจียนไปทั้งคู่ ก่อน เดเนโซ ชิงจังหวะทำซับมิชชัน ด้วยการใส่ เรียร์ เนกเกด โช้ก เอาชนะไปช่วงต้นยก 2

ด้านผลการแข่งขันคู่อื่นๆ มีดังนี้ เอ็มเอ็มเอ รุ่น 66 กก. ชาย จอช โกล์ฟ (แอ็บโซลูท เอ็มเอ็มเอ) จากออสเตรเลีย ชนะทีเคโอ ยก 1 ณัฐพงศ์ อ่อนรู้ที่ (เกียรติทรงฤทธิ์), เอ็มเอ็มเอ รุ่น 52.2 กก. หญิง เจด้า เคทลี่ (บางเทา มวยไทย) จากออสเตรเลีย ชนะทีเคโอ ยก 1 รัตนาพร หารพันธ์ หรือ ลมมณี เดอะเลเจนด์อารีน่า, เอ็มเอ็มเอ รุ่น 61.2 กก. ชาย โคลตัน คิเอลบาซ่า จากสหรัฐฯ ชนะทีเคโอ ยก 1 "ซูเปอร์แจ็ค" ศิริพงศ์ จำปาคำ (ฮันเตอร์ยิม), เอ็มเอ็มเอ รุ่น 63 กก.ชาย ธีระพงศ์ ไชยแก้ว หรือ ขุนชาญ ไทเกอร์ มวยไทย ชนะซับมิชชัน ยก 1 มาจิด โมฮีบี (แฟมิลี่ มวยไทย) จากอิหร่าน

มวยไทยคาดเชือก รุ่น 70 กก. ชาย อภิวัตร ยะสุวรรณ หรือ บังรอน ลูกเจ้าพ่อพญาเสือ ชนะคะแนน อัมราเน่ อิสคูเน่น (ส.สุวรรณรัณย์) จากแอลจีเรีย, มวยไทยคาดเชือก รุ่น 61.2 กก.ชาย เซเยมาดี ซาเด จากอิหร่าน ชนะคะแนน พงศกร ศรีหะจันทร์ หรือ ยอดขุนพล ไทเกอร์มวยไทย (ไทเกอร์มวยไทย) และ มวยไทยคาดเชือก รุ่น 70 กก. ชาย วิภาวัส กล่อมเกลี้ยง หรือ สมิงเดช แฟมิลี่ มวยไทย ชนะคะแนน มิเกล ไอลิส จากอาร์เจนตินา

ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ความแปลกความพิเศษของรายการนี้ คือการได้เห็น 2 เวทีมวย ทั้งเวทีมวยไทยและมวยกรงตั้งตระหง่านคู่กัน นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการกีฬาไทย ซึ่งศึกนี้ยังได้เห็นลูกหลานชาวอันดามันขึ้นเวทีต่อสู้กับนักกีฬาแกร่งๆ จากต่างประเทศ นับเป็นการส่งเสริม สืบสาน และอนุรักษ์มวยไทย พร้อมยังกระตุ้นเศรษฐกิจของภูเก็ตด้วยกีฬามวยไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ถือเป็น "ซอฟท์พาวเวอร์" ของประเทศไทย และยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชาวภูเก็ตด้วย

ด้าน "วิว" เยาวภา บุรพลชัย โปรโมเตอร์จัดการแข่งขัน กล่าวว่า ครั้งนี้ที่จัดกันที่สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต สถานที่สวย มีความเป็นไทย และยังได้คู่มวยที่สนุก ทำให้งานออกมาดี แม้ฝนตกในช่วงแรก แต่เมื่อถึงเวลาถ่ายทอดสดฝนก็หยุด พี่น้องประชาชนที่มารอชมก็สู้ไม่ถอย คอยเชียร์นักกีฬาไทยจนจบ ส่วนตัวดีใจมากที่การจัดครั้งนี้จบลงด้วยดี ซึ่งนักมวยไทยหลายคนถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นมากๆ โดยเฉพาะเอ็มเอ็มเอ ถือเป็นการต่อยอด สร้างนักกีฬาไทยไปสู่เวทีเอ็มเอ็มเอระดับโลก

"ส่วนการจัดครั้งต่อไป น่าจะเป็นปีหน้า 2566 ตั้งใจเอาไว้ว่าจะจัดให้ได้อย่างน้อย 6 ครั้ง และกระจายไปตามแลนด์มาร์กสำคัญ ที่เป็นจุดท่องเที่ยวของจังหวัดต่าง ๆ ทั่วเมืองไทย เพื่อสร้างกระแสให้คนสนใจมวยไทยและมวยเอ็มเอ็มเอที่กำลังมาแรงมากๆ"