การสร้างจักรยานในอดีต ก็เป็นเหมือนงานคราฟต์ งานฝีมือในปัจจุบัน ต้องผ่านการใช้สมองและสองมือ ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา แล้วค่อยนำมาประกอบรวมร่างขึ้นมาเป็นจักรยาน เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์และนวัตกรรม ดังจะเห็นได้จากงานจักรยานสมัยก่อน ที่ต้องวัด ตัด เชื่อม รวมถึงการลงสีและขัดเงา ไม่ใช่ทำเพื่อให้นักกีฬาอาชีพไปใช้เพื่อคว้าชัยชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนงานศิลปะชั้นเลิศให้กับคนที่ชื่นชอบ ได้สะสมครอบครอง และยิ่งมีความสุขเพิ่มทวีคูณเมื่อได้ปั่นในสิ่งที่ตัวเองหลงใหล
ในยุคที่อุตสาหกรรมเหล็กเฟื่องฟู (Iron Age: ปีศตวรรษที่ 18-19) ก็เป็นช่วงเดียวกับจักรยานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีการก่อตั้งแบรนด์จักรยาน ขึ้นมาหลายๆ แบรนด์ ทั้งในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี เนเธอแลนด์ อังกฤษ และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ก็ยังได้ก่อกำเนิดการแข่งขันจักรยานรายการแข่งขันสำคัญๆ ระดับโลกด้วยเช่นกัน เช่น Paris–Roubaix ปี ค.ศ. 1896, Tour de France ปี ค.ศ. 1903, Giro d'Italia ปี ค.ศ. 1909
หลายๆ แบรนด์ประสบความสำเร็จในการสร้างจักรยานและผลิตอุปกรณ์ รุ่งเรือง โด่งดังเป็นดาวเด่น อยู่ในระดับหัวแถวของวงการ แต่พอมาถึงปัจจุบันกลับเหลือเพียงแต่ชื่อให้ผู้คนได้นึกถึง ถ้าจะนับกันจริงๆ ก็เหลือไม่กี่แบรนด์ที่ยังคงอยู่ยั้งยืนยงมาได้และยังคงดำเนินงานสืบสานตำนานแห่งความรุ่งเรือง แม้จะเปลี่ยนมาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 3D มาช่วยออกแบบ ใช้คาร์บอนแทนโลหะ ใช้ AI เข้ามาเป็นส่วนร่วมในการทำงาน และหนึ่งในแบรนด์ที่กล่าวมา นั่นก็คือ 3T แบรนด์จักรยานเก่าแก่จากประเทศอิตาลี ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการทำอุปกรณ์สำหรับจักรยานเพื่อใช้สำหรับการแข่งขัน เช่น แฮนด์ และ สเต็ม โดยมีแชมเปี้ยนระดับโลก ผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดการอย่าง "Eddy Merckx" ก็ใช้อุปกรณ์ของ 3ttt ในการลงแข่งขันด้วยเช่นกัน
จาก 3ttt ในอดีต แม้โลโก้จะเปลี่ยนมาเป็น 3T ที่สดใสและทันสมัย ก็ยังคงยืนหนึ่งในด้านการเป็นผู้นำนวัตกรรมในวงการจักรยานไม่เปลี่ยนแปลง สุดล้ำมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ยิ่งเป็นนักปั่นในยุคสับถัง (Downtube shifters) พูดได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก 3ttt โดยในทุกวันนี้อุปกรณ์ชิ้นใดที่ใช้ตราสัญลักษณ์ 3ttt ก็กลายเป็นของแรร์ไอเทมที่นักสะสมจักรยานทั่วโลกต่างถวิลหามาไว้ในครอบครอง
ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1970 เป็นต้นมาจนถึงปี ค.ศ. 2000 ถือได้ว่าเป็น 30 ปีทองของ 3T ที่มีการผลิตคิดค้นอุปกรณ์สำหรับจักรยานขึ้นมามากมาย ปี ค.ศ.1975 "SuperLeggera" แฮนด์ดรอปสำหรับเสือหมอบที่เบาที่สุดในโลก, ปี ค.ศ.1989 Forma SL แฮนด์เสือหมอบที่เปลี่ยนช่วงดรอปจากโค้งครึ่งวงกลมเป็นตัดลาด, ปี ค.ศ. 1992 เป็นผู้ออกแบบและผลิตแฮนด์สำหรับจักรยานประเภท TT ที่ปรับเปลี่ยนได้มากที่สุด ในรุ่น BioQuartetto และในปี ค.ศ.1994 เป็นผู้คิดค้นถ้วยคอแบบหนีบ (Threadless Headset) นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
แม้วันเวลาจะผ่านมาอีกเป็นทศวรรษจนเข้าสู่ยุคปี 2000 มีการใช้คาร์บอนไฟเบอร์เข้ามาแทนอลูมิเนียม เปลี่ยนสัญลักษณ์จาก 3ttt มาเป็น 3T ก็ยังคงเป็นผู้นำนวัตกรรมในวงการจักรยานอยู่เช่นเดิม โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเรียกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ชุด cockpit จาก 3T คือ แฮนด์ สเต็ม และหลักอาน ซึ่งมีทั้งอลูมิเนียมและคาร์บอน พ่วงตามมาด้วยล้อประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีทั้งขอบอลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน
แต่ที่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ 3T จริงๆ คือ ได้เพิ่มสายการผลิตจากผู้ผลิตอุปกรณ์จักรยาน เช่น แฮนด์ สเต็ม หลักอาน ล้อ และ ตะเกียบ มาเป็นผู้ผลิตจักรยาน โดยได้วิศวกรและผู้ร่วมก่อตั้งจาก Cervélo เข้ามาร่วมงานกับ 3T ด้วย
ในเมื่อ 3T คือเจ้าแห่งชุด Cockpit (สเต็ม แฮนด์ และหลักอาน) มาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน นักปั่นระดับโลกใช้ลงแข่งขันจนได้รางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วน จากวันนั้นถึงวันนี้ 3T ก็ยังคงมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้จะเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี AI และการใช้วัสดุอวกาศอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ จนถึงขนาดตั้งโรงงานในประเทศอิตาลี เพื่อคิดค้นและผลิตจักรยาน และการวิจัยต่างๆ ซึ่งเป็นที่มาของจักรยานในรุ่นต่างๆ ของ 3T ในรุ่นพิเศษที่เป็น "ITALIA"
ในคราวหน้าเราจะมาดูกันว่า รุ่นพิเศษ ของ 3T ที่เป็น Made in Italy นั้นมีความพิเศษยังไง ทำไมใครๆ ก็อยากได้มาไว้ในครอบครอง ติดตามกันให้ได้นะครับ แล้วพบกันครับ
โดย: เกม พัสกร