คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุมพิจารณาบทลงโทษต่างๆที่เกิดขึ้นในฟุตบอลลีกอาชีพ ครั้งที่ 15 ประจำฤดูกาล 2024-25 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ซึ่งการพิจารณาเคสต่างๆมีดังนี้
1.ไทยลีก 3 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร พัทลุง เอฟซี พบ สโมสร เอฟซี ยะลา เหตุการณ์ ในนาทีที่ 90+6 ผู้ตัดสินเพิ่มเวลาอีก 2 นาที เนื่องจากมีการปฐมพยาบาลผู้เล่นที่บาดเจ็บ ผู้เล่นสโมสร พัทลุง เอฟซี ได้วิ่งไปกับผู้เล่นสโมสร เอฟซี ยะลา ในเขต 18 หลา แล้วล้มลงทั้งคู่ ซึ่งผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาล์วแต่อย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่สโมสร เอฟซี ยะลา และผู้เล่นทั้งตัวจริงและตัวสำรองวิ่งกรูไปหาผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ตรงมุมธง เกิดเหตุชุลมุนอยู่ประมาณ 3 นาที นายซุลกิ๊ฟลี ดีสะเอะ เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร เอฟซี ยะลา ได้วิ่งออกจากเขตเทคนิคโดยไม่ได้รับอนุญาตและได้เข้ามาคัดค้านการตัดสินพร้อมกับมีการใช้ส่วนหัวไหล่ชนกระแทกที่ส่วนอกของผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1
ผลพิจารณาลงโทษ นายซุลกิ๊ฟลี ดีสะเอะ เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร เอฟซี ยะลา เจตนาทำร้ายเจ้าหน้าที่การแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.8 (1) ปรับเงิน 60,000 บาท และถูกพักการทำหน้าที่ 3 เดือน เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ให้เพิ่มโทษจากเดิมเป็น 2 เท่า จึงเพิ่มโทษปรับเงินเป็นปรับเงิน 120,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 30,000 บาท และเพิ่มโทษถูกพักการทำหน้าที่เป็น 6 เดือน
ต่อเนื่องกับประเด็นการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ส่งเรื่องให้คณะประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน โดยเหตุการณ์ คือ ผู้ตัดสินได้ให้ข้อมูลว่าในวันแข่งขันให้ใบแดงถูกคน แต่เขียนชื่อผู้กระทำความผิดในรายงานผิดคน จึงขอแก้ไขรายงานมาภายหลัง เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ขอแก้ไขรายชื่อการให้ใบแดงจาก นายศุกรีย์ มะอิง ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู เป็นผู้รักษาประตูสำรองหมายเลข 99 นายฟิรฮัน มะแซ ที่ได้รับใบแดง และปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มอีกว่ามีผู้กระทำความผิดแต่ไม่ได้รับใบแดง และไม่ได้รายงานมาในรายงานฉบับแรกคือ นายซุลกิ๊ฟลี ดีสะเอะ ใช้มือผลักผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 จากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ตัดสินมีการแก้ไขรายงานหลังจากจบการแข่งขันไปแล้ว 5 วัน เป็นการรายงานผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อส่วนงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย
ผลพิจารณาโทษ ลงโทษนาย วิชัย ปานนิล ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (3) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 เดือน เนื่องจากเขียนรายงานที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงและมีผลเสียหาย เป็นเหตุให้คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท พิจารณาลงโทษบุคคลที่ไม่ได้กระทำผิด เพราะไม่ได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
ลงโทษนายณัฐพนธ์ คงอยู่ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 4 สัปดาห์ เนื่องจากมีเหตุการณ์กระทำผิดที่ต้องถูกไล่ออกในเขตพื้นที่รับผิดชอบ แต่ไม่แจ้งข้อมูลผู้กระทำผิดให้ผู้ตัดสินเขียนรายงาน
2. เหตุการณ์ที่สอง ในไทยลีก3 คู่ของ เอซีดีซี เอฟซี พบ สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ โดย สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์ เหตุการณ์ที่ 1 ในนาทีที่ 38 จากจังหวะก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 24 นายศิริชัย ภูมิพัฒน์ สโมสร เอซีดีซี เอฟซี จะทำประตูได้นั้น ได้มีการใช้มือผลักและดันผู้เล่นสโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ก่อนแล้วทำให้ผู้เล่นสโมสร แปดริ้ว ซิตี้ เสียจังหวะในการเล่น แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้ฟาล์วกับสโมสรแปดริ้ว ซิตี้
ผลพิจารณาโทษ ลงโทษนายฤทธิเกียรติ จิตรตระกูล ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากในขณะที่มีการแย่งชิงลูกบอลผู้เล่นฝ่ายรุกได้ใช้มือผลักผู้เล่นฝ่ายรับ ก่อนที่จะไปเล่นลูกบอลแล้วทำประตูได้ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตามกติกาข้อ 12 Fouls and Misconduct ที่ต้องให้เตะโทษโดยตรง แต่ผู้ตัดสินให้เล่นต่อไปจนทำให้ทีมเสียประตูถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง
ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 ในนาทีที่ 89 จากจังหวะที่สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ได้ลูกเตะมุมเข้ามานั้น ผู้เล่นสโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ถูกสโมสร เอซีดีซี เอฟซี ชนปะทะจนล้มลง ผู้ตัดสินได้มีการเป่าและให้สัญญานมือว่าเป็นลูกจุดโทษ หลังจากนั้นมีการชุลมุนกันเกิดขึ้น ผู้ตัดสินจึงได้มีการหารือกับทีมงานผู้ตัดสินอีกครั้ง ก่อนที่ตัดสินใหม่ให้เป็นลูกเตะมุมของสโมสร แปดริ้ว ซิตี้ แทน
ผลพิจารณาโทษ ลงโทษนายฤทธิเกียรติ จิตรตระกูล ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากขณะมีการแย่งชิงลูกบอลที่ลอยอยู่ในอากาศ ผู้เล่นฝ่ายรุกได้ถูกผู้เล่นฝ่ายรับ ขัดขาจนล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้มีการเตะโทษ ณ จุดโทษ หลังจากนั้นมีการประท้วงของผู้เล่นและได้กลับคำตัดสินให้เป็นการเตะจากมุม เนื่องจากเห็นว่าไม่มีการกระทำผิดกา ซึ่งการกลับคำตัดสินของผู้ตัดสินนั้นไม่ถูกต้อง การตัดสินเดิมนั้นถูกต้องแล้ว
3. เหตุการณ์ที่สาม ในไทยลีก 3 วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร ทหารอากาศ เอฟซี พบ สโมสร พราม แบงค็อก โดยสโมสร พราม แบงค็อก ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์ โดยผลพิจารณาโทษ ลงโทษนายสุทธิพงษ์ ทีฑะสุข ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากการดึงของผู้เล่นหมายเลข 23 Mr. ALEXANDER PHILIP DOMINIC TKACZ สโมสร พราม แบงค็อก นั้นเพียงเล็กน้อย ไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนที่ของผู้เล่นหมายเลข 17 นายแสงทอง วิเชียร ของสโมสร ทหารอากาศ เอฟซี ดังนั้นการให้เตะโทษ ณ จุดโทษนั้น ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง และจากการตัดสินผิดพลาดในครั้งนี้ส่งผลให้ทีมเสียประตูและมีผลต่อการแข่งขัน