ในช่วงนี้แบดมินตัน เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเก็บคะแนนไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสกันแล้ว หลังจากเริ่มการเก็บคะแนนกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา
เหลือรายการแข่งขันอีกไม่มากแล้ว ที่นักแบดมินตันต่างพาเหรดกันขับเคี้ยวทำผลงานเก็บคะแนนในช่วงโค้งสุดท้ายกันอย่างเหนียวแน่น เช่นกันเดียวกับนักแบดมินตันไทย ที่ต่างกันทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อที่จะติดอันดับไปเล่นในโอลิมปิกเกมส์ 2024 นี้
สำหรับการคัดเลือกไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ของกีฬาแบดมินตันรอบสุดท้ายนั้น จะมีทั้งหมด 172 คน แบ่งเป็นชายและหญิงเท่ากัน ฝั่งละ 86 คน โดยจะเอาอันดับคะแนน จาก (OLYMPICS RACE TO PARIS) ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2566 มาสิ้นสุดวันที่ 28 เม.ย.2567
ในการคัดเลือกนั้น ประเภทเดี่ยว (ชายเดี่ยว-หญิงเดี่ยว) ประเภทละ 38 คน โดยใน 1 ชาติสามารถมีนักกีฬาร่วมแข่งขันได้ไม่เกิน 2 คนต่อ 1 ประเภท ในกรณีที่อันดับ 1-16 มีนักกีฬาชาติเดียวกันมากกว่า 1 คน จะได้สิทธิแข่งขันไม่เกิน 2 คน (ให้สิทธิคนที่อันดับดีที่สุด 2 อันดับแรก) แต่ถ้าอันดับตั้งแต่ 17 ของโลกเป็นต้นไป จะได้โควตาเพียงชาติละ 1 คนเท่านั้น
ประเภทคู่ (ชายคู่, หญิงคู่, คู่ผสม) ประเภทละ 16 คู่ ใน 1 ชาติจะมีนักกีฬาลงแข่งขันและได้โควตาไม่เกิน 2 คู่ ต่อ 1 ประเภท ในกรณีที่นักกีฬาชาติเดียวกันอยู่ในอันดับ 1-8 จะได้มากกว่า 1 คู่ แต่มากสุดจะได้โควตาเพียง 2 คู่ (ให้สิทธิคู่ที่อันดับดีที่สุด 2 คู่) ส่วนคู่อันดับ 9 เป็นต้นไป จะได้โควตาชาติละ 1 คู่เท่านั้น
ในแต่ละประเภทจะต้องมีนักกีฬาจาก 5 ทวีปร่วมแข่งขัน อย่างน้อยทวีปละ 1 คน หรือ 1 คู่ ในกรณีที่เมื่อพิจารณาจากอันดับโลกแล้ว ไม่มีนักกีฬาจากทวีปใดได้โควตา ก็จะยกโควตาให้กับคู่มืออันดับสูงสุดของทวีปนั้นๆ ในประเภทนั้นๆ ได้โควตาทันที อย่างไรก็ตามใน 1 ชาติที่ได้สิทธิจากการเป็นมือดีที่สุดของทวีป จะได้โควตาในรูปแบบนี้ไม่เกินชาติละ 2 ประเภทเท่านั้น
สำหรับนักแบดมินตันไทยในการทำอันดับไปครั้งนี้ มีโอกาสลุ้นโควตามากกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา หากนับอันดับคะแนนในปัจจุบันจากชายเดี่ยว "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์โลกชายเดี่ยวปี 2023 ที่กำลังเร่งเครื่องทำผลงานในกลับไปอยู่ 1 ใน 6 ให้ได้อีกครั้ง หลังจากเจอกับอาการบาดเจ็บและสภาพร่างกายในช่วงที่ผ่านมา
ประเภทหญิงเดี่ยว มีลุ้นถึง 4 คน จาก "เมย์" รัชนก อินทนนท์ โอกาสได้ไปค่อนข้างสูง และอีก 3 คนที่กำลังแย่งตั๋วใบที่ 2 คือ "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, "เม" ศุภนิดา เกตุทอง และ "หมิว" พรีปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ในประเภทนี้เรียกได้ว่าขับเคี่ยวกันดุเดือดสุดๆ ซึ่ง 4 คนนี้อันดับนั้นแทบจะไม่หนีกันมาก
ประเภทชายคู่ ความหวังหนึ่งเดียวก็คือ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ กับ "สกาย" กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่ที่กำลังร้อนแรงสุดๆในเวลานี้ หลังทั้งคู่เร่งเครื่องทำคะแนนและเข้ารอบลึกๆในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 4 รายการหลังสุดทั้งที่อินเดีย โอเพ่น, ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส, เยอรมัน โอเพ่น และ เฟรนช์ โอเพ่น ทั้งคู่เข้ารอบลึกโดยเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ และ รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ล่าสุดก็เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในศึกออล อิงแลนด์ ถ้าคู่นี้สามารถได้โควตาไปจริงๆ จะเป็นการเข้าไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ที่ ลอนดอน ต่อจาก "เอ" มณีพงษ์ จงจิตร กับ "อาร์ท" บดินทร อิสสระ
ประเภทหญิงคู่ เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ และ สองพี่น้อง "อันนา" นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด แต่โจทย์หินของประเภทคู่นี้ก็คือต้องติด 1 ใน 8 อันดับแรกเท่านั้นถึงจะได้ไป 2 คู่ นับเป็นเรื่องยากแล้ว แต่ล่าสุด สองพี่น้อง "อันนา" นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา มาโชคร้ายได้รับบาดเจ็บในรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ออล อิงแลนด์ ทำให้โอกาสนั้นแทบเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้ ส่งผลให้ครั้งนี้ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ น่าจะไม่พลาดกับการไปเล่นโอลิมปิกในครั้งที่ 2 ของทั้งคู่
ปิดท้ายด้วยประเภทคู่ผสม น่าจะการันตีได้โควตาไปเล่นแน่นอนแล้ว จาก "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต่รัตนชัย ซึ่งอยู่ในอันดับ 6 ของโลกในเวลานี้ แม้ในช่วงการเก็บคะแนนที่ผ่านมา ผลงานค่อนข้างสะบักสะบอม และคว้าไปเพียงแชมป์เดียวในศึกมาเลเซีย มาสเตอร์ส 2023 หลังจากนั้นฟอร์มการเล่นก็ค่อยๆรูดลงไปอย่างน่าใจหาย จนอันดับนั้นร่วงจากท็อป 4
แต่ในปีนี้ “บาส” กับ “ปอป้อ” สามารถกลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งตั้งแต่ต้นปีด้วยการคว้าแชมป์ในบ้าน "ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส" เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 และ แชมป์อินเดีย โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 750 นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีในระดับหนึ่ง
แต่หลังจากนี้ "บาส" กับ "ปอป้อ" จะต้องทำอันดับกลับขึ้นไปอยู่ 4 อันดับแรกให้ได้เป็นอย่างน้อย เป็นโจทย์แรกของทั้งคู่ เพื่อจะไม่ให้เจอคู่แข่งที่หนักในการจับสายการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ 2024
จากนี้การแข่งขันเหลืออีกไม่กี่รายการแล้วในการเก็บคะแนนเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 อาทิ สวิส โอเพ่น, สเปน มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นรายการระดับเวิลด์ทัวร์ 300 และ ศึกชิงแชมป์เอเชีย และ ชิงแชมป์ยุโรปในช่วงกลางเดือนเมษายน และจะสิ้นสุดการเก็บคะแนนไปโอลิมปิกเกมส์ ในวันที่ 28 เม.ย.67 แล้วเราจะรู้กันแล้วว่านักแบดมินตันไทยจะได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ครบทุกประเภทอีกครั้งในรอบ 20 ปีหรือไม่