‘รอง ผอ.สำนักการแพทย์ กทม.’ พร้อม นศ.วปอ. 2566 และเพื่อน ๆ จัดกิจกรรม "ลุงหมอใจดีปี 2" มอบความช่วยเหลือแก่เด็กๆ โรงเรียนบ้านสบเมย พร้อมมอบบ้านใหม่ให้น้อง ม.4 เด็กเรียนดี ที่ จ.แม่ฮ่องสอน
น.พ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกิจกรรม ‘ลุงหมอใจดี’ ซึ่งในปีนี้จัดเป็นที่ 2 ว่า กิจกรรมด้งกล่าว เป็นกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ที่ตนได้จัดขึ้นมาเพื่อช่วยด้านการศึกษาและสาธารณสุขในพื้นที่ทุรกันดาร โดยในปีนี้ได้มีการคัดเลือกโรงเรียนที่เสนอขอความช่วยเหลือเข้ามา ผ่านหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งมี ร.อ.ภาณุพงศ์ คำจุฬา หัวหน้าชุด เป็นผู้นำเสนอ สะท้อนให้เห็นถึงความเดือดร้อนของโรงเรียนบ้านสบเมย ต. แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดกลางมีตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนทั้งสิ้น 262 คนในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อยู่หอนอน 80 คนแบ่งเป็นชายและหญิง โดยมีครูประจำอยู่ 21 คน ความทุกข์ยากของโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำเมยและสาลวิน ที่มาบรรจบกันโดยอยู่ติดกับชายแดนไทยเมียนมาร์
ในช่วงหน้าฝนเส้นทางที่จะคมนาคมเข้าสู่โรงเรียนไม่สามารถทำได้ หากจำเป็นต้องเข้าต้องใช้ระยะเวลาเดินทางอย่างน้อย 5 ชั่วโมงโดยรถยนต์ที่ต้องเข้าสู่ตัวโรงเรียนจะต้องเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อและพันโซ่ที่ล้อ ส่วนการคมนาคมผ่านแม่น้ำสาละวินจะมีเรือของโรงเรียนคอยรับส่งนักเรียนชั้นอนุบาล โดยต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ในฤดูน้ำหลากกระแสน้ำจะเชี่ยวกราด หากไม่มีอุปกรณ์ชูชีพก็อาจทำให้นักเรียนได้รับอันตรายได้ ประกอบกับของใช้ที่มีอยู่ในโรงเรียนเสื่อมสภาพและหลายอย่างไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จึงร้องขอความช่วยเหลือผ่านมายังตน หลังจากสำรวจความพร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้เดินทางไปมอบสิ่งของที่จำเป็นให้กับโรงเรียนเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีน้องๆ มารอร่วมกิจกรรมนับ 100 ชีวิต จึงได้จัดให้มีการเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับน้องๆ และคณะครูเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
น.พ.เพชรพงษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง บ้านเลขที่ 80 บ้านแม่กระทวน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผื่อมอบบ้านให้กับ น้องทราย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสบเมยวิทยาคม ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาของน้องทราย ยืนยันว่าเป็นเด็กเรียนดีแต่ยากจน สภาพบ้านสร้างอยู่ชายเขาใช้ใบตองตึงมุงหลังคา ผนังและพื้นบ้านทำมาจากไม้ไผ่สาน และเริ่มมีสภาพผุพังเนื่องจากใช้มานาน ส่งผลต่อความเป็นอยู่และความปลอดภัยของสมาชิกในบ้านซึ่งมีกันสามคนแม่ลูก ลุงหมอใจดี จึงตัดสินใจสร้างบ้านขนาด 5 × 10 เมตร หลังคาเมทัลชีท โครงสร้างเป็นเหล็ก แบ่งเป็นสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำและหนึ่งห้องโถงมีระเบียง โดยได้ทำการขอซื้อสิทธิ์ที่ดินจากเจ้าของที่เดิมเพื่อใช้ในการสร้างบ้านให้น้องสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างถาวร
ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการภายในสองสัปดาห์ช่างสามารถสร้างบ้านให้เสร็จทันตามกำหนดจึงได้ส่งมอบให้กับน้องและครอบครัวโดยได้จัดซื้อที่นอนและพัดลมรวมถึง ติดตั้งระบบไฟสองสว่างให้อย่างครบครัน ถือเป็นอีกภารกิจของลุงหมอใจดีปีสองที่ประสบความสำเร็จโดยได้รับความร่วมมือและร่วมใจจากเพื่อนสมาชิกนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรปี 2566 หมู่นกเค้าแมว และสวนน้อยหน่ารีสอร์ทอำเภอปากช่อง รวมถึงทหารจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ในการร่วมแรงร่วมใจกับทำจนประสบความสำเร็จ รวมทั้ง เป็นอีกก้าวยังสำคัญของโครงการคนเล็กหัวใจใหญ่ ที่มุ่งมั่นจะเติมเต็มส่วนเล็กๆของสังคมที่ยังเผชิญปัญหาความขาดแคลน และจะมุ่งมั่นช่วยเหลือสังคมต่อไปเพื่อให้คุณภาพชีวิตของเด็กไทย ได้รับการเติมเต็มไปสู่เยาวชนที่ดีซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป