หลังจากที่ไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตันส่งท้ายปี "บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022" แทนที่ของจีน ที่ติดในเรื่องสถานการณ์โควิด-19 จากการที่รัฐบาลของจีนยังคงใช้นโนบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid)
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้ประกาศ 8 อันดับแรกของแต่ละประเภทออกมาเป็ยที่เรียบร้อย โดยประเทศไทยได้สิทธิ์เข้าร่วมถึง 10 คน จาก 3 ประเภท ประกอบไปด้วย หญิงเดี่ยว "เมย์" รัชนก อินทนนท์ และ "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ , ประเภทหญิงคู่ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ และ "อันนา" นันทกาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด , ประเภทคู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ
"ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ กับ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน
คู่พี่น้อง อันนา กับ มูนา ที่ในปีนี้ เป็นปีที่บยอดเยี่ยมของทั้งคู่เลยก็ว่าได้ จากการคว้าแชมป์อินเดีย โอเพ่น ระดับเวิลด์ทัวร์ 500 เป็นการประเดิมปี 2022 ต่อด้วยรองแชมป์โคเรีย โอเพ่น และ กวาดอีก 2 แชมป์ และ 1 รองแชมป์ในช่วงปลายปี ได้แก่ เวียดนาม โอเพ่น , ไฮโล โอเพ่น และ ออสเตรเลียน โอเพ่น เป็นคู่ที่มีการพัฒนาขึ้นมากจากปีก่อน และขึ้นมาอยู่คู่อันดับ 14 ของโลกในการจัดอันดับสัปดาห์ล่าสุด ไม่แพ้คู่รุ่นพี่อย่าง กิ๊ฟ จงกลพรรณ กับ วิว รวินดา ที่ได้สิทธิ์มาเล่นรายการนี้ในมือวางอันดับ 6 ของรายการ
สำหรับคู่กิ๊ฟ-วิว นั้น ก็ยังรักษาฟอร์มการเล่นได้คงเส้นคงวาอย่างต่อเนื่อง โดยสามาารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศในรายการระดับเวิลด์ทัวร์ไปถึง 4 รายการ และสามารถปลดล็อกคว้าชัยเหนือคู่มือ 1 ของโลกอย่าง เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน ได้เป็นครั้งแรกได้สำเร็จในอินโดนีเซัย โอเพ่น
อีก 1 คู่ที่กำลังมาแรงก็คือ คู่ของ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ กับ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่ผสมดาวรุ่งที่ปัจจุบันอยู่ในอันดับ 9 แต่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันเป็นครั้งแรก แทนที่คู่ ยูตะ วาตานาเบ้ กับ อลิสะ ฮิกาชิโนะ จากญี่ปุ่น ที่ได้ถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้ ในปีนี้ทั้งคู่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว โดยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศถึง 2 รายการในเดนมาร์ก โอเพ่น เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา , มาเลเซีย โอเพ่น ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา และเข้ารอบก่อนรงอชนะเลิศ ไทยแลนด์ โอเพ่น ระดับเวิลด์ทัวร์ 500 ที่เมืองไทยในช่วงเดือนพ.ค.
ด้านคู่รุ่นพี่อย่าง "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 1 ของโลก และแชมป์เก่าถึง 2 สมัย แม้ในปีนี้ฟอร์มการเล่นที่ไม่เหมือนเดิม จากการตกรอบ 3 ในศึกชิงแชมป์โลก และเข้าชิงชนะเลิศ 5 รายการ แต่คว้าแชมป์มาเพียง 3 รายการในศึกเยอรมัน โอเพ่น , สิงคโปร์ โอเพ่น และ เจแปน โอเพ่น ส่งผลอันดับโลกนั้นตกลงไปแต่ก็ยังประคองผลงานจนกลับขึ้นมารั้งมือ 1 ของโลกได้อีกครั้ง
แต่ในปีนี้ คู่ของบาส กับ ปอป้อ ต้องเจอคู่ปรับตลอดกาลอย่าง คู่เจิ้ง ซีเว่ย กับ หวง ย่าเฉียงจากจีนในช่วงกลางปีที่ผ่านมา จากคว้าแชมป์ในรายการระดับเวิลด์ทัวร์ถึง 7 รายการ รวมไปถึงการคว้าแชมป์โลก และ ชิงแชมป์เอเชีย ส่งผลให้คู่ของบาส กับ ปอป้อ ต้องทำงานให้หนักกว่าเดิมในการป้องกันแชมป์รายการนี้ให้ได้อีกครั้ง
มาปิดท้ายกันด้วยประเภทหญิงเดี่ยว ที่น่าจับตองก็แน่นอน "เมย์" รัชนก อินทนนท์ มือ 7 ของโลก ที่เจ้าตัวตั้งเป้าจะคว้าแชมป์รายการนี้ในบ้านของตัวเองให้ได้ หลังจากที่ต้องผิดหวังเมื่อปี 2021 จากการตกรอบแบ่งกลุ่ม ในปีนี้ เมย์ จะคว้าแชมปไปเพียงรายการเดียว ที่มาเลเซีย โอเพ่น ด้วยดารปราบ เฉิน ยู่เฟย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกจากจีน และเป็นการเอาชนะ ยู่เฟย ครั้งที่ 3 จากการพบกัน 19 ครั้งหลังสุด
และอีก 1 คนที่ได้สิทธิ์ในประเภทนี้ก็คือ "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ หญิงเดี่ยวมือ 10 ของโลก สาวน้อยวัย 26 ปี ประเดิมปี 2022 ด้วยการคว้าแชมป์อินเดีย โอเพ่น และ ครีม บุศนันทน์ ก็ยังสามารถทำผลงานอย่างน่าประทับใจจบสามารถขึ้นมาอยู่ท็อป 10 ของโลก และเป็นนักแบดมินตันไทยคนที่ 2 ในประเภทหญิงเดี่ยวที่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันในรายการนี้
และในสัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์ที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยที่รอจะไปชมกันถึงสนามแข่งขันกันเสียที หลังจากที่ปี 2021 เป็นการแข่งขันแบบปิดไม่มีผู้ชมในสนามจากสถานการณ์ของโควิด-19 ศึกบีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022 แฟนๆแบดมินตันไทยสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่ ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และติดตามตามการถ่ายทอดสดได้ที่ SPOTV , True Sport 3 , True Sport 7 และ TRUE4U ช่อง 24