วงการแบดมินตันไทยในเวลา มีนักกีฬาดาวรุ่งหลายคนที่กำลังพัฒนาฝีมือ โดยวางโปรแกรมออกแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และไล่ล่าคะแนนสะสมโลกกันหลายคน
ชื่อของ "น้องบูม" ธิดาพร กลีบยี่สุน ดาวรุ่งวัย 19 ปี จากสโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอด ถือเป็นอีกหนึ่งนักกีฬาแบดมินตันไทยที่น่าจับตามอง โดยสามารถเล่นได้ทั้งมือเดี่ยวและมือคู่ ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งคว้าแชมป์หญิงเดี่ยว ในรายการ แบดมินตัน ศรีลังกา อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรี่ส์ มาครอง ด้วยการเฉือนเอาชนะรุ่นพี่ อย่าง "จิว" ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ ไป 2-1 เกม
ขณะที่ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น "น้องบูม" ก็จับคู่กับนักตบลูกขนไก่รุ่นพี่ "หว่าหวา" นัทธมน ไล้สวน คว้ารองแชมป์หญิงคู่ แบดมินตัน ศรีลังกา อินเตอร์ ชาลเลนจ์ 2025 ที่ศรีลังกา มาครองได้ กลายเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของ ธิดาพร กับ 2 สัปดาห์ในการออกแข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งได้มา 1 แชมป์ และ 1 รองแชมป์
จากผลงานที่ยอดเยี่ยมในช่วงต้นปีปฏิทิน 2025 ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัวได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงในปีนี้ "น้องบูม" วางเป้าหมายในการเล่น และตั้งหมุดหมายในการลงแข่งขันเอาไว้อย่างไรบ้าง นี่คือบทสัมภาษณ์ทั้งหมดที่เจ้าตัวได้เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ต
พูดถึงฟอร์มโดยรวมใน 2 รายการล่าสุดที่ศรีลังกา ที่ได้แชมป์หญิงเดี่ยวและรองแชมป์หญิงคู่ มาหน่อย ?
น้องบูม : "ถือว่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเล่นที่ดีเลยค่ะ แล้วก็ถือเป็นรางวัลที่ตอบแทนความพยายามที่ดีด้วยค่ะ อย่างแชมป์หญิงเดี่ยว ศรีลังกา อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ก็ถือเป็นแชมป์หญิงเดี่ยวที่ 2 ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาของหนูค่ะ ต่อจากแชมป์ โตโยต้า ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ปีก่อน ส่วนหญิงคู่ก็ถือว่าผลงานถือว่ากำลังไปได้ดีค่ะ เมื่อมี.ค.ปีก่อน เพิ่งได้แชมป์ โตโยต้า อินเตอร์เนชั่นแนล ชาเลนจ์ โดยรวมถือว่าผลงานและฟอร์มการเล่นน่าพอใจค่ะ มองว่าฟอร์มของตัวเองโดยรวมมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาจากช่วงก่อนๆ"
หลังจากนี้แฟนๆจะได้ติดตามน้องบูมในการแข่งขันรายการใดอีกบ้าง ?
น้องบูม : "หลังจบรายการที่ศรีลังกา ช่วงสิ้นเดือนมี.ค.นี้ หนูมีไปแข่งขันรายการโยเน็กซ์ ซันไรท์ เวียดนาม อินเตอร์เนชั่นแนล ชาเลนจ์ ค่ะ แข่งขัน 25-30 มี.ค. จบรายการที่เวียดนามแล้ว ก็จะมีแข่งขันโตโยต้า ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ต่อ ที่ภูเก็ต ระหว่าง 1-6 เม.ย.นี้ ต่อค่ะ"
ที่ผ่านมามีโอกาสได้แข่งกับมืออันดับโลกที่สูงกว่าด้วย ได้รับประสบการณ์อย่างไรบ้าง ?
น้องบูม : "ถ้านับที่เจอกับมือระดับโลก ล่าสุดก็คงเป็นแมตช์ที่เจอกับ ซิม ยูจิน มือ 24 ของโลก จากเกาหลีใต้ ในรอบ 16 คนสุดท้าย รายการไทยแลนด์ มาสเตอรส์ 2025 ที่บ้านเราค่ะ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ เพราะหนูเองก็ยังไม่มีโอกาสเจอกับมือระดับนี้มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอันดับโลกเรายังไม่ดีพอจะได้เล่นในรายการที่สูงในระดับเวิลด์ทัวร์"
"เกมนั้นก็มีประหม่า ตื่นเต้น และเกร็งเหมือนกันค่ะ ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกับนักกีฬามือสูงๆแบบนี้นัก คือพอตีๆไปเริ่มตื้อค่ะ เขาเหนียวแล้วก็เด็ดขาด เหมือนตีๆไปเราทำอะไรเขาไม่ได้ ก็ยิ่งกังวลค่ะ ซึ่งโค้ชก็บอกให้อดทน เล่นให้ชัวร์ เล่นให้อดทน และค่อยๆหาจังหวะบุกใส่เขา ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้และทำได้ดีประมาณหนึ่งค่ะ แม้จะไม่ได้เป็นผู้ชนะในแมตช์ แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่ดีทั้งวิธีการเล่น การตีกับมือระดับโลก กลับมาพัฒนาตัวเองค่ะ"
ตั้งเป้าหมายของตัวเองในปี 2025 ไว้อย่างไรบ้าง ?
น้องบูม : "หนูอยากจะทำอันดับโลกให้สูงขึ้นกว่านี้ค่ะ อย่างหญิงเดี่ยวก่อนได้แชมป์ที่ศรีลังกา อันดับอยู่ 100 ซึ่งก็ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เคยทำได้แล้ว และเมื่อ 11 มี.ค.68 ก็ขยับขึ้นมาอีกมาอยู่ที่ 90 ของโลกแล้วค่ะ ส่วนตัวอยากจะไต่ไปให้อยู่ในท็อป 50 ของโลกให้ได้ค่ะ เช่นกันกับหญิงคู่ อันดับล่าสุดกับพี่หว่าหวา-นัธทมน อยู่ที่ 62 ของโลก ก็อยากจะเข้าไปติดท็อป 50 ของโลกให้ได้ค่ะ ซึ่งปีนี้ก็จะพยายามเก็บเกี่ยวคะแนนให้ได้เยอะที่สุด แน่นอนว่าถ้าอันดับโลกดี ก็จะยิ่งได้เล่นใน
ระดับเวิลด์ทัวร์มากขึ้นด้วย ก็มองว่าอยากจะเล่นเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 และ 500 ให้ได้สม่ำเสมอ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งกว่านี้ค่ะ"
บริหารจัดการเรื่องการเรียนกับการแข่งขันให้ไปควบคู่กันอย่างไรบ้าง ?
น้องบูม : "ตอนนี้หนูเรียนอยู่ที่ ชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ ม.หอการค้าไทยค่ะ ก็เรียนที่เดียวกับพี่มินนี่ ธมลวรรณ นิธิอิทธิไกร ถือว่าสถาบันดูแลและให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีค่ะ อย่างหนูเป็นเรียนแบบพิเศษภาควันเสาร์ ถ้าตรงกับช่วงที่ต้องเดินทางไปแข่งทั้งในและนอกประเทศ อาจารย์ที่สอนก็จะพยายามให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วยค่ะ"
ตอนนี้ติดตามผลงานและดูฟอร์มการเล่นของนักแบดมินตันคนไหนอยู่บ้าง ?
น้องบูม : "ถ้าเป็นหญิงเดี่ยว หลักๆก็จะตาม อัน เซยอง มือ 1 ของโลก จากเกาหลีใต้ค่ะ หลักๆก็จะดูวิธีการเล่นเกมบุกของเขา แล้วก็พยายามจะนำมาปรับใช้ ส่วน อากาเนะ ยามากูชิ ก็เป็นนักแบดมินตันอีกคนค่ะที่ติดตามอยู่ ก็ดูวิธีการเล่นเกมรับของเขาค่ะ เขาเป็นนักกีฬาที่เหนียวแน่นมากในเกมรับ ก็พยายามดูว่าเราสามารถนำสิ่งดีๆของเขามาปรับใช้อะไรได้บ้าง ส่วนชายเดี่ยว หนูชอบ โจนาธาน คริสตี้ มือ 3 ของโลก จากอินโดนีเซีย ค่ะ มองว่าเขาครบเครื่องมาก โดยเฉพาะเกมบุก ซึ่งเขาเองเป็นผู้เล่นที่แข็งแรง เล่นเกมบุกดุดัน ด้วยความที่เขาเป็นสายบุกธรรมชาติอยู่แล้ว บวกกับหนูเองก็เป็นสายบุกด้วย ก็เลยยิ่งชอบค่ะ"
"ส่วนประเภทคู่ หนูก็ดูและติดตามผลงานของหลายๆคนอยู่ค่ะ เพราะเราเองก็เล่นมือคู่ด้วย อย่าง หญิงคู่ก็จะมีตามคู่ของ เบ็ค ฮานา กับ ลี โซฮี หญิงคู่มือ 1 ของโลกค่ะ ก็ชอบในความเหนียวแน่นของคู่นี้ แล้วก็ตามคู่ของจีน เฉิน ยิง เฉิน กับ เจี๋ย ยี่ฟาน คู่มือ 4 ของโลกค่ะ คู่นี้ก็จะมีความดุดัน แข็งแกร่ง ก็พยายามดูและนำมาปรับใช้ ส่วนชายคู่ก็มีตาม โซ ซึงแจ ค่ะ ของเกาหลีใต้คะ มองว่าเขาครบเครื่องมากๆคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเล่นประเภทชายคู่กับใคร หรือคู่ผสม"
"ถ้าเป็นในไทย ก็ตาม พี่บาส เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ค่ะ ถ้าตอนมือคู่ก็ต้องยกให้พี่บาสเลยค่ะ ครบเครื่องมาก ทั้งเรื่องพลังงาน เรื่องของความดุดัน ความแข็งแรง แล้วก็เป็นผู้เล่นที่มักจะสร้างความได้เปรียบในการเล่นให้กับตัวเองและคู่ได้อยู่เสมอค่ะ"
มองว่าตัวเองยังต้องปรับอะไรเพิ่มเติมบ้าง ?
น้องบูม : "เรื่องเทคนิคและทักษะบางอย่างหนูมองว่าจะสามารถพัฒนาเพิ่มไปได้อีกค่ะ หากได้แข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้นกว่านี้ แต่หลักๆที่ต้องปรับอีกก็น่าจะเป็นเรื่องของสภาพจิตใจ ซึ่งก็ต้องนิ่งกว่านี้ รวมถึงเรื่องสภาพร่างกาย ซึ่งก็ต้องทำให้แข็งแกร่งกว่านี้ และเรื่องของระบบความคิด การจัดการกับตัวเองและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ"