วีรพล วิชุมา จอมพลังดาวรุ่ง เร่งยกทำน้ำหนักรวมสองท่าปาดเข้าอันดับสองคว้าเหรียญเงินแบบเหลือเชื่อ นับเป็นเหรียญที่สามของทัพลูกเหล็กไทยใน ปารีสเกมส์ ต่อจาก ธีรพงศ์ ศิลาชัย ที่ได้เหรียญเงิน และ สุรจนา คำเบ้า ที่คว้าเหรียญทองแดง พร้อมกับเพิ่มเหรียญที่ 6 ให้ทัพไทยในโอลิมปิกครั้งนี้
วีรพล วิชุมา จอมพลังดาวรุ่งเจ้าของเหรียญทองชิงแชมป์โลก 2023 และ เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ เมื่อปลายปีก่อน ระเบิดพลังยกสุดแกร่งในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก พาตัวเองแซงคู่แข่งถึง 7 คน กลับมาคว้าเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยน้ำหนักรวม 346 กก. โดยยังสร้างสถิติโลกคลีนแอนด์เจิร์ก ในรุ่นเยาวชนที่ตัวเองเป็นเจ้าของขึ้นใหม่ด้วย ด้านจอมพลังอินโดนีเซีย ริซกี้ จูเนียสยาห์ คว้าเหรียญทองไปครอง หลังยกรวม 354 กก.
การแข่งขันยกน้ำหนัก ที่เซาท์ ปารีส อารีน่า เมื่อช่วงดึกวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำการแข่งขันกันเป็นวันที่สอง โดยหลังผ่านวันแรก ไทย มี 1 เหรียญเงิน จาก “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ในรุ่น 61 กก.ชาย และ “ออย” สุรจนา คำเบ้า ในรุ่น 49 กก.หญิง ซึ่งในวันที่สอง ไทยมีลุ้นเหรียญ จาก รุ่น 73 กก.ชาย หลังส่ง “เวฟ” วีรพล วิชุมา จอมพลังวัย 19 ปี จากสุรินทร์ เจ้าของเหรียญทอง ศึกชิงแชมป์โลก 2023 ที่ซาอุดิอาระเบีย และเหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีนลงชิงชัย ร่วมกับ 11 จอมพลัง
ในการยกท่าสแนตช์ วีรพล ออกมายกครั้งแรกผ่านฉลุยที่ 148 กก. ในการยกครั้งสองที่ 152 กก. เจ้าตัวยกสแนตช์ไม่ผ่าน แม้จะขึ้นมาแก้ตัวในครั้งสามที่น้ำหนักเดิม แต่ก็ทำไม่สำเร็จ สถิติในท่า สแนตช์ อยู่ที่ 148 กก. รั้งอันดับ 9 ด้าน ฉี จี็ยง จอมพลังแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ในปี 2016 และ 2021 เป็นคนที่ยกสถิติสแนตช์ดีสุด ที่ 165 กก. โดยมี ริซกี้ จูเนียสยาห์ รองแชมป์โลก 2022 จากอินโดนีเซีย รั้งที่ 2 ที่ 155 กก. อันดับ 3 เป็น หลุยส์ มอสเควรา จากโคลอมเบีย 155 กก. (ยกได้ทีหลังจอมพลังอินโดฯ จึงอยู่อันดับ 3)
กลับมาแข่งขันกันต่อในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก เกมดุดเดือดมากขึ้น โดย วีรพล แม้อยู่ที่ 9 แต่ยังคงไม่หมดลุ้นเหรียญรางวัล หลังสถิติรวมตามหลังอันดับ 2 อยู่ 7 กก. ที่สำคัญจอมพลังจีน แชมป์เก่า ยกไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้งในท่านี้ ที่ 191 กก. ทำให้ไม่มีสถิติในท่านี้ หมดลุ้นเหรียญรางวัลไปโดยปริยาย
ทั้งนี้ วีรพล ขึ้นมายกครั้งแรกผ่านได้ก่อน ที่ 190 กก. ก่อนจะออกฮึดออกมายก 194 กก.ในครั้งที่สองผ่านฉลุย ซึ่งหลังยกเสร็จเจ้าตัวปลดปล่อยอารมณ์ด้วยความสะใจ เพราะการยกผ่านในครั้งนี้ ทำให้สถิติรวม ของ วีรพล ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ด้วย
ก่อนจะขึ้นมายกผ่านที่ 198 กก. ในโอกาสครั้งสุดท้าย ทำลายสถิติเยาวชนโลก ที่ตัวเองเป็นเจ้าของและทำเอาไว้ 195 กก. ในศึกชิงแชมป์โลก 2023 ที่ตัวเองทำเอาไว้ได้สำเร็จ สถิติรวม 346 กก. แซงจอมพลังจากบัลกาเรีย ขึ้นมาคว้าเหรียญเงินทันที
เหรียญเงินของ วีรพล นับเป็นเหรียญรางวัลที่ 6 ของทัพไทยในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 และเป็นจอมพลังชายไทยคนที่สาม ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ ต่อจาก สินธุ์เพชร์ กรวยทอง ในปี 2016 และ ธีรพงศ์ ศิลาชัย ในปี 2024
ส่วนเหรียญทอง เป็นของ ริซกี้ จูเนียสยาห์ หลังยก 199 กก.ในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ซึ่งก็นับเป็นสถิติใหม่ในท่าคลีนแอนด์เจิร์กบนเวทีโอลิมปิกเกมส์ด้วย ทำให้สถิติรวมอยู่ที่ 354 ส่วนเหรียญทองแดง เป็นของ ดิมิตตรอฟ อันเดรฟ จากบัลแกเรีย ซึ่งยกน้ำหนักรวม 344 กก. หลังยกสแนตช์ 154 กก. และ คลีนแอนด์เจิร์ก 190 กก.
ทั้งนี้ทีมจอมพลังไทย ยังเหลือนักกีฬาอีก 1 คน ที่จะขึ้นเวทีชิงชัยในรุ่นมากกว่า 81 กก.หญิง นั่นก็คือ ”ส้ม“ ดวงอักษร ใจดี ซึ่งจะลงแข่งขันในวันอาทิตย์ ที่ 11 ส.ค.นี้ เวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย