เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ใครๆ ก็ไม่ค่อยพกเงินสดกันแล้ว และกลายเป็นว่านอกจากโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่มาเติมเต็มการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด
ก็คงหนีไม่พ้นบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด แต่ทั้งนี้ หลายๆ คนอาจสงสัยว่าควรเลือกใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดดี เพราะทั้งสองประเภทต่างก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การตัดสินใจเลือกสมัครบัตรเครดิตให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการทางการเงินของตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักความแตกต่างระหว่างบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดพร้อมแนะนำปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจสมัคร เพื่อให้คุณสามารถเลือกบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
บัตรเครดิต KTC กับบัตรกดเงินสด KTC PROUD ต่างกันอย่างไร?
บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด ทั้งสองประเภทนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยบางกรณี เมื่อคุณสมัครบัตรเครดิต ก็จะได้รับการอนุมัติทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดในคราวเดียวกันก็ได้เช่นกัน
บัตรเครดิต ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าและบริการ ได้ก่อนโดยไม่ต้องจ่ายเงินทันที มีระยะปลอดดอกเบี้ย และชำระคืนในภายหลังตามรอบบิล อีกทั้งบัตรเครดิต KTC ยังมีสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น คะแนนสะสม โปรโมชั่นส่วนลด หรือสิทธิพิเศษผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ซึ่งต่างจากบัตรกดเงินสด เล็กน้อย ตรงที่บัตรกดเงินสด เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินสด สามารถเบิกถอนได้จากตู้ ATM ไม่มีค่าธรรมเนียม และคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก และก็ยังรูดซื้อสินค้าได้เช่นกัน แต่เฉพาะเครื่อง EDC หรือ ซื้อของออนไลน์ที่รับบัตร Mastercard กับ UnionPay เท่านั้น สามารถใช้ผ่อน 0% ได้ แต่ไม่มีระยะปลอดดอกเบี้ยเหมือนกับบัตรเครดิต แต่สำหรับบัตรกดเงินสด KTC PROUD สามารถโอนเข้าบัญชีได้โดยตรงผ่านแอป KTC Mobile และสมาชิกจะต้องผ่อนชำระเงินเต็มจำนวนที่เบิกถอนเงินสด หรือผ่อนชำระขั้นต่ำ ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด เพื่อให้คุณเข้าใจบัตรทั้งสองแบบมากยิ่งขึ้น เราได้สรุปความแตกต่างของบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดไว้ดังต่อไปนี้
บัตรเครดิต | บัตรกดเงินสด | |
---|---|---|
การใช้งาน | ใช้ซื้อสินค้าและบริการ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่การใช้จ่าย | ใช้เบิกถอนเงินสดจากตู้ ATM หรือเบิกถอนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารหรือสถาบันการเงิน, ซื้อสินค้าและบริการที่รับบัตร Mastercard และ UnionPay |
ค่าธรรมเนียมการกดเงินสด | มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด 3% และภาษีของค่าธรรมเนียมอีก 7% | ไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด และคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก |
ดอกเบี้ย | มีระยะปลอดดอกเบี้ย ไม่คิดดอกเบี้ยหากชำระเต็มจำนวนตามรอบบิล อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต KTC 16% ต่อปี คิดเป็นดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ทำรายการไม่สามารถผ่อนชำระได้ | คิดดอกเบี้ยทันทีที่ถอนเงิน/ซื้อสินค้าและบริการ อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี |
สิทธิประโยชน์ | มีคะแนนสะสม, ส่วนลด, ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน | สามารถใช้บัตรผ่อนสินค้าและบริการ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 24 เดือน |
วงเงินอนุมัติ | ขึ้นอยู่กับประวัติเครดิตและรายได้ โดยรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท/เดือน ก็สามารถสมัครได้ | ขึ้นอยู่กับรายได้และเงื่อนไขของธนาคาร/สถาบันการเงิน โดยรายได้ขั้นต่ำ 12,000 บาท/เดือน ก็สามารถสมัครได้ |
การชำระเงินคืน | ชำระเต็มจำนวนหรือขั้นต่ำตามรอบบิล | ชำระเต็มจำนวน หรือ ผ่อนชำระเป็นงวดพร้อมดอกเบี้ย |
บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด วงเงินเดียวกันไหม?
สำหรับผู้ที่อยากถือบัตรทั้งสองประเภทและมีความสงสัยว่า บัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิตใช้วงเงินเดียวกันไหม คำตอบคือ วงเงินของบัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิตใช้คนละวงเงิน ฉะนั้น การมีทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดจึงเหมือนมีเงินสำรองสำหรับการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี เพราะบัตรกดเงินสดจะไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมหากไม่ได้กดเงินออกมาใช้ จึงสามารถมีติดตัวเอาไว้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้เมื่อมีเหตุฉุกเฉินต้องใช้เงินด่วน ก็สร้างความสบายใจให้ผู้ถือบัตรได้มากเลยทีเดียว
บัตรเครดิตกดเงินสดได้ไหม?
บัตรเครดิตกดเงินสดได้ไหม คำตอบคือ ได้ โดยคุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด 3% และภาษี 7% รวมถึงอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต KTC 16% ต่อปี คิดเป็นดอกเบี้ยรายวัน และโดยทั่วไปหากเบิกถอนผ่านตู้ ATM ไม่สามารถผ่อนชำระเงินสดได้ แต่สำหรับบัตรเครดิต KTC หากเบิกถอนผ่านแอป KTC Mobile สามารถเลือกผ่อนชำระได้ ทั้งชำระเต็มจำนวน/ขั้นต่ำ หรือ ผ่อนชำระเท่ากันทุกงวด ซึ่งจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกด้วยเช่นกัน
ฉะนั้น จากข้อมูลข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่าการกดเงินสดจากบัตรกดเงินสดมีความคุ้มมากกว่าการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิต ทั้งนี้ โดยทั่วไปการถือบัตรทั้งบัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิตควบคู่กัน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเงินก็ถือว่าจะทำให้คุณอุ่นใจ โดยคุณเองสามารถเลือกใช้งานที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ นอกจากนี้ สำหรับการสมัครบัตรเครดิต หากคุณเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้เพิ่มโอกาสการใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยวันนี้ เราก็มีบัตรเครดิต KTC ที่เหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ทุกความคุ้มค่ามาแนะนำเช่นกัน
KTC PLATINUM MASTERCARD
เริ่มกันที่บัตรเครดิต KTC PLATINUM MASTERCARD บัตรเครดิตที่ช่วยเพิ่มคล่องตัวทุกไลฟ์สไตล์ มั่นใจทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตร ด้วยสิทธิประโยชน์มากมายโดยเฉพาะสายช้อปออนไลน์ ด้วย KTC PLATINUM MASTERCARD สามารถทำให้คุณช้อปออนไลน์ คุ้มสุด ตลอดปี กับ Mastercard® ผ่านพันธมิตรออนไลน์ที่ร่วมรายการ ไม่ว่าจะเป็น Shopee และ Lazada รวมไปถึงมอบสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย สามารถเลือกชำระสินค้าหรือบริการด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน กับร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือเลือกผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.69% เมื่อทำรายการผ่าน KTC PHONE สำหรับรายการใช้จ่ายที่ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพ ทุก ๆ การใช้จ่าย 25 บาท รับคะแนน KTC FOREVER 1 คะแนน
คุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิต KTC PLATINUM MASTERCARD
- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- รายได้ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน (สำหรับชาวต่างชาติ)
KTC DIGITAL PLATINUM VISA
บัตรเครดิตที่ให้คุณได้มากกว่าที่เห็น KTC DIGITAL PLATINUM VISA เป็นนวัตกรรมบัตรเครดิตที่สุดจะปลอดภัย ให้คุณช้อปออนไลน์ ได้แบบมั่นใจ ด้วย Dynamic CVV รหัสหลังบัตรเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการขอ อีกทั้งบัตรไม่มีตัวเลข จึงไร้กังวลเรื่องการขโมยข้อมูล ทั้งนี้ บัตรเครดิต KTC DIGITAL PLATINUM VISA ยังพร้อมมอบสิทธิพิเศษตามแบบฉบับของ Visa กับพันธมิตรที่ร่วมรายการต่างๆ มากมาย สามารถเลือกผ่อนชำระสินค้าได้ง่าย ด้วยโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับคะแนน KTC FOREVER สะสมได้ไม่จำกัด ทุก ๆ การใช้จ่าย 25 บาท รับคะแนน KTC FOREVER 1 คะแนน
คุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิต KTC DIGITAL PLATINUM VISA
- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- รายได้ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน (สำหรับชาวต่างชาติ)
KTC JCB PLATINUM
เรียกได้ว่าเป็นบัตรเครดิตที่เติมเต็มความสุขในแบบ Japanese Lifestyle บัตรเครดิต KTC JCB PLATINUM เป็นบัตรเครดิตสำหรับคนรักการเดินทางและช้อปปิ้งในประเทศญี่ปุ่น หรือรวมถึงการใช้จ่ายที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย โดยมีสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ การใช้บริการห้องรับรองสนามบิน LoungeKey™ ในประเทศที่กำหนด JCB Plaza Lounge ฟรีสูงสุด 8 ครั้งต่อปีต่อบัตร และ ห้องรับรองสนามบินในญี่ปุ่นและฮาวาย ฟรีสูงสุด ุ6 ครั้งต่อปีต่อบัตรซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ทั้งยัง สามารถรับคะแนน KTC FOREVER 2 เท่า แบบไม่จำกัดยอดรับคะแนนสูงสุด สำหรับทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ประเทศญี่ปุ่น (ยกเว้นยอดการใช้จ่ายที่เป็นสกุลเงินไทย) อีกทั้งส่วนลดต่างๆ จากพาร์ทเนอร์มากมายของ JCB
คุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิต KTC JCB PLATINUM
อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
รายได้ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
รายได้ 50,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน (สำอหรับชาวต่างชาติ)
การเลือกใช้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบการใช้จ่ายของแต่ละคน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้อย่างมีวินัย และจัดการการเงินให้เหมาะสม
สำหรับใครที่กำลังมองหาบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดที่ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเพื่อการจับจ่ายที่คุ้มค่า หรือเพื่อความคล่องตัวในการจัดการค่าใช้จ่าย คุณสมัครบัตรเครดิต KTC ได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ เพียงคลิกสมัครออนไลน์ด้วยตัวเองได้ที่นี่ https://www.ktc.co.th/apply-online หรือสามารถดูข้อมูลบัตรทุกประเภทของ KTC ได้เพิ่มเติม รวมไปถึงลงชื่อสมัครบัตรเครดิตเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับก็ได้เช่นกัน มาเริ่มต้นวางแผนการเงินที่ชาญฉลาดด้วย KTC ที่พร้อมเป็นตัวช่วยทุกการใช้จ่ายของคุณ