หลังจากทวีปยุโรป คือ 1 ใน 5 ทวีปที่ได้รับการรับรองรับจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการโอลิมปิกยุโรป ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นปีที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่ง "กีฬามวยไทย" ได้รับการบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิกแห่งยุโรปครั้งแรก ในศึก "ยูโรเปี้ยนเกมส์" ที่ผ่านมา ที่ประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่สำหรับสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA)
ทั้งนี้ มวยไทยซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติไทย เนื่องจากมีมากกว่า 30 ประเทศสมาชิกส่งนักกีฬามวยไทยเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งได้จัด 5 วัน นอกเหนือจากการแข่งขันแล้วยังมีทีมแสดงจากประเทศไทยเพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์สืบสานประเพณีของกีฬามวยไทยด้วยนั้น
ทวีปยุโรปยังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน "อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2023" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 3,000 คน จาก 108 ประเทศทั่วโลก โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) หลายคนมาร่วมเป็นสักขีพยาน และแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการพัฒนาเยาวชนของ IFMA ในการแข่งขันครั้งนี้
รายการสุดท้ายของปี 2023 ของทวีปยุโรปคือ "ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ" ที่เพิ่งจะจบลงไป ในงานนี้มีผู้เข้าแข่งขันมากกว่า 600 คน นอกจากนี้ยังมีการเลือกตั้งกรรมการผู้บริหารของสหพันธ์มวยไทยแห่งปวีปยุโรปอีกด้วย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) เป็นผู้เปิดการประชุมเลือกตั้ง ซึ่งผู้ชนะการเลือกตั้ง และได้ตำแหน่งประธาน ได้แก่ ฮาซาล ยิวดิส ประธานสหพันธ์มวยไทยตุรกีภายใต้คณะกรรมการโอลิมปิกชาติ และนาเดีย อาลุชช์ ประธานสหพันธ์มวยไทยแห่งประเทศฝรั่งเศสและกรรมการบริหารโอลิมปิกแห่งฝรั่งเศสได้ชนะการเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธาน
หลังจบการเลือกตั้ง ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ แสดงความยินดีกับผู้บริหารของสหพันธ์มวยไทยแห่งปวีปยุโรปที่ทำงานอย่างยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา ต่อด้วย ชาริษา ไทนาน ผู้อำนวยการทั่วไป ซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานนานาชาติของ IFMA ในเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รายงานบทบาทของ IFMA ในฐานะสหพันธ์สมาคมมวยไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC)
ด้าน ฮาซาล ยิวดิส ประธานสหพันธ์มวยไทยแห่งปวีปยุโรปป้ายแดง กล่าวว่า ตนภูมิใจที่ได้เป็นประธานมวยไทยแห่งยุโรปคนแรกของตุรกี และพร้อมที่จะร่วมมือกับสหพันธ์มวยไทย 50 สหพันธ์ในยุโรป และทำงานร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และ IFMA เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่มวยไทยให้เป็นมรดกศิลปะวัฒนธรรมและกีฬาที่สืบต่อไป ภายใต้หลักการ "One World One Muaythai"