บทความที่ 'SIAMSPORT' ใคร่เชิญคุณมาทำความรู้จักกับ 'เรื่องใหม่' ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหม่, นักเตะใหม่, ผู้บริหารใหม่, โค้ชคนใหม่ และอะไรก็ตามที่ 'ใหม่' เรารวบรวมข้อมูล รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาให้คุณได้อ่านกัน!!
แม้ว่าจะนำโด่งเป็นจ่าฝูง ไทยลีก 2022-23 และมีแต้มห่าง ชลบุรี เอฟซี อันดับ 2 อยู่ถึง 9 คะแนน ทว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเดินหน้าเพิ่มเติมความแข็งแกร่งให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง
เวลานี้พวกเขามีผู้เล่นโควตาต่างชาติอยู่หลายราย ไล่ตั้งแต่ แฟร้งค์ คาสตาเญด้า (โคลอมเบีย), โจนาต็อง โบลันญี่ (ดีอาร์คองโก), ลอนซาน่า ดูมบูญ่า (กีนี), โกรัน เคาซิช (เซอร์เบีย) และ เรบิน ซูลาก้า (อิรัก) ในฐานะนักเตะเอเชีย
รายชื่อเหล่านี้ต่างทำผลงานในลีกได้อย่างยอดเยี่ยม และนั่นจึงเป็นที่มาของฟอร์มการเล่นที่มาตรฐานสูงในปัจจุบัน
โดยเฉพาะ เคาซิช ที่จัดว่าเป็นดีลที่คุ้มค่ามากๆ ในซีซั่น 2022-23 กับจำนวน 9 ประตู ทั้งๆ ที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง
แม้จะเจิดจรัสกับการรั้งจ่าฝูง อีกทั้งก็ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ฟุตบอลถ้วยทุกรายการ แต่ด้วยความเป็น บุรีรัมย์ พวกเขาไม่เคยหยุดหย่อนที่จะเพิ่มเติมไฟแห่งความกระหายต่อชัยชนะให้ลุกโชน
นั่นจึงเป็นที่มาของ ฮาริส วุชคิช แนวรุกคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้าสดๆ ร้อนๆ
แนวรุกวัย 30 ปี มีดีกรีทีมชาติสโลวีเนีย ติดตัว อีกทั้งยังผ่านการเล่นฟุตบอลที่ยุโรป มาอย่างโชกโชน
เขาเริ่มต้นชีวิตลูกหนังในบ้านเกิดกับ ดอมเซเล่ และด้วยความเก่งกาจ เขาประเดิมให้ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียง 16 เท่านั้น
การที่ได้เล่นในลีกสูงสุดของสุดของสโลวีเนีย ตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้แมวมองจากทั่วสารทิศต่างตบเท้าเข้ามาเมียงมองแนวรุกรายนี้ โดยเฉพาะ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่ของอิตาลี ที่จับตาอย่างใกล้ชิด
แต่สุดท้ายเป็น นิวคาสเซิ่ล จากเกาะอังกฤษ ที่ได้ลายเซ็นของเจ้าหนู วุชคิช ไปครอง ในปี 2008
อย่างไรก็ตาม กับทีมสาลิกาดง เขาไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง เพราะไม่สามารถสอดแทรกเข้าไปอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้ ว่าแล้วจึงถูกส่งไปให้ คาร์ดิฟฟ์, ร็อตเตอร์แฮม, เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์), วีแกน และ แบร็ดฟอร์ด ยืมตัว
การที่ได้สั่งสมกระดูกในระหว่างการยืมตัว วุชคิช ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนกระทั่งถูกเรียกไปติดทีมชาติสโลวีเนีย เป็นครั้งแรกในปี 2012 และก็เป็นขาประจำของ ดิ ดราก้อนส์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ผลงานของเขาในนามทีมชาติถือว่ามีสง่าราศีไม่น้อย โดยเฉพาะล่าสุดในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020-21 กรุ๊ป ซี ที่เขาคว้าดาวซัลโวสูงสุดร่วมกับ สเตฟาน โยเวติช (มอนเตเนโกร) ด้วยจำนวน 4 ประตู
สัญญาของแนวรุกเจ้าของความสูง 1.91 เมตร กับ นิวคาสเซิ่ล หมดลงในปี 2017 ทำให้เขาไปต่อที่ ทเวนเต้ สโมสรดังของลีก เนเธอร์แลนด์ส แถมยังได้เสื้อหมายเลข 10 อีกต่างหาก
ผลงานของ วุชคิช กับ เดอะ ทัคเกอร์ส จัดว่าน่าดูชมไม่น้อย เพราะเขาอยู่ในทีมชุดแชมป์ลีกรองในฤดูกาล 2018-19
พอเลื่อนชั้นกลับสู่ เอเรดิวิซี่ ในซีซั่น 2019-20 ฟอร์มของเขาจัดจ้านเกินห้ามใจ กับการลงเล่นไป 25 นัด แต่ทำได้ถึง 11 ประตู เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม และเทียบเท่า ดูซาน ทาดิช ของ อาแจ็กซ์ แชมป์ในปีนั้น
แม้จะเล่นได้อย่างโดดเด่น ทว่า วูชคิช กลับไม่ได้รับการขยายสัญญาจาก ทเวนเต้ และนั่นทำให้เขาได้ย้ายไป เซกุนดา ลีกรองของสเปน กับ เรอัล ซาราโกซ่า ในฤดูกาล 2020-21
ผลงานของเขากับต้นสังกัดใหม่นั้นไปไม่ค่อยสวยนัก เพราะยิงไม่ได้เลยสักประตู กับการลงสนามไป 19 นัด ทำให้ถูกปล่อยไปที่ ริเยก้า สโมสรในลีกสูงสุดของโครเอเชีย ในรูปแบบของการยืมตัว
ที่ ริเยก้า - วุชคิช กลับมาฟอร์มกระฉูดอีกครั้ง กับการซัดไป 12 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ เป็นรองดาวซัลโวของทีม และจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2021-22
กระทั่งวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2022 การผจญภัยครั้งใหม่ของแนวรุกทีมชาติสโลวีเนีย ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง กับการย้ายมาเล่นนอกยุโรป เป็นหนแรกในชีวิต โดยมีปลายทางคือจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ตั้งของสโมสรเจ้าของแชมป์ ไทยลีก 7 สมัย
วุชคิช กลายเป็นนักเตะคนใหม่ของปราสาทสายฟ้า หลังประกาศอย่างเป็นทางการจากต้นสังกัดใหม่
การย้ายมาของเขาทำให้ บุรีรัมย์ จะมีความหลากหลายมากขึ้นในแดนหน้า เพราะทรัพยากรที่มีอยู่อย่าง คาสตาเญด้า, โบลันญี่, ดูมบูญ่า รวมไปถึงกลุ่มนักเตะไทย ทั้ง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และยังมี อ่อง ตู สตาร์เมียนมาร์ อีกราย ยิ่งทำให้ยอดทีมแห่งแดนอีสานน่ากลัวกว่าเก่าหลายเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถบอกได้ว่า วุชคิช จะประสบความสำเร็จหรือไม่กับการค้าแข้งในดินแดนขวานทอง เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาออกมาเล่นนอกยุโรป
แต่ด้วยดีกรีและประสบการณ์ที่มี ยังพอมั่นใจได้ว่าเขาจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับ บุรีรัมย์ ได้แน่
ทว่าคำตอบของทุกคำถามขึ้นอยู่กับผลงานในสนามหญ้าสีเขียวเท่านั้น และเราต้องรอดูกันต่อไปว่า วุชคิช จะไปได้ไกลเพียงใดภายใต้เสื้อสีกรมท่าของ บุรีรัมย์....
ฮาริส วุชคิช
สัญชาติ: สโลวีเนีย
อายุ: 30
ตำแหน่ง: กองกลางตัวรุก
สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ใหม่ใน ไทยลีก: 2022