อีสาน ยูไนเต็ด ยื่นหนังสือถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เร่งคืนสิทธิ์ลุยลีกสูงสุด ภายใน 15 วัน ขู่พร้อมดำเนินคดีสภาลูกหนัง หากยังเพิกเฉย
ตามที่ศาลปกครองสูงสุด ได้ตัดสินให้สโมสรฟุตบอลอีสาน ยูไนเต็ด ชนะในคดีที่ยื่นฟ้องสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทั้งคดีหมายเลขดำที่ อร.25/2560, หมายเลขแดงที่ อร.88/2565 รวมถึงศาลปกครองอุบลราชธานี พิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 52/2556, คดีหมายเลขแดงที่ 847/2559 นั้น
ล่าสุด "เสี่ยติ่ง" ชัยกร ชัยมงคลยศ ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ทางบริษัทจะได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายจากการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตัดสินให้สโมสรอีสาน ยูไนเต็ด เสียสิทธิ์ในการทำทีม และเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก อันเป็นลีกสูงสุดของประเทศ โดยทางสมาคมได้เริ่มทยอยจ่าย และแจ้งว่าจะจ่ายครบจำนวนตามคำตัดสินของศาล ภายในวันที่ 15 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
"ทว่า ในส่วนของสิทธิ์ในการเข้าร่วมฟุตบอลไทยลีก หรือรีโว่ ไทยลีก ในปัจจุบันนั้น ทางบริษัท โดยตัวผมในฐานะกรรมการผู้จัดการ ได้มีหนังสือทวงถามไปยังสมาคมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.65 แต่ยังถูกนิ่งเฉยจากฝ่ายบริหารของสมาคม ทั้งที่คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ตัดสินให้สมาคมต้องคืนสิทธิ์นี้ให้กับสโมสรอีสาน ยูไนเต็ด" เสี่ยติ่ง กล่าว
นายชัยกร เปิดเผยต่ออีกว่า ที่ผ่านมาเราให้เวลาสมาคม และบริษัท ไทยลีก จำกัด มาพอสมควรแล้ว ดังนั้นในวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ส่งหนังสือทวงสิทธิ์ เป็นครั้งที่ 2 ไปถึงนายกสมาคม โดยแจ้งว่า ทางสมาคมต้องคืนสิทธิ์ และให้ได้รับใบอนุญาตเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก หรือไทยลีก 1 (ปัจจุบันรีโว่ ไทยลีก) ลำดับที่ 6 อันเป็นอันดับก่อนจะมีคดีฟ้องร้องต่อศาลปกครอง"
"ทั้งนี้ สมาคมฯต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ และแจ้งกลับมายังบริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด ภายใน 15 วัน นับแต่ได้รับหนังสือที่เรายื่นทวงถามไปครั้งที่ 2 นี้ หากทางสมาคมยังคงนิ่งเฉย ไม่เคารพคำตัดสินของศาล เราจะดำเนินคดีกับนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสภากรรมการ หรือบริษัท ไทยลีก จำกัด ตามกฎหมายไปพร้อมๆ กันต่อไป" กรรมการผู้จัดการอีสาน ยูไนเต็ด กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับคดีนี้ บริษัท ไทยลีก จำกัด จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะสมาคมฯ คือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ในบริษัท ไทยลีก จำกัด จำนวน 99.98 เปอร์เซ็นต์