‘โค้ช’ คือ คนสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬา แต่ถ้าไร้ซึ่งการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา คุ้มครอง และช่วยเหลือ เป้าหมายที่นักที่นักกีฬาตั้งไว้ก็อาจจะไปถึงได้ช้า และนั่นคือที่มาของ ‘กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ’ หน่วยงานที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้วงการกีฬาไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน
‘กองทุนกีฬา’ แรงขับเคลื่อนวงการกีฬาไทย
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หรือ National Sports Development Fund (NSDF) คือ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 36 เป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเพื่อการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา คุ้มครอง ช่วยเหลือ และจัดสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา โดยมีวัตถุประสงค์ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้แก่
ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมกีฬา ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ, ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานักกีฬา บุคลากรกีฬา และสมาคมกีฬา, ส่งเสริมและสนับสนุนการเตรียมนักกีฬาเพื่อให้เป็นนักกีฬา ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ, สนับสนุนเงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และสมาคมกีฬา ที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” ซึ่งประกอบคุณความดีแก่การกีฬาของชาติหรือนำชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติ, สนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬา, ช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และผู้ซึ่งประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหายหรืออันตรายจากการแข่งขันกีฬา และกรณีอื่นอันควรแก่การสงเคราะห์, ส่งเสริมและสนับสนุนกีฬามวยตามกฎหมายว่าด้วยกีฬามวย และกีฬาอาชีพตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมกีฬาอาชีพ และเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน
โดยแบ่งออกเป็น 5 กองทุน ได้แก่ เงินรางวัล, การพัฒนากีฬา, สวัสดิการ, การศึกษา และอื่นๆ บริหารงานโดยคณะกรรมการบริหารกองทุน ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
แต่ถ้าอธิบายสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายๆ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คือหน่วยงานที่ส่งเสริมและพัฒนานักกีฬา บุคลากร องค์กรกีฬาไทย ในการเตรียมการแข่งขันและสวัสดิการต่างๆ ให้มีศักยภาพมากขึ้นทั้งในระดับชาติและนานาชาติ นั่นเอง
ปรับภาพลักษณ์ เปลี่ยนโลโก้ ‘Fuel of Fire เชื้อไฟแห่งการกีฬา’
เมื่อพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ‘กองทุนกีฬา’ ได้จัดกิจกรรมโครงการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เป็นมากกว่าผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลัง แต่เป็นแรงขับเคลื่อน เป็นผู้นำ และเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะพาทัพนักกีฬาไทยมุ่งหน้าสู่ชัยชนะในเส้นทางของตัวเอง
ตราสัญลักษณ์ หรือ โลโก้ ที่ได้รับเลือกเป็นผลงาน ‘Fuel of Fire เชื้อไฟแห่งการกีฬา’ ออกแบบโดยนายวีระพงษ์ อมรสิน โดยเปรียบ ‘กองทุนกีฬา’ เหมือนเปลวไฟที่ส่องสว่าง ที่คอยส่งเสริม พัฒนาวงการกีฬาให้สว่างไสวรุ่งเรืองเป็นแรงขับเคลื่อนให้วงการกีฬาของไทย ซึ่งนอกจากจะดูทันสมัยมากขึ้น แต่มีความเรียบง่ายที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์หรือวัสดุต่างๆ ที่จะทำในเชิงการค้าได้ด้วย
Grow Together! สนับสนุนฟุตบอลไทยสู่ความยั่งยืน
ถ้าอยากเห็นวงการฟุตบอลไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน ควรต้องยื่นมือเข้าไปคัดสรร บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์กันตั้งแต่เป็นต้นกล้า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเองเล็งเห็นความสำคัญข้อนี้ จึงได้ร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทำโครงการ Grow Together! ให้เยาวชนไทยทั่วประเทศ เติบโตเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพภายใต้มาตรฐานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ผ่านการวิจัยและประสานงานระหว่างฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสมาคมฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นแห่งแรก กับการจัดวางโครงสร้างการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลเยาวชนทั้งระบบ โดยการสร้างและจัดเก็บฐานข้อมูล รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ เพื่อการพัฒนาหลักสูตรการอบรมผู้ฝึกสอนอะคาเดมี่ฟุตบอล ศักยภาพนักกีฬา และการจัดการแข่งขันลีกเยาวชน ตลอดจนการทบทวนและวิเคราะห์เพื่อนำผลที่ได้ไปปรับปรุงหลักสูตร ภายใต้มาตรฐานเดียวกันที่จะส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนในการสร้างโครงการฯ ที่ได้ร่วมกันคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดย อาร์แซน แวงแกร์ (Arsène Wenger) หัวหน้าแผนกพัฒนาฟุตบอลของฟีฟ่า และอดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอล มาใช้พัฒนาวงการฟุตบอลไทย ด้วยแนวคิด “ฟุตบอลทุกชาติสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ และทุกชาติสามารถผลิตเด็กขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่มีคุณภาพได้เหมือนเป็น Ecosystem ซึ่งการทำ Ecosystem ในการเล่นฟุตบอลให้ถูกต้อง จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลได้”
โครงการ Grow Together! จึงเป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยสร้างนักฟุตบอล และสามารถพัฒนาศักยภาพเด็กให้เติบโตขึ้นเป็นนักฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพภายใต้มาตรฐานเดียวกัน จนทำให้ทีมชาติแต่ละชาติมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
‘เสนอ’ เพื่อ ‘สนับสนุน’
คุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาวงการกีฬาไทยได้ ด้วยการแสดงความคิดเห็นว่าต้องการให้กองทุนฯ สนับสนุนนักกีฬาในเรื่องอะไร และสนับสนุนนักกีฬาไทยทางใดอีกบ้าง ผ่านทางทวิตเตอร์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ‘Sportfund NSDF’ และสามารถติดตามข่าวสารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ทางเว็บไซต์ nsdf.or.th