เป็นหนึ่งทีมที่ผลงานอาจไม่ต้องโดดเด่น แต่เดินไปอย่างคงเส้นคงวา กอบโกยแต้มไปเรื่อยๆ จนจบ 15 นัดเลกแรกไทยลีก 2022-23 สามารถรั้งอยู่อันดับ 3 ของตาราง เก็บไป 29 แต้ม ด้วยผลงาน ชนะ 8 เสมอ 5 แพ้ 2 กลายเป็นทีมม้ามืดแห่งฤดูกาลนี้จริงๆ
ไม่ใช่ใครที่ไหน พวกเขาคือราชบุรี เอฟซี ที่โชว์ฟอร์มได้เกินคาดเอามากๆ เกาะกลุ่มท็อปโฟว์อย่างเหนียวแน่น รักษาผลงานมาตรฐานไว้อย่างมั่นคง ถึงแม้ว่าโอกาสลุ้นแชมป์ก็ไม่ได้สูงมากนัก เพราะตามหลังจ่าฝูงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ถึง 10 คะแนน
"ราชันมังกร" มีสถิติสุดไฉไลโดยเฉพาะยามที่เล่นในถิ่นดราก้อน โซล่าร์ ปาร์ค พวกเขาไม่เสียท่าปราชัยให้กับทีมใดเลยแม้แต่เกมเดียว 8 นัดในบ้านไทยลีกซีซั่นนี้ ชนะ 4 เสมอ 4 ยิง 10 ประตู และเสียเพียง 4 ลูกเท่านั้น โดยพวกเขาเป็น 1 ใน 3 ทีมที่ยังไม่แพ้ใครในรังตัวเองบนลีกสูงสุดฤดูกาลนี้ต่อจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด
การได้นักเตะใหม่เข้ามาเติมเต็ม อาทิ อัลวิน ฟอร์เตส, ไฮน์ เพียว วิน, ปาร์ค จุน ฮยอง รวมถึง จักรพันธ์ แก้วพรม มิน่าเชื่อว่าจะสามารถช่วยกันยกระดับทีมขึ้นมาเป็นทีมที่แพ้ยากได้ และสร้างสรรค์เกมเปลี่ยนจากจุดอ่อน ให้เป็นจุดแข็งได้เพียงพริบตา
บุรุษที่ต้องยกความดีความชอบคงหนีไม่พ้น ชาบี้ โมโร่ กุนซือที่นำเข้ามาจากแดนกระทิงดุ อดีตผู้ช่วยโค้ชของ โจเซฟ เฟร์เร่ ในถิ่นบางกอกกล๊าส เอฟซี ประเดิมคุมทีมบนแดนสยามเมืองยิ้มเป็นหนแรกในฐานะเฮดโค้ชใหญ่ สามารถสร้างผลงานได้เป็นที่ประจักษ์ โชว์กึ๋นแก้เกมได้หลายครั้ง จนเป็นที่ประทับใจของแฟนบอลราชันมังกร
อีกหนึ่งบุคคลที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้นั่นคือ "คุณฟลุ๊ค" ธนวัชร์ นิติกาญจนา ประธานสโมสรฯ ชายผู้คลั่งไคล้ฟุตบอล และรักวงการลูกหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่นำเข้าทั้งหัวหน้าผู้ฝึกสอนและนักเตะก่อนออกสตาร์ตในฤดูกาล 2022-23 ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ กลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญให้กับทีมเหลือเกิน
โดยเฉพาะการได้ตัว "โน๊ต" จักรพันธ์ แก้วพรม มิดฟิลด์จอมเก๋าวัย 34 ปี มาจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้อายุอานามใกล้ช่วงท้ายอาชีพค้าแข้ง แต่เขายังคงงัดฟอร์มกระฉูดให้กับ "ราชันมังกร" จนกลายเป็นนักเตะคีย์แมนที่จะขาดเขาไม่ได้เลย ณ เวลานี้
แม้ว่าทีมดังจากแดนโอ่งมังกร จะผลงานดีเกินคาดตลอด 15 เกมที่ผ่านมา แต่พวกเขาไม่ประมาท ยังเดินหน้าเสริมทัพเพิ่มในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบสอง ด้วยการเปิดตัว ซาฟาวี ราซิด ปีกซ้ายความเร็วสูงวัย 25 ปีดีกรีทีมชาติมาเลเซีย และมุสซ่า ซิดิเบ้ ปีกขวาสัญชาติมาลี วัย 28 ปี เข้ามาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ
ทั้งสองคนถูกยืมตัวมาจากสโมสรยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ทีมแกร่งแห่งศึกมาเลเซีย ซูเปอร์ ลีก ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล นอกจากจะได้ 2 สตาร์ดังมาแล้ว ยังเป็นการตีตลาดอาเซียนให้แฟนบอลมาเลเซียมาติดตามไทยลีก และราชบุรี เอฟซี เพิ่มไปอีกทางด้วย เรียกได้ว่า ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
งานนี้ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ราชบุรี เอฟซี จะมีการปรุงแต่งเสริมใครเข้ามาสู่ทีมอีก เหมือนกับผลงานในช่วงเลกแรกที่บอกเลยว่า "สอบผ่าน"
ส่วน 15 นัดสุดท้ายของเลกสอง ที่จะคัมแบ็กหวดแข้งในวันที่ 21 ม.ค.66 พวกเขาจะยังรักษามาตรฐานให้ดีเหมือนเดิมได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป !
ผลงาน 15 นัดเลกแรกของ "ราชันมังกร" ราชบุรี เอฟซี
- นัดที่ 1 วันที่ 13 ส.ค.65 ชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า)
- นัดที่ 2 วันที่ 21 ส.ค.65 ชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 2-0 (เยือน)
- นัดที่ 3 วันที่ 28 ส.ค.65 ชนะ ลำพูน วอริเออร์ 1-0 (เหย้า)
- นัดที่ 4 วันที่ 2 ก.ย.65 ชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี 2-0 (เยือน)
- นัดที่ 5 วันที่ 11 ก.ย.65 เสมอ โปลิศ เทโร เอฟซี 1-1 (เหย้า)
- นัดที่ 6 วันที่ 2 ต.ค.65 ชนะ ลำปาง เอฟซี 1-0 (เหย้า)
- นัดที่ 7 วันที่ 8 ต.ค.65 แพ้ สุโขทัย เอฟซี 0-1 (เยือน)
- นัดที่ 8 วันที่ 15 ต.ค.65 เสมอ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า)
- นัดที่ 9 วันที่ 19 ต.ค.65 ชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 (เยือน)
- นัดที่ 10 วันที่ 23 ต.ค.65 เสมอ ชลบุรี เอฟซี 1-1 (เหย้า)
- นัดที่ 11 วันที่ 30 ต.ค.65 เสมอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-1 (เยือน)
- นัดที่ 12 วันที่ 6 พ.ย.65 เสมอ การท่าเรือ เอฟซี 1-1 (เยือน)
- นัดที่ 13 วันที่ 11 พ.ย.65 ชนะ พีที ประจวบ เอฟซี 5-1 (เยือน)
- นัดที่ 14 วันที่ 20 พ.ย.65 ชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3-0 (เหย้า)
- นัดที่ 15 วันที่ 25 พ.ย.65 แพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-1 (เยือน)
" กอล์ฟ เบนเทเก้ "