หากพูดถึงวงการแบดมินตันไทย ในรอบปี 2023 เรื่องเด่นที่ต้องหยิบยกมาพูดถึงคงเป็นเรื่องอื่น เรื่องใดไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่การบันทึกหน้าประวัติศาสตร์แชมป์โลก ของ 2 ดาวเด่นนักกีฬาไทย อย่าง "น้องพิงค์" พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ และ "เจ้าวิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์
ในรายของ "น้องพิงค์" นั้น คว้าแชมป์เยาวชนโลกหญิงเดี่ยว ประจำปี 2023 ที่สหรัฐฯ มาครองได้สำเร็จ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดย "น้องพิงค์" ซึ่งเป็นมือ 2 ของรายการ และมือ 56 ในเวลานั้น เอาชนะ นักกีฬาดาวรุ่งของอินโดนีเซีย เคียรา มาร์เวลลา ฮันโดโย มือ 355 ของโลก ไป 2-0 เกม 21-11 และ 21-9
การคว้าแชมป์รายการนี้ ยังส่งให้ "น้องพิงค์" ในวัย 16 ปี กลายเป็นแชมป์เยาวชนโลกคนที่ 7 ของเมืองไทย ต่อจาก รัชนก อินทนนท์, มณีพงศ์ จงจิตร, รจนา จุฑาบัณฑิตกุล, เดชาพล พัววรานุเคราะห์, กิตตินุพงษ์
เกตุเรน และ กุลวุฒิ วิทิตศานต์
สาวน้อยมหัศจรรย์ วัย 16 ปี ที่มี "เมย์" รัชนก รุ่นพี่่เป็นไอดอล ยังคว้าแชมป์อีก 1 รายการ ในระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 100 อย่าง ศึกเบอร์กามอต เคแอล มาสเตอร์ส มาเลเซีย 2023 ที่มาเลเซีย เมื่อ 5 พฤศจิกายน 2023 ด้วยการเอาชนะ คิม จูอึน มือ 120 ของโลก จากเกาหลีใต้ 2-0 เกม 21-12 และ 24-22 นับเป็นการคว้าแชมป์ 2 รายการติดต่อกัน ต่อจากศึกเยาวชนโลก เมื่อเดือนตุลาคม และยังเป็นการคว้าแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์แรกในชีวิตของ "น้องพิงค์" ด้วย
ทั้งนี้ "น้องพิงค์" เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามด้วยว่า ในปี 2024 จะต้องพยายามพัฒนาฝีมือและเทคนิคการเล่นให้สูงขึ้นเพื่อรับมือกับการแข่งขันกับนักกีฬาระดับโลก ในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระดับซูเปอร์ 300, 500 หรือ 750 ด้วย
ส่วนที่หลายๆคนเชียร์ และมีการทาบทามกันให้ลองมาทำงานในวงการบันเทิง "น้องพิงค์" เผยด้วยว่า ตนเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้ และไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปทำงานในวงการบันเทิงด้วย เวลานี้และตอนนี้อยากจะมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมและแข่งขัน เพื่อทำผลงานให้ดีที่สุดในฐานะนักกีฬาแบดมินตัน ซึ่งก็ยังมีความท้าทายและบทพิสูจน์อีกมากมายที่ตนเองยังทำไม่สำเร็จ
ด้าน "เจ้าวิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่ฟอร์มในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่ามาดีและน่าจับตาที่สุดของวงการคนหนึ่ง ก็สร้างอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ให้กับวงการแบดมินตันไทย ด้วยการคว้าแชมป์โลกชายเดี่ยวมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ในการแข่งขันที่กรุงโคเปเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก
รอบชิงชนะเลิศ กุลวุฒิ ในฐานะมือ 3 ของรายการ และมือ 3 ของโลก ซึ่งมีดีกรีเป็นรอแชมป์เก่าเมื่อปี 2022 (ปีนั้นพ่าย วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 1 ของโลก จากเดนมาร์ก) ต้องดวลกับ โคได นาราโอกะ จอมอึดจอมเหนียว จากญี่ปุ่น มือ 4 ของโลก ซึ่งสถิติก่อนหน้านี้พบกัน 6 ครั้ง ทั้งคู่ผลัดกันแพ้-ชนะเท่ากัน ที่ 3 ครั้ง
เกมแรก กุลวุฒิ พ่ายก่อน 19-21 ก่อนที่เกมสอง กุลวุฒิ จะกลับมาได้ 21-18 และในเกมสามเป็น "กุลวุฒิ" ที่โชว์ความอึดความทน บดเอาชนะหนุ่มนักตบจากญี่ปุ่นไปอีก 21-7 ทำให้เอาชนะ 2-1 เกม 19-21, 21-18, 21-7 บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์โลกชายเดี่ยวได้สำเร็จ โดยถือเป็นแชมป์ชายเดี่ยวคนแรกของประเทศไทยด้วย
ขณะเดียวกันยังถือเป็นแชมป์รายการที่ 3 ในปี 2023 ของกุลวุฒิ ต่อจาก ศึก อินเดีย โอเพ่น 2023 ในช่วงเดือนมกราคม โดยในรอบชิงฯ รายการดังกล่าว เจ้าตัวโชว์ผลงานกระหึ่ม ด้วยการปลดล็อกเอาชนะ วิ
คเตอร์ อเซลเซ่น มือ 1 ของโลก จากเดนมาร์ก ได้เป็นครั้งแรก 2-1 เกม หลังการเจอกันตลอด 6 ครั้ง ก่อนหน้านี้ กุลวุฒิ เป็นฝ่ายปราชัยทั้งหมด
ส่วนแชมป์อีกรายการที่เจ้าตัวได้ในปี 2023 คือ ศึก ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่เอาชนะ ลี ชุก ยิว จาก ฮ่องกง 2 เกมรวด ซึ่งแชมป์ในทัวร์นาเมนต์นั้นก็ทำให้ กุลวุฒิ กลายเป็นนักกีฬาชายคนที่ 4 นับเฉพาะประเภทชายเดี่ยว ที่คว้าแชมป์รายการนี้ ต่อจาก สมพล คูเกษมกิจ (ปี 1990), บุญศักดิ์ พลสนะ ( ปี 2004) และ ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ( ปี 2016)
น่าเสียดายที่ในการแข่งขันศึก ยูเอส โอเพ่น 2023 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ซึ่งลงเล่นในฐานะมือ 1 ของรายการ และมือ 4 ของโลก พ่ายให้กับ หลี่ ซื่อ เฟิง มือ 7 ของโลกจากจีน 0-2
เกม ทำให้ได้เพียงรองแชมป์
สำหรับ กุลวุฒิ นั้น แฟนกีฬาไทยคงต้องลุ้นและเอาใจช่วยเจ้าตัวกันสักหน่อย เพราะหลังคว้าแชมป์โลกชายเดี่ยวได้ ก็ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บ รวมถึงป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ทำให้ต้องนอนแอดมิทที่โรงพยายาล
ซึ่งพอกลับมาแข่งขันอีกครั้งในช่วงท้ายปี ก็ทำให้เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสภาพร่างกายที่พร้อมและสมบูรณ์นัก จนทำให้พ่ายแพ้กับมือรองบ่อนไปในหลายๆแมตช์ ซึ่งก็ปฎิเสธไม่ได้เช่นกันว่าความพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายๆแมตช์ ก็ส่งผลในเรื่องของสภาพจิตใจและความมั่นใจในการเล่นของเจ้าตัวด้วย
ในรอบปี 2023 ทัพนักกีฬาแบดมินตัน ยังช่วยกันทำผลงานยอดเยี่ยมอีกหลายทัวร์นาเมนต์ โดยเฉพาะในช่วง 7 เดือนแรก ที่คว้าแชมป์กันแฟนขนไก่ไทยได้เฉยชมหลายรายการเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการประเดิมแชมป์แรกของปี 2023 ของคู่พี่น้อง "อันนา" นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด ที่โชว์ฟอร์มเยี่ยม คว้าแชมป์ ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2023 ช่วงต้นเดือน ก.พ.
การคว้าแชมป์ของ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ในรายการ โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 300 ที่สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งแมตช์นั้น พรปวีณ์ ในฐานะมือ 11 ของโลก เอาชนะ
เมียร์ บลิดเฟลด์ท มือ 23 ของโลก จากเดนมาร์ก 2-0 เกม ปลดล็อก คว้าแชมป์แรกในเวิลด์ทัวร์ รอบเกือบ 3 ปีให้กับตัวเองได้สำเร็จ
ส่วนในช่วงเดือนกรกฎาคม "เม" ศุภนิดา เกตุทอง ก็ปลดล็อกคว้าแชมป์แรกในระดับเวิลด์ทัวร์ ในศึกโยเน็กซ์ ยูเอส โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ที่สหรัฐอเมริกาให้ตัวเองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ เกา ฟางเจี๋ย มือ 73 ของโลก จาก จีน 2 เกมรวด โดยสาวจีนในรอบตัดเชือกรายการนี้ เอาชนะ รัชนก อินทนนท์ ของไทยมาได้ด้วย ขณะเดียวกัน "เม" ยังได้รองแชมป์อีก 1 รายการ ที่แคนาดา ในปีนี้
ด้าน "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ต้องบอกว่าในรอบปี 2023 ฟอร์มที่เคยร้อนแรงของทั้งคู่ลดลงไปพอสมควร อย่างไรก็ตาม ยังสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ 1 รายการ ใน การแข่งขัน มาเลเซีย มาสเตอร์ 2023 ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม แมตช์นั้น "บาส-ปอป้อ" ซึ่งยังเป็นมือ 3 ของโลก เอาชนะ เฝิง เยี่ยนเจ๋อ กับ หวง ดองปิง คู่มือ 8 ของโลก จากจีนในเวลานั้น 2-1 เกม ในแมตช์ชิงดำ
น่าเสียดายที่ในศึก โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ทั้งคู่พ่ายในรอบชิงฯ ต่อ คิม วัน โฮ กับ จอง นา อึน คู่มือ 9 ของโลก จากเกาหลีใต้ ไป 1-2 เกม ทำให้พลาดคว้าแชมป์ 2 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกัน
ส่วนรองแชมป์อีกหนึ่งรายการ "บาส-ปอป้อ" ทำได้ในศึก ไดฮัทสุ เจแปน โอเพ่น 2023 เวิลด์ทัวร์ระดับซูเปอร์ 750 ที่ญี่ปุ่น ปลายเดือนกรกฏาคม โดยทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ทั้งคู่พ่ายให้กับ ยูตะ วาตานาเบะ กับ
อริสะ ฮิกาชิโนะ คู่มือ 2 ของโลกจากญี่ปุ่นในเวลานั้น 1-2 เกม
ช่วงท้ายปี เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา "จิว" ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ ก็ปลดล็อกคว้าแชมป์เวิลด์ทัวร์รายการแรกได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ ลิเน่ คริสโตเฟอร์เซ่น คู่แข่งจากเดนมาร์กในรอบชิง หญิงเดี่ยว ที่อินเดีย
ด้าน "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิตติธรากุล กับ "วิว" รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มือ 1 ประเทศไทย ปีนี้พลาดการคว้าแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย หลังเข้าชิง 2 รายการ แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งไปทั้ง 2 แมตช์ โดยทั้งคู่เข้าชิงฯรายการแรกของปี 2023 ในศึก แคช ออฟ แคลนส์ อาร์กติก โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 500 ที่ฟินแลนด์ เมื่อกลางเดือนตุลาคม ก่อนพ่ายให้กับ หลิว เซิง ชู กับ ตัน หนิง จากจีน 0-2 เกม ก่อนที่จะมาพ่ายให้กับคู่ปรับจากจีนคู่นี้อีกครั้ง ในศึก โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ที่ฝรั่งเศส ในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา 0-2 เกม
ขณะที่ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ ต้องบอกว่าปีนี้ ไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับเจ้าตัวสักเท่าไหร่ เพราะเผชิญกับอาการป่วยและบาดเจ็บตั้งแต่ต้นปี เป็นผลให้ต้องเริ่มฤดูกาลช้ากว่านักกีฬาคนอื่นๆ แถมยังทำให้ขาดความต่อ
เนื่องในการลงเล่นเกือบทั้งปี ซึ่งปีนี้ รัชนก เข้าชิง 1 รายการ ในแมตช์ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 รายการ แคนาดา โอเพ่น 2023 ก่อนจะพ่ายให้กับ อากาเนะ ยามากูชิ มือ 1 ของโลกชาวญี่ปุ่น 0-2 เกม
ก่อนที่ในช่วงต้นเดือนกันยายน เจ้าตัวจะมาได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย เนื่องจากพื้นสนามที่ลื่นในศึก ฮ่องกง โอเพ่น 2023 ซึ่งทำให้ต้องถอนตัวจากการแข่งขันในรอบ 16 คนสุดท้าย ภายหลังกลับถึงไทย และ
เข้ารับการสแกน MRI ผลพบว่า เอ็นรอบข้อเท้าซ้ายฉีกขาด ซึ่งแพทย์แนะนำให้ต้องพักรักษาตัวอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์
อาการบาดเจ็บดังกล่าว ทำให้รัชนก ต้องปิดฉากฤดูกาลแข่งขัน 2023 ลงทันที พร้อมกับพลาดช่วยชาติ ทำศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วย ซึ่งจากการที่ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บยาว ก็ทำให้อันดับโลกในประเภทหญิงเดี่ยวของรัชนก หลุดจากท็อป 8 ของโลก เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เดียว
ด้านสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ ในปี 2023 นั้น ยังเดินหน้ากิจกรรมต่างๆเพื่อพัฒนาวงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการส่งเสริม ส่งนักกีฬาออกการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตลอดทั้งปี รวมถึงจัดการแข่งขันทั้งในประเทศทุกระดับ โดยจัดศึกนานาชาติ 2 รายการสำคัญ คือ ศึกไทยแลนด์ มาสเตอร์ 2023 และ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023
นอกจากนี้ยังลงนามความร่วมกับ 2 องค์กรกีฬาแบดมินตันของเกาหลีใต้ ทั้ง สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งเมืองกวางจู เพื่อร่วมกัน พัฒนากีฬานี้แบบครบวงจร ทั้ง นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และ องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมทั้งวางแนวทางพัฒนาแบดมินตันลีกอาชีพ ร่วมกัน ควบคู่กันไป นอกจากนี้ ยังลงลึกจะมีการร่วมงานกันในระดับสโมสรอีกด้วย
การลงนามครั้งนั้น มีขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 โดยมี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย มร.คิม จอง ซู ประธานสมาพันธ์ แบดมินตันเอเชีย และรองนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศเกาหลีใต้ และ มร. ฮอง ซุง กิล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันเมืองกวางจูว ประเทศเกาหลีใต้ เป็นสักขีพยาน ร่วมกันด้วย
ขณะที่การแข่งขันในระดับทีมชาติรอบปี 2023 นั้น สมาคมกีฬาแบดมินตัน สร้างผลงานคว้า 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา เมื่อเดือนพฤษภาคม โดย 2 เหรียญ
ทอง ได้จากประเภททีมหญิง ซึ่งก็นับเป็นแชมป์สมัยที่ 9 ต่อจากปี 1965, 1971, 2005, 2011, 2015, 2017, 2019 และ 2021 รวมถึงยังเป็นแชมป์สมัยที่ 6 ติดต่อกัน พร้อมกันนี้ยังได้เหรียญทอง จากหญิงเดี่ยว "เมย์" ศุภนิดา เกตุทอง ที่เอาชนะ "จิว" ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ ในรอบชิงฯ
ส่วนในศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน ในช่วงเดือนกันยายน คว้า 1 เหรียญทองแดง จากประเภททีมหญิง ด้านศึก สุธีรมาน 2023 หรือ การแข่งขันแบดมินตันทีมผสมชิงแชมป์โลก 2023 ที่จีน ไทยจอดป้ายรอบ 8
ทีมสุดท้าย หลังพ่ายให้ ญี่ปุ่น เต็ง 2 ของรายการหวุดหวิด 2-3 คู่
ทั้งนี้ในปี 2024 สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ก็ยังคงมุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาวงการทุกระดับ ทั้งการจัดการแข่งในระดับประเทศ และส่งนักกีฬาออกแข่งขันในระดับนานาชาติ ที่สำคัญยังพร้อมผลักดันให้นักกีฬาไทยก้าวไปสู่ชัยชนะในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งในหน้าประวัติศาสร์ของวงการแบดมินตันไทย ที่ยังไม่เคยมีใครก้าวไปคว้าเหรียญรางวัลได้เลย