"บิ๊กป้อม" พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย อวยพรขอให้นักกีฬาไทยประสบความสำเร็จ พร้อมขอให้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระราชทานไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เป็นขวัญกำลังใจอันสูงสุด ด้านความคืบหน้าการจัดเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียนอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ของไทย เปิดระบบรับลงทะเบียนนักกีฬาทั่วเอเชียแล้ว โดยยอดผู้เข้าร่วมล่าสุดทะลุ 1.1 หมื่นคนแล้ว
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ก.ค. 2567 ที่ห้องประชุม คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการประชุมกรรมการบริหาร คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 โดยมี "บิ๊กป้อม" พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีวาระสำคัญ ทั้งเรื่องความคืบหน้าการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ทเกมส์ ปลายปี 2567, การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2568 รวมถึงการเตรียมส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นปลายเดือนก.ค.นี้
สำหรับกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 พ.ย. 2567 ที่กรุงเทพมหานคร และจะ.ชลบุรี โดยจะมีการแข่งขันทั้งสิ้น 38 ชนิดกีฬา มีกีฬาสาธิตจำนวน 2 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาทางอากาศและกีฬาเทคบอล ชิงชัยทั้งสิ้น 357 เหรียญทอง (ไม่รวมกีฬาสาธิต) ซึ่งกำหนดเปิดการลงทะเบียนร่วมการแข่งขัน ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าปัจจุบันมีนักกีฬาลงทะเบียนแล้วกว่า 11,000 คน โดยจะปิดระบบการลงทะเบียน ในวันที่ 15 ส.ค. 2567 ซึ่งจะใช้งบประมาณทั้งจากสำนักงบประมาณและจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
ส่วนความคืบหน้าการเตรียมเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่จะมีขึ้นใน 3 เมืองใหญ่ทั้ง กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และสงขลา ในปีหน้านั้น หลังจากประชุมสหพันธ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 14-15 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการได้เห็นชอบประเด็น ชนิดกีฬาในการจัดการแข่งขัน ซึ่งจะมีจำนวน 40 ชนิดกีฬา และ 2 กีฬาสาธิต ทั้งนี้ประเทศสมาชิกสามารถขออุทธรณ์ลดหรือเพิ่มชนิดกีฬามายังประเทศเจ้าภาพ หรือสำนักงานสมาคมสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ได้ จนถึง 31 ส.ค. 2567 เพื่อพิจารณาหารืออีกครั้งในช่วงเดือนก.ย. และเดือนต.ค. ต่อไป
ขณะที่การประชุมกรรมการบริหาร คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในวันนี้มีวาระสำคัญคือ การขออนุมัติส่งคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 ก.ค. - 11 ส.ค.นี้ จำนวนทั้งสิ้น 51 คน จาก 17 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย นักกีฬาชาย 23 คน, นักกีฬาหญิง 28 คน และนักกีฬาสำรองอีก 2 คน คือนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์และนักกีฬาเทเบิลเทนนิส ทำให้ยอดรวมทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ที่จะเดินทางเข้าร่วมการแข่งขัน มีจำนวนทั้งสิ้น 118 คน โดยคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ชุดแรกจะออกเดินทางสู่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 18 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ขอให้ทุกภาคส่วน วางแผนประสานงาน ดูแล รับผิดชอบในรายละเอียดอย่างใกล้ชิด กับการส่งคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ เพราะถือเป็นภารกิจสำคัญ เพื่ออำนวยความสะดวกให้มากที่สุดรวมทั้งป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหาข้อขัดข้องใดๆ และขอให้ทุกท่านน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระราชทานแก่คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และผู้แทนนักกีฬาทีมชาติไทย เป็นแนวทางในการปฏิบัติ เป็นขวัญกำลังใจอันสูงสุดของพวกเราทุกคนและขอเป็นกำลังใจให้กับสมาคมกีฬาฯ ทุกสมาคม ให้ร่วมแรงร่วมใจ เป็นหนึ่งเดียว ในการทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ร่วมกันสร้างผลงานให้ดีที่สุด นำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติและประชาชน ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งใจไว้ทุกประการ