"บิ๊กบางจาก" นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ยืนยันไม่มีปัญหาเตรียมทีมโอลิมปิกเกมส์หลัง ตะวัน มุ่งพิงกลาง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกำปั้นชายประกาศลาออกไปทำทีมมวยเวียดนาม โดยหวังให้ได้ 9 โควต้าไปลุยโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่วนการแจกโบนัสเอเชียนเกมส์ให้กับนักมวยในครั้งนี้ บางจากร่วมกับ พล.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผจก.ทีมมอบเงินรวม 4.6 ล้านบาท
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย.ที่อาคาร เอ็ม ทาวเวอร์ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย จัดพิธีมอบรางวัลและแสดงความยินดีให้ทีมกำปั้นไทย หลังทำผลงาน 3 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง และคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 4 รุ่น โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการป.ป.ส.และผู้จัดการทีมมวยสากลทีมชาติไทยชุดเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 19 ,พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมฯและพล,อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมฯร่วมงานในพิธี นอกจากนี้ภายในงานยังได้ทำพิธีมอบเงินอัดฉีดเพื่อตอบแทนและแสดงความยินดีกับนักกีฬาทั้ง 7 คน ที่คว้าเหรียญรางวัล รวมเป็นอีก 4.6 ล้านบาท
สำหรับ 4 โควตา ประกอบด้วย จุฑามาศ รักสัตย์ (50กก.หญิง),ธนัญญา สมนึก(60กก.หญิง), จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง(66กก.หญิง) และธิติสรรณ์ ปั้นโหมด(51กก.) โดยรายของ บรรจง สินศิริ ในรุ่น 63.5กก.รอการยืนยันอย่างเป็นทางการเนื่องจากคู่ชกในรอบรองชนะเลิศชาวมองโกเลียตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้าม ซึ่งอยุ่ในช่วงการพิจารณาตัดสิน
หลังเสร็จพิธีมอบเงินรางวัล นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ได้เผยว่า เราส่งไป11คนได้ไปโอลิมปิก ถึง5คนถือเป็นอันดับ 2ของเอเชีย เราเข้าชิงเจอจีนซึ่งต้องชนะให้ขาด แต่ถือว่าเราประสบความสำเร็จต่อเนื่องจากซีเกมส์ การดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เยาวชนให้เขามีวินัยทำให้มีการพัฒนาที่ดี คนที่ได้เหรียญเงินก็2ล้านบาท เหรียญทองก็ลดหล่นลงไป โค้ชกับเจ้าหน้าที่ก็มีต้องดูแลต่อไป ส่วนเรื่องโค้ชเราตัดสินใจใช้โค้ชคนไทยที่มีความสามารถและเข้าใจนักมวย ส่วนโค้ชนอกจะคอยดูเรื่องเทคนิคให้เรา โค้ชเราเยอะขึ้นมากถ้าเป็นไปได้อยากไปประเทศไหนขอให้บอกได้ โค้ชเราก็เนื้อหอมระดับหนึ่งอยากได้โค้ชไทยไปคุมทีมเราก็ยินดี เราก็ต้องหาคนมาคุมทีมแทนที่มีศักยภาพพอ ไม่ทิ้งไว้นานครับ ส่วนโควต้าโอลิมปิกเราได้ไป 5 ก็เหลืออีก6 เที่ยวหน้าก็จะเน้นมากขึ้นได้อีกสัก3ก็สุดยอดแล้ว
ส่วนกรณีเกี่ยวกับ "โค้ชอ้วน" ตะวัน มุ่งพิงกลาง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกำปั้นชาย ประกาศลาออกนั้น ตนมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับการเตรียมทีมมวยชายเพราะวางแผนให้มีทีมงานดูแลเอาไว้แล้ว
"กรณี โค้ช ตะวัน ลาออกมีข่าวว่า จะกลับไปทำงานเป็นโค้ชมวยที่เวียดนาม คนที่จะเข้ามาดูแลทีมมวยชายแทน สมาคมได้ให้ นาย สุฤทธิ์ ยิ่งกำแหง ผู้ฝึกสอนที่อาวุโสที่สุดรับหน้าที่แทน โดยโปรแกรมสำคัญของทีมกำปั้นไทย คือการพานักชกไทยไปชกรายการควอลิฟายโควตาโอลิมปิกเกมส์ ที่อิตาลี และประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในช่วงปีหน้า ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้อินดอร์ สเตเดี้ยมเป็นสังเวียนแข่งขัน"ประมุขเสื้อกล้ามทีมชาติไทยกล่าว
ส่วนในรายของ บรรจง สินศิริ นักชกในรุ่น 63.5กก.ที่มีลุ้นได้ไปโอลิมปิกเนื่องจาก นักมวยมองโกเลีย บาตาร์ซุค ชินโซริก ตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้าม ทำให้อาจโดนตัดสิทธิ์ในรุ่นนี้ ได้เผยว่า อาจมีข่าวดีได้ไปชกโอลิมปิกซึ่งตอนนี้ 80-90เปอร์เซ็นต์แล้ว ที่จะได้ไป ตอนนี้ก็ซ้อมตามปรกติรอไปเก็บตัวต่างประเทศ ถ้าไม่ได้ก็จะไปคัดชิงโควต้าที่อิตาลีต่อไป