เพชรส่องแสง เพชรเจริญวิทย์ ขึ้นมาดวลกับ เพชรบึงกาฬ ร.ร.กีฬาโคราช โดยคู่นี้ในยก 2 เพชรบึงกาฬโดนเตะเจาะยางล้มหัวฟาดพื้นมีอาการมึนถูกกรรมการนับ 8 จากนั้นเพชรบึงกาฬเร่งปล้ำตีเข่าชุดใหญ่หวังเอาคืนเรียกเสียงเฮจากท่านรอง ขณะที่เพชรส่องแสงเน้นการป้องกันตัวดักเตะดักถีบไม่ปะทะด้วยโดยตรง ครบยกกรรมการชูมือให้ เพชรส่องแสง ชนะคะแนนอย่างสนุก
การแข่งขันศึกเพชรยินดี ที่ เวทีมวยราชดำเนิน เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2566 คู่เอก เพชรส่องแสง เพชรเจริญวิทย์ พบกับ เพชรบึงกาฬ ร.ร.กีฬาโคราช พิกัด 116 ปอนด์ เรตเปิด เพชรส่องแสง ต่อ 5-4 กรรมการผู้ห้าม จิรศิลป์ จิระรัตน์สกุล ยกแรก เพชรส่องแสงขยับเข้าหามีเตะเจาะยางทักทาย เพชรบึงกาฬยังตั้งรับมีแข้งซ้ายตอบโต้ ยังไม่รีบร้อนด้วยกันทั้งคู่ หมดยก ใครต่อรอง
ยกสอง เพชรบึงกาฬเบียดเข้าหา เพชรส่องแสงไม่หนีมากแต่ยังคุมรูปเกมจนกรรมการต้องเตือนให้ออกอาวุธ เกมยังสูสี คุมรูปมวยซะส่วนใหญ่ เพชรส่องแสงเตะตัดล่างเพชรบึงกาฬเสียหลักล้มลงไป 2 ครั้งเพชรบึงกาฬหัวฟาดพื้น ลุกขึ้นมามีอาการมึนโดนกรรมการนับ 8 ยังชกดอกได้ หมดยก เพชรส่องแสง ต่อ 8-1
ยกสาม เพชรบึงกาฬยกนี้ออกมาลุยปล้ำตีทันทีแลกเข่าสู้กับเพชรส่องแสง เกมเปิดมากขึ้นทั้งคู่เน้นวงใน เพชรบึงกาฬยังเดินลุยปล้ำตี ขณะที่เพชรส่องแสงเน้นจังหวะฝีมือถอยวนออกมีหมัดบวก สลับศอก เพชรบึงกาฬยังเดินเข้าหาเร่งเกมมากขึ้นเพชรส่องแสงตั้งกำแพงหน้ากันเอาไว้ เน้นจังหวะฝีมือ หมดยก เพชรส่องแสงต่อ 12-1
ยกสี่ เพชรบึงกาฬลุยแหลกออกมาเน้นปล้ำตีอุตลุด เพชรส่องแสงแทงเข่าสกัดตั้งกำแพงหน้าแลกด้วย เพชรบึงกาฬวงในยังแข็งแรงบดไปเรื่อยกดลงมาแทง เพชรส่องแสงตั้งรับอย่างเดียวทำแล้ววนออกมีแทงสวน ทำแล้ววนออกข้าง เพชรบึงกาฬบี้ถึงตัวอย่างเดียวอาศัยลูกขยันแต่ยังไม่ชัดเจน เข้ามาโดนแข้งของเพชรส่องแสงสกัดเอาไว้อีก หมดยก เพชรส่องแสงต่อ 30-1
ยกสุดท้าย เพชรบึงกาฬไม่มีอะไรเสียอีกแล้วออกมายกนี้เน้นหมัดไล่ต่อยหวังเอานับคืนมีศอกตาม เพชรส่องแสงถอยวนเน้นเกมตั้งรับแต่มีแผลแตกที่ใต้ตาขวา เพชรบึงกาฬไม่รอช้าได้ใจแล้ววางแข้งสู้มีหมัดตามอีก เพชรบึงกาฬเร่งเครื่องช่วงโค้งท้ายซอยเข่าปล้ำตีได้ลูกขยัน เพชรส่องแสงถอยวนดันออกไม่ปะทะด้วย ครบยก กรรมการตัดสินให้ เพชรส่องแสงชนะคะแนน
ส่วนผลคู่อื่นๆมีดังนี้ เมฆพยัคฆ์ ม.สุดสยาม แพ้คะแนน สุวัฒน์เล็ก ทีเด็ด 99 , ลาวสตาร์ เกียรติธงยศ ชนะคะแนน เพชรใหม่ ศิษย์จอมยุทธ , เพชรวังหิน ลูกพระไกรภักดี แพ้คะแนน นิเชา นุ้ยสี่มุมเมือง