เรมโค่ เอเวเนโฟล นักปั่นจักรยานชาวเบลเยียม วัย 24 ปี ที่เลือกเปลี่ยนเส้นทางชีวิตจากนักฟุตบอลมาสู่การเป็นน่องเหล็ก จนประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อ !
น่องเหล็กชาวเบลเยียม ที่เพิ่งคว้าเหรียญทอง การแข่งขันจักรยานประเภทถนน ไทม์ไทรอัล ในศึกโอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยเวลา 36:12.16 น. ชนะ ฟิลิปโป้ กานน่า จาก อิตาลี เวลา 36:27.08 น. และ วูต์ ฟาน แอร์ต เพื่อนร่วมชาติ เวลา 36:37.79 น.
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ เอเวนเนโฟล ในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอาจไม่เกิดขึ้นถ้าหากเขาเลือกที่จะเดินเส้นทางสายลูกหนัง มากกว่าจะเดินตามรอยเท้า แพทริค คุณพ่อซึ่งเป็นอดีตนักปั่นจักรยานมืออาชีพ
ก่อนที่เขาจะสร้างตำนานให้กับชาวเบลเยียมใน "ปารีส เกมส์" เอเวเนโฟล เคยมีโอกาสได้เป็นเพื่อนร่วมทีมของ โกดี้ คักโป แนวรุกฟอร์มแรงทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ปัจจุบันย้ายไปอยู่กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นเด็กน้อยวัยละอ่อน เอเวเนโฟล ก็เหมือนกับเด็กทั่วไปที่ชื่นชอบเกมลูกหนัง และตัดสินใจเข้าฝึกปรือฝีเท้ากับสโมสรอันเดอร์เลชท์ ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และด้วยผลงานที่โดดเด่นเป็นสง่าทำให้เขาได้รับความสนใจจากหลายทีมในยุโรป
สุดท้าย พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ทีมดังในประเทศเนเธอร์แลนด์ คว้าตัว เอเวเนโฟล มาปลุกปั้นในศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสรตั้งแต่อายุ 11 ปี ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้เขามีโอกาสได้พบกับ คักโป สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่งครั้งแรก และได้เป็นเพื่อนร่วมทีมด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสายลูกหนังระหว่าง เอเวเนโฟล กับ คักโป มันช่างสั้นเหลือเกิน เนื่องจากเจ้าตัวจำเป็นต้องกลับไปยังกรุงบรัสเซลล์ เพื่อร่วมทัพกับ อันเดอร์เลชท์ อีกครั้ง ตอนอายุ 14 ปี โดยเหตุผลเพราะคุณแม่ล้มป่วย
กระนั้นศักยภาพในเชิงลูกหนังของ เอเวเนโฟล ยังคงเฉิดฉายอย่างต่อเนื่อง เพราะเขาติดทีมชาติเบลเยียม รุ่น ยู 15 และ ยู 16 โดยตอนนั้นเจ้าตัวได้เล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กับ หลุยส์ โอเปนด้า ซึ่งปัจจุบันติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว และ อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกอนก้า ดาวยิงอาร์เซน่อล (ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ เซบีย่า)
"บอกตามตรงนะ โลกอนก้า ได้อยู่ในทีมที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด ดังนั้นเขาทำให้ฝันของผมเป็นจริงแล้ว" เอเวเนโฟล ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้อาร์เซน่อล กล่าวเอาไว้เมื่อ 2 ปีก่อน
อย่าไรก็ตาม อาชีพพ่อค้าแข้งของเขาไม่ได้เกิดขึ้น เพราะมีจุดเปลี่ยนสำคัญในวัย 17 ปี เมื่อเขาหันหลังให้กับสนามหญ้าอันเขียวขจีเพื่อไปเอาดีบนอานจักรยาน เหมือนกับคุณพ่อบังเกิดเกล้า
หลังจากตัดสินใจเอาดีในการปั่นจักรยาน นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของเขาอย่างชัดเจนเพราะการได้โลดแล่นบนท้องถนนมันไม่เหมือนกับกีฬาอื่นๆ ที่เขาเคยประสบพบเจอ และมันทำให้ เอเวเนโฟล ได้ค้นพบว่าความจริงแล้วเขารักการอยู่บนอานจักรยานมากกว่าสวมสตั๊ดไล่เตะลูกบอล
1 ปีหลังจากตัดสินใจเปลี่ยนจากการเล่นฟุตบอลมาสู่วงการจักรยาน เอเวเนโฟล การฉายแววความยิ่งใหญ่เมื่อสามารถคว้าแชมป์ประเภทจักรยานถนนและไทม์ไทรอัลรุ่นจูเนียร์ โดยดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้สวย และเขามีแววที่จะก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่วงกีฬาประเภทนี้
อย่างไรก็ตาม เอเวเนโฟล ต้องพบกับช่วงเวลาที่แสนโชคร้ายในช่วงต้นอาชีพใหม่ของเขาเมื่อประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงระหว่างที่ร่วมแข่งขันรายการอิล ลอมบาร์เดีย ในประเทศอิตาลี
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากตอนที่จักรยานของเขาวิ่งหลุดจากโค้งแคบๆ จนลอยข้ามสะพาน และชนเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง ส่งผลให้ตกลงไปบริเวณขอบเขา และหล่นลงไปในหุบเขาลึก อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ เอเวเนโฟล ได้รับบาดเจ็บหนักกระดูกเชิงกรานหัก และปอดทะลุ แต่ต้องบอกว่าโชคดีสุดๆ ที่ไม่เสียชีวิตจากเหตุสุดอันตรายในคราวนั้น
เอเวเนโฟล ต้องใช้เวลาในการรักษาตัวยาวนานกว่าจะกลับมาลงแข่งได้อีกครั้ง และเจ้าตัวก็โชว์พรสวรรค์ให้โลกได้เห็นเมื่อคว้าแชมป์รายการที่ยิ่งใหญ่อย่าง Liege-Bastogne-Liege และแกรนด์ ทัวร์ รายการ Vuelta a Espana รวมทั้งการแข่งขันชิงแชมป์โลกด้วย
สำหรับไฮไลต์ที่สุดสำคัญในซีซั่นนี้คงหนีไม่พ้นการคว้าอันดับ 3 ศึกตูร์ เดอ ฟร้องซ์ พร้อมกับคว้ารางวัลนักปั่นดาวรุ่งยอดเยี่ยม และยิ่งใหญ่จนเป็นเกียรติประวัติให้กับวงตระกูลก็คือการได้เหรียญทอง โอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่กรุง ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ถ้าหากตอนนั้น เรมโค่ เอเวเนโฟล ยังคงเลือกเล่นฟุตบอลต่อไป ตอนนี้ชีวิตของเขาอาจรุ่งโรจน์ในวงการลูกหนัง หรือเงียบหายเข้ากลีบเมฆ
กระนั้นการที่ เอเวเนโฟล ได้ค้นพบสิ่งที่ตนเองชอบ และตัดสินใจหันเหชีวิตทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นฮีโร่ของชาวเบลเยียมไปแล้ว
ฉะนั้นนี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับเยาวชนทุกคนที่ต้องค้นหาความชอบของตัวเองให้เจอ และกล้าเปลี่ยนแปลง เพราะนั่นอาจเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่สำคัญที่สุดของพวกเขาก็ได้
ทอมเม้ง