"เทนนิส พาณิภัค" จอมเตะผู้ยิ่งใหญ่ ผู้สร้างตำนานกีฬาไทย

 "เทนนิส พาณิภัค" จอมเตะผู้ยิ่งใหญ่ ผู้สร้างตำนานกีฬาไทย
ชื่อของ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จะเป็นชื่อที่ถูกเขียนอยู่บนหน้าประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทยไปอีกนานแสนนานแน่นอน ในฐานะนักกีฬาไทยผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างชื่อ สร้างเกียรติประวัติ และประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง

ล่าสุดเจ้าตัวสร้างผลงานบันลือโลกอีกครั้ง ในการแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการเอาชนะ ฉิง กั๋ว คู่ปรับจากจีน ที่เคยเจอกันมาในแมตช์ดราม่าแต้มไหล เกราะไฟฟ้ามีปัญหา ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อปลายปีที่แล้ว 

ก่อนเดินทางมาแข่งขัน เจ้าตัวประกาศชัดเจน นี่คือแมตช์สุดท้ายของการลงเล่นในฐานะนักกีฬาเทควันโด และตนพร้อมจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีเพื่อการแข่งขันในมหกรรมนี้

จอมเตะซึ่งกวาดเกียรติยศมาแล้วทุกเวทีบนโลกใบนี้ ออกสตาร์ตรอบแรก (16 คน) ในศึกโอลิมปิกปารีส 2024 ด้วยการเอาชนะจอมเตะจากโมร็อกโก อูไอมา เอล บูเชติ 2-0 ยก (8-1 และ 10-1) ก่อนที่ใน ในรอบก่อนรองชนะเลิศ จะเอาชนะ ดุนยา อาลี อาบูลทาเล็บ จอมเตะสาวเจ้าของเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก 2022 ไป 2-0 ยก (4-1, 13-3)

ในรอบรองชนะเลิศ "พาณิภัค" ใช้ความได้เปรียบเรื่องรูปร่างที่สูงยาว ไล่เตะ เลน่า สตอยโควิช แชมป์โลก 2 สมัย รุ่น 46 กก. จากโครเอเชีย ที่ต้องขยับมาเล่นในรุ่น 49 กก.ได้อีก 2-0 ยก (8-0, 11-5) ก่อนจะเข้ามาเอาชนะคู่ปรับสาวจีน ฉิง กั๋ว 2-1 ยก (6-3,  2-6, 6-2) ไปในแมตช์สุดระทึกใจกองเชียร์ไทยในสนามและทั่วประเทศ

"เทนนิส" กลายเป็นนักกีฬาไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ ได้ 3 สามครั้ง โดยได้เหรียญทองแดง ปี 2016, เหรียญทอง ปี 2021 และ เหรียญทองในศึกปารีส 2024 และเป็นคนแรกของไทยที่ได้เหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย

หลังจบการแช่งขัน "เทนนิส" ถึงกับร่ำไห้ หลั่งน้ำตาของความยินดีออกมา ก่อนวิ่งเข้าไปสวมกอด "โค้ชเช" ซึ่งเปรียบเสมือนคุณพ่อคนที่สองไปแล้ว ก่อนวิ่งโบกสะบัดธงไตรรงค์รอบสนาม เรียกเสียงปรบมือกึกก้อง 

เจ้าตัวเปิดใจ โอลิมปิกครั้งนี้แตกต่างจากสองครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่ยากและท้าทายที่สุด คือ คู่แข่งทุกคนพยายามศึกษาแก้ทางตนเอง ดังนั้นก่อนมาจึงฝึกซ้อมหนักมาก ซ้อมหลากหลายรูปแบบ ส่วนการได้มาซึ่งเหรียญทองครั้งนี้ ถือว่าคุ้มค่าที่สุด เพราะพยายามทุ่มเทสุดตัวแม้จะมีอาการเจ็บติดตัวหลายจุด แต่ก็พร้อมกัดฟันสู้เพื่อเป้าหมาย 

 "พาณิภัค" ที่เพิ่งฉลองอายุ 27 ไปหมาดๆเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2567 และกวาดทุกเกียรติยศแล้วก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญทองโอลิมปืก ที่ทำได้ถึง 2 สมัย และได้อีก 1 ทองแดง, แชมป์โลก 2 สมัย, แชมป์เอเชีย 3 สมัย, แชมป์เวิลด์กรุงด์ปรีซ์ 12 สมัย และ แชมป์ม.โลก 3 สมัย นี่คือสุดยอดจอมเตะที่โลกแห่งวงการเทควันโดโลกต้องจดจำ

ส่วนเส้นทางหลังจากนี้ พาณิภัค ในบทบาทอื่นที่แตกต่างออกไป สิ่งที่ลงมือทำไปแล้ว และกำลังทำอยู่ คือการเปิดโรงเรียนสอนกีฬาเทควันโดเป็นของตัวเอง ซึ่งก็กำลังไปได้สวย จนเจ้าตัวตัวเองเตรียมเปิดสาขาสอง ซึ่งก็ตั้งใจจะเปิดสาขาสองในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ นอกจากนี้ยังมีความฝันที่จะเปิดร้านกาแฟเล็กๆเป็นของตัวเองด้วย หรือไม่แน่อาจเปลี่ยนใจ ลงรับใช้ชาติต่อ หลังเจ้าตัวยังลังเล และบอกกับนักข่าวว่า ขอเวลาไปคิดเรื่องนี้อีกครั้ง 

ปลายทางที่เป็นความสำเร็จ ของ "พาณิภัค" จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเจ้าตัวอดทน มุ่งมั่น เสียสละและทุ่มเทไม่มากพอ ให้กับการฝึกซ้อมในทุกๆวัน ทุกๆเซสชั่น หรือย่อท้อ ล้มเลิก หรือถอดใจไปก่อน เราอาจไม่ได้เห็นฮีโร่ชื่อ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ  

เรื่องราวเหล่านี้ของเจ้าตัว ยังกลายเป็นการจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจให้กับจอมเตะรุ่นใหม่ๆด้วย ที่สำคัญเรื่องราวของ "พาณิภัค" ได้กลายเป็นตำนานของวงการกีฬาไทย และตำนานของวงการเทควันโดไปแล้วในเวลานี้






ที่มาของภาพ : Siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport