"วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์" : แชมป์โลกเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!

เราจะพาย้อนไปจุดเริ่มต้นการเล่นแบดมินตัน ของ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์  จนกระทั่งก้าวขึ้นมาสู้แชมป์โลกชายไทยคนแรกในที่สุด 

เจ้าวิว เริ่มเล่นแบดมินตันเมื่ออายุ 7 ปี โดยเริ่มต้นด้วยการตามคุณพ่อของเขาที่เป็นผู้ฝึกสอนแบดมินตันไปที่สนามแบดมินตัน โดยมีน้องสาว 1 คน "ส้ม" สรัลรักษ์ วิทิตศานต์  ในระยะแรกนั้น วิว กุลวุฒิ เริ่มต้นตีแบดมินตันเพื่อความสนุกสนาน และเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ 

ในระยะต่อมาจึงเริ่มการฝึกซ้อมอย่างจริงจังเพื่อลงแข่งขันระดับยุวชน และเยาวชนภายในประเทศ ในสังกัดแบดมินตันเสนานิคม ภายใต้การดูแลของไตรรงค์ ลิ่มสกุล และเมตไตรย์ อมาตยกุล

กุลวุฒิ เองนั้น มีมีทักษะและเทคนิคที่โดดเด่น มีลูกตบที่หนักหน่วงและแม่นยำ บวกกับไหวพริบ ปฏิกิริยาการตอบโต้ที่รวดเร็ว และมีเกมรับที่เหนียวแน่น ทำให้เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าได้บ่อยครั้ง นอกจากนี้ วิว กุลวุฒิ ยังเป็นผู้เล่นที่มีทัศนคติที่ดี มีวินัยในการฝึกซ้อม และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จึงทำให้เขาประสบความสำเร็จในวงการแบดมินตันได้อย่างรวดเร็ว

เวลานี้ ได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายว่าเป็นนักแบดมินตันดาวรุ่งพุ่งแรงของไทย และเป็นที่คาดหมายว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นชั้นนำของโลกในอนาคต

เมื่ออายุ 13 ปี ได้ย้ายเข้าร่วมจากเสนานิคม มาอยู่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด สังกัดเดียวกันกับ เมย์ รัชนก อินทนนท์ ภายใต้การดูแลของ โค้ชอุดม เหลืองเพชราภรณ์ และสามารถสร้างผลงานด้วยคว้าแชมป์ระดับเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี และฟอร์มยังพัฒนาต่อเนื่องในระดับเยาวชนนานาชาติ อายุต่ำกว่า 19 ปี คว้าแชมป์เยาวชนชิงแชมป์โลก 2017 ด้วยวัยเพียง 16 ปี 5 เดือน

นับเป็นแชมป์เยาวชนโลก ประเภทชายเดี่ยว คนแรกของประเทศไทย  จากนั้นป้องกันแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ เมื่อปี 2018 และ 2019 รวม 3 สมัยติดต่อกัน จากนั้นคว้าแชมป์เยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย เมื่อปี 2019 จากประเภทชายเดี่ยว และ ทีมผสม 

วิว กุลวุฒิ ได้เริ่มต้นสู่การเล่นอาชีพอย่างเต็มรูปแบบทันที ภายใต้การดูแลของ "โค้ชเป้" ภัททพล เงินศรีสุข หลังจากคว้าแชมป์เยาวชนโลกสมัยที่ 3 ในปี 2019 โดยการเริ่มเล่นในระดับอินเตอร์ชาเลนจ์ ค่อยเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ จนอันดับโลกขึ้นมาอยู่ท็อป 50 ของโลก และก้าวขึ้นไปสู้การเล่นในระดับเวิลด์ทัวร์อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยกาารลงเล่นในระดับเวิลด์ทัวร์ 100 และ 300 

ในปี 2020 เป็นปีที่ วิว กุลวุฒิ เริ่มแจ้งเกิดให้กับแฟนแบดมินตันทั้งไทย และต่างชาติเห็นถึงการเล่นอย่างน่าตะลึงทั้งๆที่ช่วงนั้นเป็นม้านอกสายตา แต่เขาก็ใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ด้วยการเข้ารอบรองชนะเลิศรายการปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส รายการระดับเวิลด์ทัวร์ 300  นั่นทำให้ชื่อของ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เป็นที่น่าจับตามองของเหล่านักแบดมินตันทั่วโลก และทำให้อันดับโลกนั้นก้าวขึ้นมาอยู่อันดับ 28 ของโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 

ต่อมาวิว กุลวุฒิ ก็ยังพัฒนาฟอร์มการเล่นชนิดไม่แผ่ว ถึงแม้เขาจะได้รองแชมป์ในรายการสเปน มาสเตอร์ส ระดับเวิลด์ทัวร์ 300 เช่นกัน ซึ่งแพ้ให้กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 1 ของโลกจากเดนมาร์ก แต่ก็เป็นการสะสมประสบการณ์การเล่นของเขาให้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่มีการแข่งขันตลอดทั้งปี 

เข้าปี 2021 เจ้าตัว ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง จนคว้ารองแชมป์ในสวิส โอเพ่น 2021 มาครองได้ยอดเยี่ยม วิว กุลวุฒิ ระเบิดฟอร์มในช่วงลปายปีอีกครั้ง โดยการเช้ารอบลึกได้ตลอดรวมไปถึงติด 1 ใน 8 เข้าไปเล่นในเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ได้เป็นครั้งแรก และเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อีกด้วยแต่ถึงพ่ายให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง วิคเตอร์ อเซลเซ่นจากเดนมาร์ก 

ไม่นานเข้าปี 2022 ได้ไม่นาน แชมป์เวิลด์ทัวร์รายการเยอรมัน โอเพ่น ระดับเวิลด์ทัวร์ 300  ด้วยการเอาชนะ ลัคย่าห์ เซ็น คู่ปรับสมัยเป็นเยาวชนจากอินเดีย และเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมไทย คว้าเหรียญทองในศึกซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม ในประเภททีมชาย ที่เฝ้ารอคอยมาถึง 46 ปี และเหรียญทองประเภทบุคคล ชายเดี่ยวมาอีก 1 เหรียญทอง นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างล้นหลาม 

จุดสำคัญที่ทำให้ วิว กุลวุฒิ นั้นสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน ก็คือการคว้ารองแชมป์ในศึกชิงแชมป์โลกที่ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนแรก ที่สามารถเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ นับเป็นแรงผลักดันอย่างมาก และอันดับโลกนั้นขึ้นไปอยู่ท็อป 10 ได้สำเร็จ 

ในปีนี้เจ้าตัว สามารถกวาดแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์ 750 ในศึกอินเดีย โอเพ่น ด้วยการล้างแค้น วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 1 ของโลกจากเดนมาร์กไปอย่างสะใจแฟนแบดมินตันไทย และ คว้าแชมป์ในบ้านตัวเอง ศึกโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 500 ในรอบ 7 ปีอีกด้วย จนทำให้อันดับโลกขึ้นมาสู่มือ 3 ของโลกได้สำเร็จ แซงหน้า พี่แมน บุญศักดิ์ พลสนะ ที่เคยทำไว้มือ 4 ของโลก 

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา วิว กุลวุฒิ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ และ เป็นการคว้าเหรียญสองครั้งติดต่อกันต่อจากปี 2022 ที่ได้เหรียญเงิน นอกจากนี้เป็นนักแบดมินตันชาวไทยคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์โลกต่อจาก "เมย์" รัชนก อินทนนท์ เมื่อปี 2013 และ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในปี 2021

แต่นี่มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นกับเส้นทางแบดมินตันในวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีอีก 2 อย่างสำคัญที่เจ้าตัวจะต้องทำให้ได้ก็คือ การคว้าแชมป์ออล อิงแลนด์ และ คว้าเหรียญในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโจทย์ที่ใหญ่มาก แต่มันคงไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับชายที่ชื่อ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์