รอบชิงชนะเลิศ "หมิว" ซึ่งเป็นมือ 8 ของโลก และมือวางอันดับ 1 ของรายการ ฮึดจากที่เสียเกมแรกให้กับ โคมัง อายู คาย่า เดวี มือ 8 ของรายการ มือ 45 ของโลก จากอินโดนีเซีย ไปก่อน 18-21 กลับมาเอาชนะได้ใน 2 เกมถัดมา 21-16 และ 21-13 ทำให้ "หมิว" พลิกกลับมาชนะ คว้าแชมป์ พร้อมกับคว้าเงินรางวัล 18,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 608,309 บาท ไปครอง ต่อหน้าแฟนๆแบดมินตันไทย

แชมป์ไทยแลนด์มาสเตอร์ส 2025 ถือเป็นการปลดล็อคหลังเจ้าตัวห่างหายกับการได้สัมผัสถ้วยแชมป์มานานเกือบ 2 ปีลง ซึ่งแชมป์ล่าสุดที่ "หมิว" ทำได้ คือการคว้าแชมป์ รายการ สวิส โอเพ่น เมื่อเดือนมี.ค.2023 ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ หรือถ้าเอาเป๊ะๆก็เป็นเวลา 1 ปี 10 เดือนแล้ว ที่ห่างหายความสำเร็จ

หลังจากได้แชมป์ดังกล่าวที่สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมี.ค.2023 "หมิว" ไม่สามารถคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ในเวิลด์ทัวร์ หรือเฉียดเข้าใกล้แชมป์ อย่างการผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศรายการใดๆในเวิลด์ทัวร์ได้เลย

อาการบาดเจ็บและอาการป่วยที่รบกวนอยู่เป็นระยะๆ ส่งผลกับฟอร์มในสนาม โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ หลังจากจบปี 2023 ทำให้เจ้าตัวต้องพักยาวไปราว 2-3 เดือน ซึ่งแม้จะกลับมาแข่งขันได้ในช่วงต้นปี 2024 แต่ก็ยังมีอาการพะว้าพะวงกับการใช้หัวไหล่ ซึ่งก็ต้องปรับจูนอยู่พักใหญ่ ทำให้เจ้าตัวมักจะทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งก็มีหลายๆรายการที่แพ้ให้กับมือรองบ่อนตกรอบไปไม่น้อย

นั่นทำให้ในปี 2024 เจ้าตัวมีผลงานและฟอร์มการเล่นที่อาจจะไม่ได้ไฉไลถูกใจแฟนๆที่ตามเชียร์ เหมือนช่วงที่พุ่งขึ้นมาสร้างผลงานในช่วงปี 2020-2021 ที่มีทั้งคว้าแชมป์สเปน มาสเตอร์ส ในปี 2020 แชมป์เวิลด์ทัวร์แรก รวมไปถึงเข้าไปคว้ารองแชมป์รายการใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก อย่าง ออลอิงแลนด์ 2021 นัก

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ในการแข่งขันที่มีมากอยู่พอตัว บวกกับวิธีคิดซึ่งเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวกีฬาสยามว่า พยายามมองบวกอยู่เสมอ เพื่อมองข้ามความกดดันและลดความคาดหวังในการลงสนาม ก็ช่วยให้เจ้าตัวกลับคืนสู่การเป็นแชมเปี้ยนในระดับเวิลด์ทัวร์ได้อีกครั้งที่ประเทศไทย ซึ่งแม้ไม่ใช่รายการใหญ่ โดยเป็นรายการระดับเวิลด์ทัวร์ซูเปอร์ 300 แต่ก็ถือเป็นแชมป์ที่ช่วยดึงความมั่นในการเล่นของ "หมิว" ให้กลับมา

สำหรับ "หมิว" เปิดฉากปี 2025 ได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว หลังระเบิดฟอร์มเก่งเข้าไปชิงกับ อัน เซยอง มือ 1 ของโลก จากเกาหลีใต้ ได้ในศึกอินเดีย โอเพ่น 2025 รายการเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

น่าเสียดายที่ "หมิว" ในทัวร์นาเมนต์นั้น "หมิว" ต้องเจอคู่แข่งโหดๆ ทั้ง เกา ฟังเจี๋ย และ หาน หยู่ สองมือดีของจีน รวมถึง โทโมกะ มิยาซากิ จากญี่ปุ่น ทำให้ต้องทุ่มเทอย่างหนักและรีดพละกำลังออกมาใช้อย่างหนักเพื่อปราบมือดีทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งก็ทำให้การเจออัน เซยอง ในรอบชิงฯ "หมิว" ที่ดูจะไม่พร้อมนักในเรื่องของร่างกาย  จึงเป็นฝ่ายพ่ายไป 0-2 เกม

หลังจากนั้นรายการในรายการ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2025 ช่วงกลางเดือน ม.ค. "หมิว" ก็มาป่วยจากอาการท้องเสียอีก ทำให้สุดท้ายเข้าไปถึงแค่รอบ 16 คน ก่อนสุดท้ายจะงัดฟอร์มเก่ง คว้าแชมป์ไทยแลนด์ มาสเตอร์ 2025 ซึ่งเป็นแชมป์เวิลด์ทัวร์รายการที่ 3 ของ "หมิว" และเป็นแชมป์แรกในรอบ 1 ปี 10 เดือน

ชัยชนะที่ประเทศไทย ส่งผลให้ พรปวีณ์ ขยับจากอันดับ 8 ขึ้นมารั้งที่ 6 ของโลก ตามการสรุปอันดับโลกประจำสัปดาห์ของสหพันธ์แบดมินตันโลก เมื่อ 4 ก.พ.2025 ซึ่งนี่คืออันดับโลกที่ดีสุดของ "หมิว" นับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพมาเลย ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักแบดมินตันหญิงไทย ที่มีอันดับโลกสูงสุด ณ เวลานี้

เส้นทางของ พรปวีณ์ หลังจากคว้าแชมป์ และขยับขึ้นสู่มือ 6 ของโลกในประเภทหญิงเดี่ยวได้แล้ว อาจบอกได้ว่าสร้างความมั่นใจให้ "หมิว" ได้เป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆกีฬาทุกคนต่างก็อยากเห็นเจ้าตัวไม่เจ็บไม่ป่วย พร้อมรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจแบบนี้เอาไว้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อลุยสร้างผลงานในเวิล์ดทัวร์ ซึ่งรายการต่อไปนั้น "หมิว" จะกลับมารับใช้ชาติ พร้อมนำทัพนักตบลูกขนไก่ไทย ลุยศึกแบดมินตันทีมผสมเอเชีย 2025 ที่จีน ระหว่าง 11-16 ก.พ.นี้