หลัง "น้องพิ้งค์" พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันหน้าหวาน จากเชียงใหม่ ก้าวขึ้นคว้าแชมป์แบดมินตันเยาวชนโลก 2023 ที่สหรัฐฯ เมื่อเดือนพ.ค.2023 พร้อมกับขึ้นครองมือ 1 เยาวชนโลกได้สำเร็จในเวลาต่อมา ทำให้หลายฝ่ายต่าง ก็คาดหมายว่าเจ้าตัวจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของวงการแบดมินไทยในระยะเวลาหลังจากนั้น
ในปี 2024 ถือเป็นปีที่ท้าทายสาวน้อยวัย 18 ปีเจ้าตัวเป็นอย่างมาก เพราะขยับจากรุ่นเยาวชนมาแข่งขันในรุ่นโอเพ่นหญิง หรือระดับประชาชนหญิงเต็มตัว ด้วยกับการลงชิงชัยในระดับเวิลด์ทัวร์
อย่างไรก็ตามผลงานของ "พิ้งค์" ยามลงเล่นในรายการระดับเวิลด์ทัวร์ 2024 ลงสนามรวม 8 รายการ กลับยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ โดยผลงาน 8 รายการในระดับเวิลด์ทัวร์ 2024 ของ "น้องพิ้งค์" มีดังนี้
เริ่มต้นด้วยศึกอินโดนีเซีย มาสเตอร์ เมื่อ 23-28 ม.ค. 67 เจ้าตัวตกรอบคัดเลือกรอบแรกในชนิดที่ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บในเกมที่สอง ระหว่างพบกับ เอสเตอร์ นูรูรูมิ ทรี วาร์โดโย จากอินโดนีเซีย
หลังรักษาจนหาย “น้องพิ้งค์” กลับมาแข่งขันอีกครั้งในศึกโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อ 14-19 พ.ค. 67 แต่ต้องกระเด็นตกรอบ 16 คนสุดท้าย ด้วยการแพ้ให้กับรุ่นพี่ "เม" ศุภนิดา เกตุทองจากไทย 0-2 เกม 13-21, 16-21
ก่อนที่ในรายการ วิคเตอร์ โคซุยชิง มาสเตอร์ เมื่อ 13-23 มิ.ย.67 จะตกรอบ 32 คนสุดท้าย หลังแพ้ต่อ เคยูร่า โมปาติ
จากอินเดีย 0-2 เกม 19-21, 18-21 ตามด้วยการตกรอบ 16 คนสุดท้าย ในศึก เบาโอจิ ไชน่า มาสเตอร์ เมื่อ 6-11 ส.ค. หลังแพ้ ฮัน เฉียน ซี จากจีน 1-2 เกม 11-21, 21-14, 16-21
จากนั้นในรายการ โคเรีย โอเพ่น เมื่อ 27 ส.ค. - 1 ก.ย. ตกรอบคัดเลือกรอบแรก ด้วยการแพ้ให้กับ คิม จู อึน จากเกาหลีใต้ 1-2 เกม 21-23, 21-15, 18-21 ขณะที่ศึก โยเน็กซ์ ไทเป โอเพ่น เมื่อ 3-8 ก.ย. ก็ตกรอบคัดเลือกรอบ 2 หลังแพ้ ฮุง ยี่-ถิง จากไต้หวัน 1-2 เกม 20-22, 21-15, 13-21
ในศึกฮ่องกง โอเพ่น เมื่อ 10-15 ต.ค. เจ้าตัวตกรอบ 32 คน หลังปราชัยให้กับ เหยา เจีย หมิน จากสิงคโปร์ 1-2 เกม 21-23, 21-18, 16-21 ต่อด้วย มาเก๊า โอเพ่น เมื่อ 24-29 ก.ย. ตกรอบคัดเลือกรอบแรก หลังแพ้ ได่ หวัง จากจีน 1-2 เกม 21-14, 18-21, 24-26 ล่าสุดศึกโคเรีย มาสเตอร์ เมื่อ 5-10 พ.ย. ตกรอบ 16 คน หลังแพ้ โทโมกะ มิยาซากิ คู่แข่งร่วมรุ่นคนสำคัญ จากญี่ปุ่น 1-2 เกม 21-18,16-21, 10-21
ขณะที่ศึกเยาวชนชิงแชมป์โลก 2024 ที่แข่งขันไปเมื่อ 30 ก.ย. - 5 ต.ค. ก็มีอันต้องพลาดท่าตกรอบ 16 คนสุดท้าย ในประเภทหญิงเดี่ยวที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่า หลังพ่าย อี้ ชิง หยิน จากจีน 1-2 เกม 13-21, 21-18, 18-21 พลาดโอกาสเข้าไปป้องกันแชมป์อย่างน่าเสียดาย
ผลงานที่ไม่เปรี้ยงไม่ปังดังหวัง หลักๆน่าจะมาจากปัจจัย 2 เรื่อง ก็คือเรื่องของสภาพร่างกายและประสบการณ์ อย่างเรื่องสภาพร่างกายนั้น "น้องพิ้งค์" มีอาการบาดเจ็บรบกวนเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกับฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวโดยตรงในสนาม รวมถึงความแข็งแรงและทนทานที่จำเป็นมากในการแข่งขันยุคนี้ นี่ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถรีดศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ยามลงสนาม ซึ่งปัญหานี้เจ้าตัวเผชิญหน้ากับมันทั้งในและนอกสนาม
การขยับขึ้นมาแข่งขันในระดับเวิลด์ทัวร์อย่างเต็มตัวปีแรก ทำให้ "น้องพิ้งค์" เจอกับยอดฝีมือหรือนักกีฬาที่เก่งและแกร่งกว่าระดับเยาวชน หรือรายการระดับเล็กๆที่เคยลงแข่ง แม้ฝีมือไม่ธรรมดา แต่แน่นอนว่าเจ้าตัวย่อมเป็นรองในเรื่องของประสบการณ์ในสนามแข่งขัน
ขวบปี 2024 จึงอาจถือได้ว่าเป็นปีแห่งการเรียนรู้ ซึ่งเจ้าตัวเองได้รับประสบการณ์สุดล้ำค่าทีเดียวเพื่อกลับมาพัฒนาตัวเอง ทั้งเรื่องของประสบการณ์ ซึ่งยังมีเวลาให้เจ้าตัวเก็บเกี่ยวอีกมาก รวมถึงไปถึงเรื่องของร่างกาย ซึ่งต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งมากกว่านี้ หากต้องการเอาชนะคู่แข่งที่แกร่งกว่า มีมืออันโลกสูงกว่า
"น้องพิ้งค์" เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยาม ในงานฉลองครบรอบ 5 ปี โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เมื่อเร็วๆนี้ว่า สำหรับผลงานของตนเองในปี 2024 ยอมรับว่ายังทำได้ไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังมีอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายขาดที่ต้นขาด้านใน ซึ่งก็มีการฉีกเล็กน้อย ทำให้ต้องหยุดแข่งไปหลายเดือนและอันดับโลกตกลงมา 119 ในเวลานี้ แต่ในปี 2025 ตนก็ตั้งเป้าแล้วว่าจะทำให้ดีที่สุดและมีเป้าหมายว่าจะกลับไปอยู่ใน 40 อันดับแรกของโลกให้ได้
"ปีหน้าอยากจะแข่งขันให้เยอะขึ้นกว่านี้ค่ะ อยากกลับไปอยู่ในอันดับที่ประมาณ 30-40 ส่วนสำหรับการแข่งซีเกมส์ 2025 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ถ้ามีโอกาส ก็อยากมีชื่อลงรับใช้ชาติเช่นกัน ส่วนการแข่งขันในปีนี้ ปี 2024 ยังมีคิวลงแข่งขันในศึกโอดิชา มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ 100 ในวันที่ ซึ่งจะมีขึ้น 10 -15 ธ.ค.นี้ ที่อินเดีย ส่วนตัวอยากจะทำผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้ให้ออกมาให้ที่สุดก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ"
ด้าน นพ.ณัฐพล ศิริโภคารัตนา ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ เวชศาสตร์การกีฬา ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เผยว่า "น้องพิ้งค์" ซึ่งเล่นกีฬาแบดมินตันมีการเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา ทั้งการบิด เอี้ยวตัวต่างๆ จะทำให้สร้างภาระต่อร่างกายบริเวณเส้นเอ็นเราอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องพยายามดูแลและรักษาสภาพด้วยการยืดตัว ซึ่งถ้าทำได้ดีถูกต้องก็จะทำให้มีอาการบาดเจ็บหรือฉีดขาดต่างๆลดลงไป
คุณหมอณัฐพล กล่าวต่ออีกว่า การเสริมสร้างกล้ามเนื้อเป็นส่วนที่สำคัญเช่นกัน ในส่วนของ "น้องพิ้งค์" มีการเสริมสร้างมาอย่างดี โดยพวกกล้ามเนื้อน่อง หรือข้อเข่าต่างๆจะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บและจะไปพยุงบริเวณข้อเข่าเมื่อเราบิดเข้าไป ก่อนเล่นหรือแข่งก็ควรวอร์มให้ดีก่อน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือการฉีกขาดของเอ็น
"สิ่งที่ต้องระวังก็คือ การฝึกซ้อม หากหนักเกินไปหรือมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้นได้และควรพักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนสภาพร่างกายของ "น้องพิ้งค์" มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าแต่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง ยังคงสามารถทำการแข่งขันในรายการที่อินเดียได้"