ยูนิเซฟ ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ "A BETTER TOMORROW TODAY - วันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า" ชวนทุกภาคส่วนในสังคมร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของเด็กทุกคน ท่ามกลางสถานการณ์ท้าทายที่ทวีความรุนแรงในสังคมปัจจุบัน ทั้งความขัดแย้ง วิกฤตสุขภาพ ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ตลอดจนภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แคมเปญนี้จึงมุ่งเน้นให้เกิดการลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อปกป้องสิทธิและช่วยเหลือเด็ก ๆ ให้สามารถเติบโตอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีเด็กคนใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ทั่วโลก เด็ก ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันหลากหลายประการ ยูนิเซฟประมาณการว่าเด็ก 330 ล้านคนอาศัยอยู่ในความยากจนอย่างรุนแรง โดยครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เด็ก 200 ล้านคนต้องเผชิญกับปัญหาการพัฒนาที่ล่าช้าเนื่องจากภาวะทุพโภชนาการ เด็กหญิงวัยรุ่น 86 ล้านคนยังคงไม่ได้รับการศึกษา ในขณะเดียวกัน สถานการณ์เด็กในประเทศไทยก็พบกับความท้าทายใกล้เคียงกัน โดยการศึกษาของยูนิเซฟพบว่า มีนักเรียนถึงร้อยละ 15 ที่ไม่ได้เรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในขณะที่เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ 3 กว่าครึ่งยังขาดทักษะในการอ่าน และเด็กเล็กร้อยละ 13 มีภาวะเตี้ยแคระแกร็นจากการขาดสารอาหาร ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมทางสังคมซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เผยว่า "เด็ก ๆ ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยกำลังเผชิญกับอนาคตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นจากภัยคุกคามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เราไม่สามารถใช้แนวทางเดิมมาแก้ปัญหาใหม่ ๆ เหล่านี้ได้ เราจึงจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อให้เด็กทุกคนรู้สึกปลอดภัยและพร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับอนาคตข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ยูนิเซฟได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและพันธมิตร เพื่อช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ แคมเปญใหม่นี้จะช่วยให้สังคมเห็นถึงความเร่งด่วนของปัญหาที่เด็ก ๆ กำลังเผชิญ พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับเด็กทุกคน"
สำหรับแคมเปญ A BETTER TOMORROW TODAY - วันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2567 และจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันเด็กแห่งชาติในวันที่ 11 มกราคม 2568 โดยจะมีกิจกรรมออฟไลน์และออนไลน์ที่น่าสนใจ รวมทั้งยังมีผู้นำความคิดและเซเลบริตี้จากหลากหลายวงการมาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนมาร่วมลงมือทำและสนับสนุนเด็ก ๆ อย่างเป็นรูปธรรม
อีกทั้งแคมเปญนี้ได้จัดทำคลิปวิดีโอที่สะท้อนให้เห็นถึงโลกที่สดใส ความฝัน และรอยยิ้มของเด็กจะกลับมาอีกครั้ง หากทุกคนร่วมมือกันลงมือทำ ทั้งนี้ยังมีกิจกรรม Kids Takeovers ที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม รวมถึงการเปิดให้ทุกคนสามารถส่งต่อความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ผ่านการบริจาค "Box of Life" กล่องอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ประกอบด้วยวัคซีน น้ำสะอาด และสื่อการเรียนรู้ที่จำเป็น เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนและอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ตลอดจนการมาร่วมเป็นอาสาสมัครสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของยูนิเซฟในระดับท้องถิ่นและระดับโลก พร้อมเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์
และไฮไลท์สำคัญของแคมเปญนี้ คือ กิจกรรม "Turn Blue" ใน "วันเด็กสากล" หรือ "World Children’s Day" ซึ่งเคยจัดขึ้นที่ตึกเอมไพร์สเตทในนิวยอร์ก อะโครโปลิสในเอเธนส์ และหอไอเฟลในกรุงปารีสมาแล้ว โดยยูนิเซฟจะจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองสิทธิของเด็กทั่วโลกในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ โดยจะมีการสาดแสงสีฟ้าที่วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือจากคนในสังคมเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้แก่เด็ก ๆ และยังเปรียบเสมือนการส่งพลังบวกและคำมั่นสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เด็ก ๆ ต้องเผชิญความยากลำบากเพียงลำพัง
"เพราะพันธกิจของยูนิเซฟคือการเข้าถึงเด็ก ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน หรือมาจากภูมิหลังใด โดยภารกิจนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราทุกคนร่วมมือกัน เพราะทุกการสนับสนุนล้วนมีคุณค่าไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด แต่มันจะยิ่งใหญ่ในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับเด็กทุกคน นี่คือสิ่งที่แคมเปญนี้ต้องการสื่อสารกับทุกคนว่า เราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับเด็กทุกคนได้มีโอกาสเติบโตอย่างสวยงาม เพียงเริ่มต้นวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า" นางคิมกล่าวสรุป
มาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงอนาคตของเด็กตั้งแต่วันนี้ในแคมเปญ "A BETTER TOMORROW TODAY - วันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า" สามารถเข้าชมรายละเอียดได้ทาง www.unicef.or.th/better-tomorrow