"เสี่ยฮุย"ตั้งโต๊ะแถลงค้านกลุ่มทุนซื้อที่ดินภาระจำยอมสร้างคอนโดทับเส้นทางของชาวบ้านย่านซอยโรงหนังกรุงสยาม

"เสี่ยฮุย"ตั้งโต๊ะแถลงค้านกลุ่มทุนซื้อที่ดินภาระจำยอมสร้างคอนโดทับเส้นทางของชาวบ้านย่านซอยโรงหนังกรุงสยาม
จากกรณีที่มีบริษัทกลุ่มทุนได้เข้ามาซื้อที่ดินบริเวณตลาดเก่ากรุงสยาม โรงหนังกรุงสยาม รวมทั้งที่ดินติดภาระจำยอม เพื่อสร้างคอนโดมีเนียม ซึ่งทับเส้นทางถนน ทางเดิน และทางหนีไฟที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน รวมทั้งที่พักของมารดาของ "เสี่ยฮุย" นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานค่ายนครหลวง โปรโมชั่น และผู้จัดการของ "แหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น นักชกอดีตแชมป์โลก 2 สมัย ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยย่านซอยโรงหนังกรุงสยาม ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ณ บริเวณที่ดินข้างโรงภาพยนตร์กรุงสยาม "เสี่ยฮุย" นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานค่ายนครหลวง โปรโมชั่น พร้อมด้วย นายประเสริฐ ทัพเสน ทนายความ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว "ตลาดเก่ากรุงสยาม การปกป้องที่ดินภาระจำยอม ทางรถยนต์ ทางเดิน ทางหนีไฟ กำลังจะถูกปิดกั้น เพื่อสร้างคอนโด เพื่อชี้แจงรายละเอียด และเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ชาวบ้าน โดยมี "แหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น มาร่วมให้กำลังใจ และมีชาวบ้านตลาดเก่ากรุงสยามมาร่วมรับฟังการแถลงข่าว

นายสุรชาติ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ออกมาแถลงข่าวกรณีที่กลุ่มทุนซื้อที่ดินบริเวณตลาดเก่ากรุงสยาม โรงหนังกรุงสยาม ซึ่งมีที่ดินภาระจำยอม 3 แปลงคือ หน้าบ้านชาวบ้าน, ทางถนน และด้านโรงหนัง ซึ่งเป็นที่จอดรถ และกลับรถ โดยการซื้อขายนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องรับมรดกภาระจำยอมของเจ้าของเดิมที่เว้นไว้เป็นทางถนน ทางเดิน ซึ่งจดทะเบียนไว้กว่า 42 ปีแล้ว ไม่สามารถปิดกั้นได้ ดังนั้นจึงเป็นความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านทุกคน หากคอนโดสร้างเสร็จจะเหลือทางรถวิ่งแค่ 8 เมตร และกำแพงของคอนโดจะอยู่ติดหน้าบ้านชาวบ้าน ซึ่งตามกฏหมายต้องเว้น 3 เมตร รวมทั้งคอนโดจะล้อมรอบไปด้วยตึกแถวของชาวบ้าน และจะจอดรถหน้าบ้านไม่ได้ อนาคตจะมีปัญหาทะเลาะกันแน่

นายสุรชาติ กล่าวอีกว่า ตามข้อมูลคอนโดมีทั้งหมด 290 ห้อง ที่จอดรถเพียง 90 คัน แล้วอีก 200 คันจะไปจอดที่ไหน ซึ่งเรื่องนี้ EIA หรือรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจำเป็นต้องจัดทำขึ้นก่อนการก่อสร้างบ้านจัดสรร คอนโด อาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่แทบทุกชนิดจากทั้งภาครัฐและเอกชน จะพิจารณาอย่างไร ดังนั้นเราต้องรวมใจกันคัดค้าน ไม่ให้เกิดคอนโดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ หรือหากมีเหตุไฟไหม้แล้วชาวบ้านจะทำยังไงถ้าไม่มีทางถนน ทางหนีไฟ

เสี่ยฮุยกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ยินมาว่าวันนี้จะมีการรังวัดแปลงถนนให้กลืนไปกับแปลงโรงหนังด้วย เพราะแปลงที่ดินถนน ได้ข้อมูลมาว่าโฉนดปัจจุบันไม่มีการเป็นภาระจำยอมแล้ว เนื่องจากมีการใช้เล่ห์ด้วยการแจ้งหาย และออกโฉนดใหม่ ตอนนั้นตนจึงรีบไปคัดค้าน แต่ก็ได้มีการออกโฉนดใหม่ไปแล้ว

"เรื่องนี้ถ้าเป็นคดีความผมพร้อมสู้เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อตัวเอง หรือคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้ถ้าเราคัดค้านไม่เป็นผล ผมก็จะไปฟ้องร้องต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ, ศาลปกครอง, กมธ.สิ่งแวดล้อม, กมธ.ปกครอง, ผู้ตรวจการแผ่นดิน และร้องทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ถ้าหากเจ้าพนักงานยังฝืนก็คงไม่รอดกฏหมายมาตรา 157"

ขณะที่ นายประเสริฐ ทัพเสน กล่าวว่า กรณีนี้มีผลกระทบต่อสิทธิของชาวบ้าน ซึ่งทุกคนจะต้องรวมตัวกันคัดค้านไม่ให้ออกระเบียบข้อกฏหมายต่างๆ ในการสร้างคอนโดไม่ให้เกิดขึ้น หรืออาจเจรจาพูดคุยกัน เพื่อแก้ไขให้ความเดือดร้อนของชาวบ้านลดลง ตึกแถวไม่เดือดร้อนไม่พัง ชาวบ้านต้องร่วมมือกันถ้าเขามีกำลังเงินมาก โดยถ้ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ให้จัดทำเป็นเอกสารส่งมาให้กับนายสุรชาติได้เลย

ส่วน นายศิริพงษ์ วิเศษศิริ นายช่างรังวัดชำนาญงาน เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางเขน ที่มาร่วมสังเกตุการณ์ ระบุว่า วันนี้ได้เข้ามารังวัดสร้างขอบเขตของโฉนดตามที่เจ้าของโครงการคือ บริษัท ธนบูลย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ให้มา ไม่ได้เป็นการรังวัดรวมโฉนด โดยเรื่องนี้ทางชาวบ้าน และเจ้าของโครงการต้องร่วมกันพูดคุยแก้ไขหากได้รับผลกระทบ

ด้านตัวแทนโครงการจากบริษัท ธนบูลย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วยระบุว่า ทางโครงการกำลังหาแนวทางแก้ไข ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ ซึ่งทุกปัญหาของชาวบ้านจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนขึ้นในการประชุมร่วมกันครั้งที่ 2


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport