หมดเวลาเจ็บเหลือแค่สู้สุดใจ โค้งสุดท้ายนักขี่ม้าสาว "ปรีดิ์อัญ"

หมดเวลาเจ็บเหลือแค่สู้สุดใจ โค้งสุดท้ายนักขี่ม้าสาว "ปรีดิ์อัญ"
อะไรที่ได้มาง่ายๆ มักจะไม่มีคุณค่าและไม่น่าจดจำ แต่..สำหรับนักขี่ม้าสาวทีมชาติไทย "ปรีดิ์อัญ" ชนกภรณ์ การุณยธัช ต้องผ่านบทพิสูจน์มากมายเหลือเกินกว่าจะก้าวไปสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางของไทยเป็นนักกีฬากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางคนแรกของไทยที่คอวลิฟายผ่านเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์

กว่า 22 ปีที่ต้องทุ่มเท และเหน็ดเหนื่อยเพื่อเป้าหมายสูงสุด "โอลิมปิกเกมส์" ระหว่างทางนักขี่ม้าสาวไทยต้องเจอกับอุปสรรคมากอย่างมากมาย แต่ ปรีดิ์อัญก็สามารถผ่านมันไปทุกครั้ง เพราะกำลังใจจากคนในครอบครัว และเพื่อนๆที่หวังดีและเตือนสติให้ "ปรีดิ์อัญ" อย่าได้ทิ้งฝันที่รอคอยมาเกือบทั้งชีวิต!!!

ความทุ่มเท และฝึกฝนอย่างหนัก ปรีดิ์อัญได้สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการขี่ม้าไทยได้จดจำ ความกดดัน ทั้งหมดหายไปเมื่อ นักขี่ม้าสาวไทย คว้าตั๋วลุยโอลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์ ได้สำเร็จ แต่ชีวิตของนักขี่ม้าสาวไทย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ จริงตั๋วที่คว้าเตรียมตัวและอาชาคู่ให้พร้อมในปารีสเกมส์ ปรีดิ์อัญกลับต้องพบการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ชีวิต "ดีไลล่า" อาชาาตัวใหม่ที่ซื้อมาเพื่อปารีสเกมส์ โดยเฉพาะ ฝึกกันมานานกว่า 2 ปี จนคุ้นเคยและนำออกไปแข่ง ดีไลล่า" ไม่เคยเตะเครื่องเลยแม้แต่ครั้งเดียว

นั้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ "ดีไลล่า" แม้จะเป็นม้าราคาหลักสิบล้านแต่ศักภาพและความสามารถของคนและม้ารวมพลังกันจะขึ้นไปสู้กับอาชาหลักร้อยล้านได้ไม่ยาก แต่เหมือนความหวังที่มีกลับพังทลาย ในเกมส์แข่งขันที่การ์ต้า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สองนักกีฬาไทยประสบอุบัติขณะแข่งขัน ปรีดิ์อัญ ตกจากหลังดีไลลา ขาขวาหัก ในขณะที ดีไลลาก็ขาหักเช่นกัน แต่มันเลือกที่จะวิ่งชนเครื่องไม่ล้มทับเพื่อเซฟคู่หูที่นอนกองอยู่บนพื้น!!!

สุดท้าย "ดีไลล่า" ก็จากไปอย่างสงบ ในขณะที่ "ปรีดิ์อัญ" ต้องกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย ม้าตาย ตัวเองเจ็บหนัก ต้องผ่าตัดเร่งด่วน ความหวังที่จะไปแข่งปารีสเกมส์ดูริบหรี่ แต่เพราะใจที่ต้องแกร่ง และต้องแข่งเพื่อดีไลล่า ปรีดิ์อัญตั้งปฏิธานจะต้องหายเพื่อกลับสู่หลังอาชาให้ได้อีกครั้ง การแข่งขันครั้งนี้ของ ปรีดิ์อัญ นอกจากการแข่งขันเพื่อประเทศชาติ เพื่อผู้สนับสนุน เพื่อครอบคร้วแล้ว ปรีดิ์อัญ ต้องต่อสู้ให้กับความเสียสละของดีไลล่า

2 เดือนกับการรักษาตัว "ปรีดิ์อัญ" หายไวกว่าที่หมอคาดไว้ จึงปล่อยให้ นักขี่ม้าสาวกลับขึ้นหลังอาชาไปฝึกซ้อมเพื่อลุยโอลิมปิก 2024 แน่นอนว่า สภาพร่างกายของ "ปรีดิ์อัญ" ตอนที่กลับขึ้นไปนั่งอยู๋บนหลังอาชาคู่ใจ "ทีน่า" มันคือความกลัว เพราะห่างหายกันมานานถึง 4 เดือน แต่คู่หูที่ผ่านเกมการแข่งขันมาด้วยอย่างโชกโชนระหว่าง "ปรีดิ์อัญ" กับ "ทีน่า" ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันความรู้เดิมของคู่หูก็กลับมา

"ดีไลล่า" คือ อาชาที่จะใช้แข่งปารีสเกมส์ ส่วน "ทีน่า" คืออาชาที่ฝ่าฟันกันมาจนคว้าตั๋วโอลิมปิก เมื่อ "ดีไลล่า" ไม่อยู่ "ทีน่า" ต้องรับหน้าที่พากันไปลุยทำผลงานให้ได้ตามเป้านั้นคือ 1 ใน 15 หรือทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนั้นเอง

สภาพความพร้อมของร่างกายว่า ขณะที่สภาพร่างกายพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ขาที่เกิดอุบัติเหตุไม่มีอาการเจ็บแล้ว เพราะเราจะเจ็บไม่ได้อีกแล้ว ต้องพร้อมอย่างเดียวกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 ส.ค.นี้  ส่วน การตรวจม้าก็ผ่านไปด้วยดี ทีน่า ร่างกายสมบูรณ์และแข็งแรง ถือเป็นความได้เปรียบของเราที่ม้าไม่ต้องเดินทางเหมือนตอนแข่ง อชก. 19 และ ทีน่า เกิดจาการติดเชื้อระหว่างขนส่งจากเบลเยียมไปจีน แต่ ทีน่า ก็สู้มาก ลงแข่งขันคว้าอันดับ 4 มาครอง

"ส่วนครั้งนี้ ทีน่า เพิ่งจะนำเข้าคอกในวันที่ 30 ก.ค. 67 และตรวจร่างกาย ซึ่งเราอยู่ฝรั่งเศสอยู่แล้ว แต่อยู่นอกเมืองห่างสนามประมาณ 2 ชม.ก็นำใส่รถและเอาเข้าคอกเลย  ไม่ต้องเดินทางยาวนานเหมือนเอเชียนเกมส์  ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปหมู่บ้านนักกีฬาได้ซ้อมกระโดดมา 1 รอบ หลังจากนี้ก็จะเข้าไปซ้อมที่สนามตามระเบียบและ ก็ยังคงตั้งเป้าเดิมคือ  1 ใน 15 หากทำได้ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วเพราะการแข่งขันระดับนี้ต้องเจอกับนักกีฬาที่เก่งๆ มากมาย รวมถึงม้าแต่ละตัวที่นำมาแข่งก็เป็นม้าที่มีประสบการณ์ ราคาหลักร้อยล้านเกือบทุกตัว สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนทุกคนที่อยู่เคียงข้างปรีดิ์ในวันที่เรารู้สึกแย่ที่สุด ในวันที่เราต้องเจอกับการสูญเสีย ที่ไม่สามารถเอามันกลับคืนมาได้ การแข่งขันครั้งนี้ ปรีดิ์ขี่ทีน่า แต่ก็มีความทรงจำของ ดีไลลา อยู่ในสนามด้วย เวลาที่เหลือตอนนี้คือ สู้สุดใจ ทำผลงานออกมาให้ทุกคนภาคภูมิใจในตัวเราให้มากที่สุด"

การแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะเป็นการรวมใจของสองนักกีฬา คนและม้า ให้เป็นหนึ่งแล้ว ยังมีอีกหนึ่งความ "คิดถึง และความเสียสละ" ของดีไลลา ที่เป็นพลังขับเคลื่อน สร้างกำลังใจให้ นักกีฬาทั้งสองทำผลงานได้ตามเป้า เพื่อบันทึกอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาขี่ม้าไทย!!!


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport