"แชมป์" ที่ได้มาง่ายๆ มันก็ไม่สร้างความภาคภูมิใจและอาจจะทำให้ นักกีฬาแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้ไม่เต็มที่มากนัก การมีคู่แข่งที่ คือปัจจัยที่ทำให้นักกีฬาต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อที่จะต้องเอาชนะคู่แข่ง พร้อมๆกับการเอาชนะตัวเอง "เจ้าแนว" นรเศรษฐธาดา บุญมา "เลือดใหม่" ของวงการจักรยานไทยที่มีการพัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นมาอย่างโดดเด่นจนก้าวไปคว้าแชมป์เยาวชนเอเชีย 2024 ในจักรยานประเภทลู่
จุดเริ่มต้นของ "แนว" ไม่ได้เริ่มจากลู่ แต่เคยเป็นเบอร์ 1 ของจักรยานเสือภูเขาดาวน์ฮิลล์มาตั้งแต่อายุ 14 ปี รวมถึงจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ และหันมาฝึกจักรยานลู่ตอนอายุ 14 ปี แค่ปีแรกที่ "แนว" มาปั่นจักรยานลู่ก็สามารถทำลายสถิติประเทศไทยในรุ่นยุวชนชายได้แล้ว
จุดพลิกเปลี่ยนของ "แนว" ที่ทุ่มมาที่จักรยานประเภทลู่ โดยมี "โค้ชนนท์" พงษ์เทพ ท่าพิมาย อดีตนักปั่นทีมชาติไทยตัวสปริ้นมาเป็นผู้ฝึกสอนและเทรน "แนว" โดยมีเป้าหมายที่การเป็นเจ้าของสถิติ ไทม์ไทร์อัล 500 ม. และ สปริ้น ซึ่ง "แนว" ก็ทำได้ เมื่อพ้นจากรุ่นยุวชนก็ขยับขึ้นมาแข่งในรุ่นเยาวชนชาย ทั้งนักกีฬาและโค้ชมีเป้าหมายเดียวกันคือ การเป็นเจ้าของสถิติ รายการชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ ไทม์ไทร์อัล 1 กม. และสปริ้น
การฝึกหนักและทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อม "แนว" ขึ้นเป็นเจ้าของสถิติประเทศไทยไทม์ไทร์อัล 1 กม. ในรุ่นเยาวชนได้สำเร็จในปี 2566 โดยทำสถิติได้ 10.05.491 นาที และนั้นหมายถึงสามารถทำลายสถิติในรุ่นทั่วไปของ "เจ้าอูม" จตุรงค์ นิวันติ ที่ทำไว้ในปี 2564 ด้วยสถิติ 1.05.508 นาที แต่ด้วยระเบียบการแข่งขันที่สมาคมฯ กำหนดไว้ แข่งรุ่นไหนสถิติที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ก็ต้องเป็นของรุ่นนั้นจะข้ามรุ่นขึ้นไปไม่ได้
"แนว" และ "โค้ชนนท์" จึงต้องนำเอากลับไปเป็นโจทย์เพื่อให้ฝึกหนักและทำตามเป้าหมายสู่การพังสถิติไทม์ไทร์อัล 1 กม.ในรุ่นทั่วไปชายและปี 2567 "แนว" ต้องขยับรุ่นมาเล่นในร่นทั่วไป เนื่องจากเป็นดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย และแชมป์เอเชีย การลงแข่งขันในรุ่นเยาวชนจะทำให้ "แนว" พัฒนาได้ยากเพราะแนวคือนักกีฬาที่เก่งที่สุดในรุ่นแล้ว และเมื่อขยับมาแข่งขันกับรุ่นพี่ระดับมือกระกาฬและมากประสบการณ์ "แนว" ที่อายุน้อยที่สุดในรุ่น ต้องขิวเข้มหนักขึ้นโดยมีเป้าหมายที่จะเป็นของสถิติไทม์ไทร์อัลในรุ่นทั่วไปชาย
การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ใน 2 สนามแรก สถิติของแนวยังดีไม่พอที่จะขึ้นเป็นเจ้าของสถิติ แต่หลังจากที่แนวไปคว้าแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศอินเดีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ร่างกายและความแข็งแกร่งของแนว นั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากภาพการขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับโค้ชนนท์ ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนของตัวเองในประเภทคีริน และเจ้าแนวเฉือนเอาชนะโค้ชไปแบบฉิวเฉียด
ชัยชนะของลูกศิษญ์ ที่มีเหนือโค้ช มิใช่ศิษย์คิดล้างครู แต่โค้ชนนท์ ต้องการให้แนวได้พัฒนาตัวเองและกล้าที่จะแข่งกับนักปั่นที่มีประสบการณ์มากกว่า และทำให้แนวรู้ว่า การจะคว้าแชมป์ในรายการนี้ ซึ่งมีโค้ชนนท์เป็นเจ้าของแชมป์อยู่มันไม่ง่าย ก็ต้องฟาดฟันกับแชมป์เก่า อย่างโค้ชนนท์กันหน่อย แต่เมื่อแนวเอาชนะได้คนเป็นโค้ชก็ยิ้มรับผลการแข่งขันด้วยความภาคภูมิใจ!!!
แต่..คงจะไม่มีอะไรน่าภาคภูมิใจได้เท่ากับการพังสถิติประเทศไทย ไทม์ไทร์อัล 1 กม. ในรุ่นทั่วไปชาย ที่ "แนว" อัดมาเต็มที่สร้างสถิติใหม่ของประเทศไทยและเป็นสถิติที่ดีที่สุดของ ณ เวลานี้คือ 1.04.508 นาที ก้าวขึ้นเป็นเจ้าของสถิติประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พังสถิติของรุ่นพี่ "เจ้าอูม" จตุรงค์ นิวันติ ที่ทำไว้เมื่อปี 2564 ด้วยเวลา 1.05.644 นาที
การพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาเกือบ 5 ปี "แนว" มีเส้นทางที่ชัดเจนแล้วว่าจะส่งเสริมไปให้ไปทางด้านไหน ดาวน์ฮิลล์ และ บีเอ็มเอ็กซ์ ไว้แข่งภายในประเทศ แต่หากจะเน้นสู่ความเป็นเลิศ "แนว" เลือกที่จะจริงจังกับจักรยานลู่ ซึ่งหลังจากจบการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยสนามที่ 3 สมาคมฯ ก็มีแผนจะส่งแนวไปเก็บตัวที่เกาหลีใต้ เพื่อติวเข้มเพื่อเตรียมแข่งขัน จักรยานลู่เยาวชนชิงแชมป์โลก ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 21-25 สิงหาคม 2567
หลังจากนี้ "แนว" จะถูกส่งไปแข่งขันในระดับที่สูง ทั้งเวิลด์ คัพ , เวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ และโอลิมปิกเกมส์ แต่ก่อนที่ " แนว" จะก้าวไปถึงเกมใหญ่ระดับโลก "แนว" คือหนึ่งที่ถูกวางไว้สำหรับซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ และมีโอกาสที่จะลุ้นเหรียญทองกับสถิติที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน แต่เพื่อให้นักปั่นดาวรุ่งดวงนี้เจิดจรัสได้เต็มดวง พร้อมก้าวมาทดแทนรุ่นพี่ในอนาคต!!!