ย้อน 5 ครั้งก่อน คู่ชิงเหรียญทอง โอลิมปิก มาจากทวีปเดียวกัน

ย้อน 5 ครั้งก่อน คู่ชิงเหรียญทอง โอลิมปิก มาจากทวีปเดียวกัน
ในที่สุดเราก็ได้คู่ชิงเหรียญทองของกีฬาฟุตบอลชายประจำศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024 แล้ว นั่นคือ ฝรั่งเศส กับ สเปน นั่นเอง หลังจากในรอบรองชนะเลิศนั้นพวกเขาผ่าน อียิปต์ กับ โมร็อกโก ตามลำดับ

เชื่อหรือไม่ว่านี่นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยทีเดียวที่คู่ชิงชนะเลิศในกีฬาฟุตบอลชายของ โอลิมปิก เกมส์ เป็นการดวลกันของชาติจากทวีปเดียวกัน ซึ่งวันนี้เราจะไปย้อนดูว่า 5 ครั้งหลังสุดนั้นมันเกิดขึ้นตอนไหนบ้าง

- เอเธนส์ 2004

อาร์เจนตินา เข้าถึงรอบชิงดำได้ตามที่หลายคนคาด โดยขุมกำลังของพวกเขาในตอนนั้นมีนักเตะที่เก่งๆ หลายคน อย่างเช่น คาร์ลอส เตเวซ และ คิลี่ กอนซาเลซ แต่ที่น่าเซอร์ไพรส์พอตัวคือ ปารากวัย โดยพวกเขาเป็นแชมป์ของกลุ่ม บี ที่มีทั้ง อิตาลี, กานา และ ญี่ปุ่น เป็นเพื่อนร่วมกลุ่มได้ ก่อนจะไปชนะ เกาหลีใต้ กับ อิรัก ในรอบก่อนรองชนะเลิศกับรอบรองชนะเลิศตามลำดับ

นัดชิงเหรียญทองนั้น อาร์เจนตินา ขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 18 จากผลงานของ เตเวซ นั่นเป็นเพียงลูกเดียวที่เกิดขึ้นตลอดทั้ง 90 นาที แต่มันก็ดีพอที่จะทำให้ อาร์เจนตินา ได้เหรียญทองเป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์

- บาร์เซโลน่า 1992

สเปน เอาชนะได้ทั้ง 3 นัดในการอยู่ร่วมกลุ่มกับ กาตาร์, อียิปต์ และ โคลอมเบีย แถมพวกเขายังคว่ำ อิตาลี ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ กานา ในรอบรองชนะเลิศได้ด้วย ซึ่งคู่แข่งหน้าเส้นชัยของพวกเขาคือ โปแลนด์ ที่ฟอร์มดุพอตัว อย่างเช่นรอบตัดเชือกที่ไล่ถล่ม ออสเตรเลีย ไปขาดลอยถึง 6-1

แม้ว่าประชากรในเมืองบาร์เซโลน่าจะไม่อยากถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของ สเปน เท่าไหร่ แต่ครั้งนั้นทีมลูกหนังของแดนกระทิงดุก็ยังได้รับเสียงเชียร์ดังกระหึ่มตอนลงสนาม ซึ่งนั่นก็มีส่วนช่วยทำให้พวกเขาชนะ โปแลนด์ ไปได้แบบสุดสนุก 3-2 จากประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ กีโก้ ซึ่งนั่นก็เป็นเหรียญทองแรกของวงการฟุตบอลชายสเปนใน โอลิมปิก เกมส์ เช่นกัน

- มอสโกว 1980

เช็กโกสโลวาเกีย กับ เยอรมัน ตะวันออก เป็นคู่ชิงเหรียญทองในหนนั้น โดยทั้งคู่ต่างก็เป็นแชมป์ของกลุ่มของตัวเองตอนเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนในรอบน็อกเอาต์พวกเขาก็โหดพอๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ เยอรมัน ตะวันออก ไล่ต้อน อิรัก 4-0 ส่วน เช็กโกสโลวาเกีย ชนะ คิวบา 3-0 หรือรอบรองชนะเลิศที่ เยอรมัน ตะวันออก เฉือน สหภาพโซเวียต 1-0 ขณะที่ เช็กโกสโลวาเกีย ดับ ยูโกสลาเวีย 2-0

ในรอบชิงชนะเลิศนั้นมีประตูเกิดขึ้นแค่ลูกเดียว นั่นคือผลงานของ ยินดริช สโวโบด้า ดาวเตะชาวเช็กในนาทีที่ 77 ทำให้ เช็กโกสโลวาเกีย เฉือนชนะไปได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเพียง 1 ใน 2 เหรียญทองของทัพนักกีฬาเช็กโกสโลวาเกียกับการแข่ง โอลิมปิก เกมส์ หนนั้น

- มอนทรีอัล 1976

รอบแบ่งกลุ่ม เยอรมัน ตะวันออก เป็นเพียงอันดับ 2 ของกลุ่ม เอ แต่พวกเขาก็ยังกรุยทางไปถึงรอบชิงเหรียญทองได้หลังจากชนะ ฝรั่งเศส 4-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย กับชนะ สหภาพโซเวียต 2-1 ในรอบตัดเชือก ส่วนคู่ชิงก็คือ โปแลนด์ ที่เป็นแชมป์ในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนรอบก่อนรองชนะเลิศกับรอบตัดเชือกนั้นพวกเขาชนะ เกาหลีเหนือ 5-0 และ บราซิล 2-0 ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตอนนั้นทั้ง 2 ทีมก็มีนักเตะที่ทำประตูได้ร้อนแรงพอๆ กันด้วย นั่นคือ อันดราเซ็จ ซาร์มาช ของ โปแลนด์ ที่กดไป 6 ลูก กับ ฮันส์-เยอร์เก้น ดอร์เนอร์ ของ เยอรมัน ตะวันออก ที่ทำได้ 4 ประตู แต่ทั้งคู่กลับเท้าบอดในนัดชิงเหรียญทอง ก่อนที่ เยอรมัน ตะวันออก จะชนะไป 3-1

- มิวนิค 1972

กีฬาฟุตบอลชายของ โอลิมปิก เกมส์ ครั้งนั้นจะเอาแชมป์ของแต่ละกลุ่มเข้าไปดวลกันในนัดชิงเหรียญทองทันที ส่วนรองแชมป์ของกลุ่มจะไปเล่นนัดชิงเหรียญทองแดง ซึ่งคู่ชิงดำก็คือ ฮังการี กับ โปแลนด์

ท้ายที่สุดแล้วเป็น โปแลนด์ ที่ชนะไปได้ 2-1 จากการเหมาของ คาซิเมียร์ซ เดย์น่า โดยนั่นถือเป็นครั้งแรกที่ โปแลนด์ ได้เหรียญทองในการแข่ง ฟุตบอลชาย ของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ แถม เดย์น่า ยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนต์อีกด้วยผลงาน 9 ประตู


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X