คิง เพาเวอร์ ปลุกพลังดนตรี เฟ้นหาแชมป์ THE POWER BAND 2023 ชิงรางวัลรวมกว่า 1.5 ล้าน!

เชื่อมั่นในพลังคนไทย เชื่อมั่นใน MUSIC POWER 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ‘กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์’ จัดโครงการที่ส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนและคนไทย ให้ได้ไปแสดงศักยภาพบนเวทีโลก โดยเน้นสนับสนุนใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกีฬา (SPORT POWER) ด้านดนตรี (MUSIC POWER) และด้านชุมชน (COMMUNITY POWER) ซึ่งการประกวด THE POWER BAND ได้จัดขึ้นเพื่อสร้างเวทีให้เยาวชนและคนไทย มีโอกาสได้แสดงพลังอย่างสร้างสรรค์ผ่านศักยภาพทางดนตรี

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นส่งเสริมศักยภาพของคนไทยทางด้านดนตรีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดเวทีประกวดวงดนตรีคุณภาพระดับประเทศ THE POWER BAND ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว ที่ผ่านมา เราได้เห็นความทุ่มเทอย่างเต็มที่ และความสามารถทางดนตรีของคนไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชนไทยที่ได้สร้างโอกาส และพลังแห่งความเป็นไปได้ให้เกิดและเติบโตขึ้นบนเส้นทางสายดนตรี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เวที THE POWER BAND จะช่วยให้พวกเขาได้พัฒนาตนเองให้ได้ไปอยู่ในจุดสูงสุด เป็นการเพิ่มพูนทักษะ และประสบการณ์ให้มากขึ้นอีกด้วย

“อยากจะขอบคุณน้องๆ ที่ทำให้เห็นถึงพลังของคนไทยจริงๆ ได้เห็นว่าทุกคน ทุกวง ทุกโรงเรียนมีความสามารถ แม้ผู้ชนะจะมีได้เพียงหนึ่งเดียว แต่วันนี้น้องๆ ได้ชนะใจหลายๆ คน และได้เจอเพื่อนใหม่ เจอบุคคลใหม่ ได้ความรู้ใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้มากกว่าที่จะติดตัวน้องไปจนวันที่น้องๆ เป็นนักร้องนักดนตรีมืออาชีพ ขอบคุณน้องๆ อีกครั้งนะครับที่ทำให้เห็นว่าฝันของน้องเป็นยังไง พลังต่างๆ ที่น้องส่งออกมามันเห็นชัดว่าประเทศไทยมีความหวังขึ้นมา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวปิดท้าย

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์กฤษติ์ บูรณวิทยวุฒิ รองคณบดีฝ่ายบริหาร และประธานวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเสริมถึงโครงการ THE POWER BAND ที่เปิดเวทีให้กับเยาวชนไทยและคนไทยทางด้านดนตรี เพื่อขยายโอกาสสู่วงกว้างสำหรับผู้ที่มีใจรักทางด้านดนตรี

“เรามีการออดิชั่นทั่วประเทศ จาก 5 ภูมิภาค และได้รับการตอบรับที่ดี มีวงเข้าร่วมกว่า 300 วง และวันนี้เราคัดเหลือ 30 วงสุดท้ายจาก 2 คลาส และสิ่งที่พิเศษสำหรับในปีนี้ คือ เราได้จัดกิจกรรม THE POWER BAND MUSIC CAMP ขึ้นเป็นครั้งแรกที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล น้องๆ ที่เข้าร่วมค่ายดนตรีในครั้งนี้ ได้พบกับศิลปินตัวจริง เสียงจริงระดับประเทศที่มาอบรมทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการร้อง การบรรเลงดนตรี รวมทั้งการแต่งเพลง การเรียบเรียงเสียงประสาน เป็นต้น ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคน ได้แลกเปลี่ยน ได้เรียนรู้ และได้รู้จักกันด้วย ต้องขอบคุณ คิง เพาเวอร์ และพันธมิตรทุกท่านที่ทำให้เวทีนี้เป็นการสร้างโอกาสที่แท้จริง ให้เกิดพลังแห่งความเป็นไปได้ ในการพัฒนาวงการดนตรีไทยด้วยความยั่งยืน และขอบคุณผู้เข้าแข่งขันทุกท่าน วันนี้เราเห็นพลังของทุกคนแล้ว”

จาก 300 เหลือ 30 สู่แชมป์ประเทศไทย

สำหรับวงดนตรี 30 วงสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศระดับประเทศของเวที THE POWER BAND 2023 Season 3 ประกอบด้วย Class A (ระดับมัธยมศึกษา) จำนวน 15 วง ได้แก่ วง New Cluster สังกัดอิสระ, วง สกลพัฒน์ โรงเรียนสกลนครพัฒนศึกษา จ.สกลนคร, วง SG Band โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพฯ, วง The PicLic Band โรงเรียนวชิราลัย จ.เชียงใหม่, วง The Humble โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา, วง Lyre Band โรงเรียนดุริยางค์ทหารบก กรุงเทพฯ, วง The Abstract โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง, วง Chada Band โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย จ.ภูเก็ต, วง I Love Wednesday โรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพฯ, วง ALICEMAN สังกัดอิสระ, วงเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ, วง ไข่ดาว โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี จ.นครปฐม, วง Hidden Track โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย จ.ศรีสะเกษ, วง DS.RU.Band โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ และวง Lonely Pepperoni โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่

โดยวงที่ชนะใน Class A ได้แก่ วงเตรียมอุดมศึกษา จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ

“วันนี้รู้สึกดีใจมากๆ เลยครับ ตอนแรกพวกเราเกิดปัญหา เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค ก็ถอดใจกันแล้ว และทุกวงก็เก่งมาก ผมอยากขอบคุณครูทุกคนที่มาช่วยซ้อม พวกเรามีวันนี้ได้ เพราะทุกคนเลยครับ และก็ขอขอบคุณ THE POWER BAND และ คิง เพาเวอร์ ที่เห็นศักยภาพของเยาวชนไทยที่พวกเราได้แสดงออกมา และเปิดโอกาสให้พวกเราได้ทำในสิ่งที่พวกเรารัก” นักร้องนำ ตัวแทนวงกล่าว

Class B (ระดับบุคคลทั่วไป) จำนวน 15 วง ได้แก่ วง Airtemp กรุงเทพฯ, วง The Pump กรุงเทพฯ, วง Hornyboy กรุงเทพฯ, วง หน้าโรงเรียน จ.ศรีสะเกษ, วง Reunion จ.มหาสารคาม, วง อรชร จ.สมุทรปราการ, วง Berzurk จ.เชียงใหม่, วง Ground Zero จ.ลำพูน, วง UnToxic จ.ลำพูน, วง Four Man Toey จ.สงขลา, วง The Six Sons จ.ภูเก็ต, วง 01.00 p.m. กรุงเทพฯ, วง Dachshund กรุงเทพฯ, วง TOMs & JERRY จ.นครปฐม และวง อุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี

โดยวงที่ชนะ Class B ได้แก่ วงหน้าโรงเรียน จากจังหวัดศรีสะเกษ

"พวกเราวงหน้าโรงเรียนรู้สึกดีใจมากที่ได้รางวัลชนะเลิศ THE POWER BAND ซีซั่น 3 และนอกจากเราจะได้รางวัลชนะเลิศแล้ว เรายังได้รางวัล Outstanding ด้วย ก็ขอขอบคุณทาง THE POWER BAND มากๆ นะคะที่เล็งเห็นศักยภาพของพวกเราทั้งคู่และของวงด้วย นี่เป็นรางวัลที่ใหญ่มากๆ สำหรับพวกเรา ขอบคุณคิง เพาเวอร์ ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ให้พวกเราได้ออกมาเล่นดนตรีด้วยกัน ได้ทำสิ่งที่พวกเราชอบ แล้วก็ได้ทำตามฝันของพวกเรานะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ” นักร้องนำ วงหน้าโรงเรียน แชมป์ Class B กล่าว

โชว์พิเศษจากรุ่นพี่ และศิลปินวงป๊อปแถวหน้าของไทย

นอกจากนี้ ในงานประกาศรางวัล THE POWER BAND 2023 Season 3 น้องๆ ผู้เข้าแข่งขัน ยังได้ชมโชว์พิเศษจากรุ่นพี่ โดยในปีนี้ Jazz Passion แชมป์ Class B ซีซั่นที่แล้ว มาแสดงฝีมือพร้อมซิงเกิล ‘คืนสุดท้าย’ ที่ได้ร่วมทำกับค่ายเพลง Muzik Move และปิดท้ายงานด้วยความสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากวงป๊อปแถวหน้าของไทย TATTOO COLOUR และศิลปินรุ่นน้อง SERIOUS BACON ที่มาร่วมโชว์พลังเสียงในฐานะศิลปินไอดอลของงาน THE POWER BAND 2023 Season 3

สามารถติดตามผลการประกาศรางวัลรอบชิงชนะเลิศของเวทีประกวดวงดนตรีคุณภาพระดับประเทศ THE POWER BAND 2023 Season 3 ได้ที่ช่องทาง Facebook และ Instagram King Power Thai Power พลังคนไทย