ONE Championship ผลักดัน "Soft Power" พามวยไทยสู่ระดับโลก

ONE Championship ผลักดัน "Soft Power" พามวยไทยสู่ระดับโลก
วัน แชมเปียนชิพ (ONE) องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดงานสัมนาครั้งใหญ่ตั้งนโยบาย "Soft Power" เป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันมวยไทย ต่อยอดสู่ระดับโลกเพื่อเป็นจุดขายให้ชาวต่างชาติทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น

ปัจจุบัน "Soft Power" กลายเป็นศัพท์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก หลังเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลนำมาใช้และสร้างจุดขายให้กับประเทศไทยเพื่อต่อยอดความเป็นสากล พร้อมเป็นตัวดึงชาวต่างชาติให้รู้จักเพื่อเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น 

ขณะที่หลายๆ องค์กรในไทยก็ต่างนำนโยบายนี้มาปรับใช้กันมากขึ้น เช่นเดียวกับ ONE Championship ศึกมวยค่ายยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้จัดงานสัมนา "One Ignite The Next Big Thing" โดยมีการนำบุคคลสำคัญในวงการกีฬามาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งนำมาโดย คุณชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ONE Championship  

นอกจากนี้ยังมีนักมวยชื่อดังอย่าง ตะวันฉาย พี.เค แสนชัยมวยไทยยิม ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตก่อนจะมาประสบความสำเร็จในปัจจุบัน 

ทั้งนี้ทาง ONE Championship ได้ให้ความสำคัญกับ "Soft Power" เป็นอย่างมากจึงผลักดันมาเป็นเรือธงด้านกีฬาของซอฟท์ เพาเวอร์ ในประเทศไทย ดึงนักท่องเที่ยวมาฝึกมวยไทยในประเทศ แล้วเผยแพร่ไปทั่วโลก

ขณะเดียวกันด้านนายกได้ตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนด้านกีฬา กกท วางยุทธศาสตร์ One Championship เห็นตรงกันว่า มวยไทยเป็นมรดกของชาติ สามารถดึงคนเข้ามาในประเทศได้ โดยมวยไทยเป็นเรือธง ได้รับความร่วมมือจาก One Championship

ด้านคุณ สุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า "ขอชื่นชมทาง ONE Championship ที่จัดงานนี้ขึ้นมา หลังเราต่างมีแง่มุมที่ตรงกันในเรื่องของ Soft Power โดยประเทศเรามี Soft Power ในเรื่องต่างๆแล้วทั้งด้านอาหาร และ ภาพยนต์ ที่เป็นจุดขายให้กับประเทศไทย ซึ่งมวยไทยถือเป็นวัฒนธรรมหลักของประเทศที่หมาะสมที่จะผลักดันให้เป็น Soft Power ด้านกีฬาของประเทศไทยตามนโนบายหลักของรัฐบาล"

"เมื่อมองถึงรายละเอียดแล้วทางกกท.จะนำเรื่องดังกล่าวไปเผยแพร่ ซื่องจะกลายเป็นฟีดแบ็คที่สะท้อนกลับมาให้ชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวและฝึกมวยไทยมากยิ่งขึ้น นี่จึงจะเป็นแผนแผนยุทธศาสตร์หลักที่จะนำมาปรับใช้ต่อไป"


ที่มาของภาพ : One
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport