"บิว"​ ภูริพล เผยบรรยากาศพาตื่นเต้นทำหลุดฟอร์ม รับขอแก้มือโอลิมปิก 2028

"บิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรดดาวรุ่งวัย 18 ปี ซึ่งจบการแข่งขันวิ่ง 100 ม.ชาย รอบรองชนะเลิศ ในอันดับที่ 9 ฮีทที่ 3 ด้วยเวลา 10.14 วินาที ไม่เพียงต่อการเป็น 1 ใน 8 เข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ออกมาเปิดเผยความรู้สึกหลังเกมว่า การวิ่งในวันนี้สถิติที่ออกมา อาจไม่ดีเท่าเมื่อวาน ส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะมาจากความตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ลงวิ่งกับนักวิ่งระดับท็อปๆของโลกแบบนี้ และก็ทำให้ออกบล็อคสตาร์ทได้ช้ากว่าเมื่อวาน 

“ตื่นเต้นเหมือนกันครับ ผมเองวิ่งลู่ 1 อยู่ข้างกับ อังเดร เดอ กราส เจ้าของเหรียญทองวิ่ง 200 ม. ในโอลิมปิกเกมส์คราวก่อนที่โตเกียว ที่เขาวิ่งลู่ 2 ผมเองดูและติดตามเขาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ก็ถือเป็นนักวิ่งคนหนึ่งที่เก่งมากๆ บวกกับบรรยากาศในสนาม ซึ่งคนเยอะมาก แล้วผมเองก็เล็กสุดในนั้นด้วย ก็เลยเกรงๆนิดหน่อยครับ”

”ส่วนหลังจากที่เราออกบล็อคสตาร์ทไปแล้ว ทำได้ไม่ดีนัก ก็ทำให้ช่วงที่วิ่งอาจจะเกร็งๆนิดนึงครับ เพราะอยากจะตามเขาให้ทัน ส่วนการที่ต้องวิ่งในลู่วิ่งที่ 1 ซึ่งเป็นลู่ติดกับด้านในสนามหญ้า ก็อาจจะมีส่วนเล็กๆที่ทำให้วิ่งได้ไม่ดีอย่างที่หวัง อาจจะไม่ชินด้วย อย่างตอนเอเชียนเกมส์ที่อยู่ช่อง 8 ก็ยังชินกว่า ก็คิดว่าถ้าออกตัวได้ดีกว่านี้ ไมตื่นเต้น ก็น่าจะมีสถิติที่ดีกว่าในรอบคัดเลือก อย่างไรกก็ตามการวิ่งอยู่ในระดับ 10.1 วินาทีได้ก็ถือว่าพอใจกับผลงานของตัวเองระดับหนึ่งแล้ว”  

“มองว่าถ้าได้วิ่งกับนักกีฬาที่เป็นระดับท็อปแบบนี้บ่อยๆ ผมว่าน่าจะช่วยให้ตัวเองพัฒนาและเก่งขึ้นกว่านี้ รอบนี้ถือได้ประสบการณ์ ได้แข่งกับคนที่เก่งกว่าเรา ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าแต่ละคนวิ่งอย่างไร ออกตัวแบบไหน แต่ละคนวอร์มอย่างไร วอร์มแบบใด และนานแค่ไหน ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ไ้ด้รับกลับมาเพื่อเอาไปปรับแก้ไขต่อไป” 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวมองหรือตั้งเป้าอย่างไรกับการวิ่งทำสถิติให้ต่ำกว่า 10 วินาที ภูริพล เผยว่า ”ตอนนี้พยายายามปรับเรื่องการออกบล็อค ซึ่งก็ใช้เวลาหลายเดือนมากๆ อาจจะ 5-6 เดือน เพื่อปรับในการออกตัวให้ชิน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ชินนัก ยังมีคิดและกังวลเรื่องนี้อยู่ตอนออกตัว ดังนั้นถ้าปรับตรงนี้ได้ ก็อาจจะมีสถิติที่ดีขึ้น และก็คิดว่าอาจจะใช้เวลาอีกสัก 1 ปี ในการปรับแก้จุดนี้“

ภูริพล เผยอีกว่า หลังจากนี้ อีกไม่ถึงเดือน จะมีแมตช์แข่งขันเยาวชนโลก 2024 ที่เปรู ซึ่งตนก็ออกเดินทางไปในวันที่ 21 ส.ค.นี้ คราวก่อนไปพลาดนิดหน่อย อาจจะวิ่งเยอะเกินไปด้วย ไปรอบนี้ก็อยากจะแก้ตัว อาจจะวิ่ง 100 ม. อย่างเดียว หรืออาจจะมี 4x100 ม. ด้วย ถ้าสูสีหรือสู้ได้ ก็อยากจะลงไปช่วยน้องๆด้วย ซึ่งปีนี้ก็จะเป็นปีสุดท้ายของตน ก็อยากจะไปแข่งขันและคว้าเหรียญรางวัลให้ได้ด้วย

“ส่วนนักวิ่งญีุ่่ปุ่น อับดุล ฮาคีม ซานี บราวน์ ที่อยู่ฮีทเดียวกับผม แล้ววิ่งทำเวลาได้ 9.96 วินาที เป็นสถิติของเขาใหม่ ก็ถือเป็นอีกคนที่เก่งมากครับ เขาเองก็เคยวิ่งต่ำกว่า 10 วินาทีมาแล้วรอบหนึ่ง และก็ซ้อมอยู่ในทีมเดียวกับ อังเดร เดอ กราส ก็เห็นเขาวิ่งกับนักวิ่งระดับโลก เก็บตัวกับนักกีฬาระดับโลก ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งในเอเชียที่แข็งแกร่งมากๆอีกคนหนึ่ง“

ผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่า คิดว่าตัวเองยังขาดและต้องพัฒนาอะไร ภูริพล กล่าวว่า “คงเป็นเรื่องของประสบการณ์ อย่างมาแมตช์นี้ก็มีความรู้สึกตื่นเต้น มีความคิดมากอยู่บ้าง ก็เลยทำให้ควบคุมความคิดตัวเองได้ไม่ดีมากนัก อาจเป็นเพราะเป็นรายการแข่งขันใหญ่ที่สุดด้วย ส่วนเรื่องกล้ามเนื้อและร่างกาย ก็มองว่ามีผลเหมือนกันครับ หลายๆคนตัวใหญ่ กล้ามเนื้อดูแข็งแรง เพราะถูกสร้างมา และพร้อมใช้งานแล้ว 

“ก็ไม่คิดเหมือนกันครับว่าพาตัวเองมาได้ถึงโอลิมปิกเกมส์แบบนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะพัฒนาในด้านต่างๆขึ้นมาได้เร็ว ก็เลยมีโอกาสเข้าร่วมชิงชัยในรอบนี้ ส่วน 4 ปีข้างหน้า ในโอลิมปิกเกมส์ที่สหรัฐฯ ผมก็อยากจะกลับมาลงแข่งอีกครั้งครับ ตอนนั้นอายุ 22 ก็มองว่าน่าจะพร้อมมากขึ้น ทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ และประสบการณ์ครับ”