โทษฐานที่ ไทยลีก 2022-23 เพิ่งปิดฉากเลกแรกไปสดๆ ร้อนๆ ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอนำข้อมูลและตัวเลขเล็กๆ น้อยๆ มาให้คุณผู้อ่านได้รับทราบโดยทั่วกัน!!
[ 1 ] คะแนนมาก 'ที่สุด'
บุรีรัมย์ 39 คะแนน
แน่นอนว่า 'จ่าฝูง' ต้องเป็นทีมที่มีคะแนนมากที่สุด ซึ่งเป็น บุรีรัมย์ ที่มีผลงานคงเส้น-คงวากว่าใครเพื่อน กับผลงานชนะไปถึง 12 นัด และเสมอแค่ 3 เกม มี 39 แต้ม ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง ชลบุรี ถึง 9 คะแนน
หากว่ามาตรฐานของปราสาทสายฟ้ายังอยู่ในระดับนี้ พวกเขามีโอกาสที่จะจบฤดูกาล 2022-23 ด้วยการคว้าแชมป์ ไทยลีก สมัยที่ 8 สูงทีเดียว
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ***
[ 2 ] ยิงประตูมาก 'ที่สุด' (ทีม)
บุรีรัมย์ 39 ประตู
ยังคงเป็น บุรีรัมย์ ที่ทำประตูได้มากที่สุดและก็ทำได้เท่ากับ 'แต้ม' ที่พวกเขามีคือ 39 ลูก
โดยผู้ทำสกอร์ให้ปราสาทสายฟ้ามากที่สุด 3 อันดับแรกคือ ศุภชัย ใจเด็ด (10 ประตู) ตามต่อด้วย โกรัน เคาซิช (9 ประตู) และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (6 ประตู)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ***
[ 3 ] เสียประตูมาก 'ที่สุด' (ทีม)
ประจวบ และ ลำปาง 33 ประตู
เกมรับของ ประจวบ และ ลำปาง ค่อนข้างจะผลงานไม่ดีนักในฤดูกาล 2022-23 เพราะเพียงแค่เลกแรก 15 นัด พวกเขาก็ถูกทะลวงไปถึง 33 ประตู
แน่นอนว่าการที่เสียเยอะขนาดนี้ ทำให้อันดับของพวกเขาอยู่โซนหนีตกชั้น โดย ประจวบ หายใจคล่องหน่อ เพราะอยู่เหนือพื้นที่สีแดงอันดับนึง ทว่า ลำปาง น่าเป็นห่วง เพราะอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร ลำปาง เอฟซี ***
[ 4 ] ยิงประตูมาก 'ที่สุด' (บุคคล)
ดานิโล่ อัลเวส (ชลบุรี) และ ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์)
ฟอร์มของศูนย์หน้านั้นย่อมส่งผลต่ออันดับตารางคะแนน เพราะเมื่อคุณมีผู้ทำประตูได้เยอะ อันดับก็ย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
ดานิโล่ คือผู้ทำให้ ชลบุรี ก้าวขึ้นมารั้งอันดับ 2 ของลีก ด้วยจำนวน 10 ลูก เท่ากับ ศุภชัย ของ บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจ่าฝูงของตาราง
[ 5 ] แอสซิสต์มาก 'ที่สุด' (บุคคล)
จักรพันธ์ แก้วพรม (ราชบุรี) และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์)
การย้ายเข้ามาของ จักรพันธ์ ส่งผลในทิศบวกให้กับ ราชบุรี อย่างชัดเจน เพราะเขาเป็นผู้สร้างความสมดุลให้กับแดนกลางของทีมอย่างแท้จริง พร้อมกับทำไป 5 แอสซิสต์ เท่ากับ ศุภณัฏฐ์ จาก บุรีรัมย์
[ 6 ] เสมอมาก 'ที่สุด'
การท่าเรือ, เมืองทอง และ ขอนแก่น 7 เกม
แม้จะไม่ถึงกับแพ้ แต่ผลเสมอนั้นไม่เป็นที่โสภานัก โดยเฉพาะกับทีมใหญ่ ทั้ง การท่าเรือ และ เมืองทอง ที่ต่างก็ทำแต้มหล่นหายไปบานตะไท
ขณะที่ ขอนแก่น นั้นเพิ่งจะมาเสมอเยอะในช่วงหลัง โดยเฉพาะตอนที่มี 'โค้ชเบ๊' ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก เป็นเฮดโค้ช ที่จบด้วย 1 คะแนน 4 นัด ติดต่อกัน ก่อนจะแยกทางกันไปเมื่อไม่นานนี้เอง
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ***
[ 7 ] คลีนชีตมาก 'ที่สุด'
ไมเคิ่ล ฟัลเคสการ์ด - แบงค็อก (8 เกม)
ซีซั่นสุดท้ายของ ฟัลเคสการ์ด เขาฝากผลงานที่น่าจดจำไว้กับ แบงค็อก ด้วยการทำไปถึง 8 คลีนชีต จาก 15 เกม ที่ลงเฝ้าเสา
ผลงานนับตั้งแต่ย้ายมาสยามประเทศในฤดูกาล 2018 ของจอมหนึบเชื้อสายเดนมาร์ก-ฟิลิปปินส์ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาควรค่าที่จะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด เท่าที่ ไทยลีก เคยมีมา
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด ***
[ 8 ] ชนะติดต่อกันมาก 'ที่สุด'
ชลบุรี 6 เกม (31 สิงหาคม - 9 ตุลาคม 2022)
ช่วงที่ติดเครื่อง ชลบุรี มีฟอร์มร้อนแรงสุดๆ กับการชนะรวด 6 นัด โดยมีถึง 2 เกม ที่เอาชัยเหนือทีมใหญ่อย่าง บีจี ปทุม และ เมืองทอง
โดยผลงาน 6 นัด ที่พวกเขาเก็บได้ 3 คะแนน ติดๆ กัน มีดังนี้
- ชนะ บีจี ปทุม 1-0
- ชนะ ลำพูน 2-0
- ชนะ ประจวบ 1-0
- ชนะ เมืองทอง 5-1
- ชนะ หนองบัว พิชญ 2-1
- ชนะ ขอนแก่น 3-0
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี ***
[ 9 ] ผู้ชม 'ต่อเกม' มาก 'ที่สุด'
บุรีรัมย์ 1 - 1 เมืองทอง 11 กันยายน 2022 (25,943 คน)
ไม่ว่าจะปีไหนและเมื่อใด เกมระหว่าง บุรีรัมย์ กับ เมืองทอง ก็ยังเป็นที่สนใจของแฟนฟุตบอลชาวไทย อยู่เสมอ
ทุกครั้งที่ปราสาทสายฟ้าฟัดกิเลนผยอง บัตรเข้าชมการแข่งขันจะขายหมดเกลี้ยงก่อนเกมทุกครั้ง ทั้งที่ ช้าง อารีน่า หรือ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ที่คาคั่งไปด้วยสาวกของทั้งสองฝั่ง
ซีซั่น 2022-23 ก็อีกเช่นกันที่ บุรีรัมย์ กับ เมืองทอง แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ต่างฝ่ายต่างใส่กันเต็มเหนี่ยว ก่อนจะจบเกมด้วยสกอร์ 1-1
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ***
[ 10 ] คุ้มค่าตัวมาก 'ที่สุด'
โกรัน เคาซิช (บุรีรัมย์)
ก่อนออกสตาร์ตซีซั่น 2022-23 บุรีรัมย์ มีผู้เล่นต่างชาติเข้ามา 4 ราย เริ่มจาก ดีเอโก้ บาร์ดันก้า (ฟิลิปปินส์), ลอนซาน่า ดูมบูญ่า (กีนี), แฟร้งค์ คาสตาเญด้า (โคลอมเบีย) และ โกรัน เคาซิช (เซอร์เบีย)
ทุกรายชื่อข้างบนมีผลงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทว่า เคาซิช นั้นเกินกว่านั้น กับการยิงไปถึง 9 ประตู ทั้งๆ ที่เล่นตำแหน่งกองกลาง และถ้ายังผลิตสกอร์ได้ต่อเนื่อง รับประกันเลยว่าแชมป์ ไทยลีก สมัยที่ 8 คงไม่หนีจาก ช้าง อารีน่า อย่างแน่นอน
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ***
[ 11 ] ลูกครึ่งไทย มาก 'ที่สุด'
การท่าเรือ (7 คน)
ทุกวันนี้มีผู้เล่นลูกครึ่งย้ายเข้ามาเล่นในเมืองไทย กันเยอะมาก ข้อดีของนักเตะสองสัญชาติคือทำให้ทีมนั้นๆ ไม่ต้องเปลืองโควตาแข้งนอก
ด้วยเหตุนี้ทำให้แทบจะทุกสโมสรในลีกมีผู้เล่นลูกครึ่งอยู่ในทีม และก็มีแค่ 3 แห่งอย่าง ขอนแก่น, ลำปาง และ ราชบุรี เท่านั้นที่ไม่มีนักเตะสองสัญชาติ (ที่เป็นคนไทย)
ทว่าทีมที่มีผู้เล่นลูกครึ่งไทย มากที่สุดคือ การท่าเรือ ที่มีถึง 7 คน
- ชาริล ชัปปุยส์ (สวิตเซอร์แลนด์)
- ฟิลิป โรลเลอร์ (เยอรมัน)
- เอเลียส ดอเลาะ (สวีเดน)
- เควิน ดีรมรัมย์ (สวีเดน)
- กุสตาฟ ซาห์ลิน (สวีเดน)
- วิลเลียม ไวเดอร์สเฌอ (สวีเดน)
- เบนจามิน เดวิส (อังกฤษ)
[ 12 ] น่าทึ่ง 'ที่สุด'
ราชบุรี กับการยึดอันดับ 3
นับตั้งแต่เลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก ในปี 2013 - ราชบุรี มีอันดับที่ดีที่สุดในตารางคืออันดับ 4 ซึ่งมันเกิดขึ้นเมื่อซีซั่น 2014 และหลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็ไม่เคยกรีดกรายเข้าใกล้กลุ๊มท๊อปโฟร์อีกเลย
อย่างไรก็ตาม ด้วยการเสริมทัพที่ลงล็อก ไม่ว่าจะเป็นการได้ จักรพันธ์ เข้ามาเติมเต็มแดนกลาง, ได้ พัก ชุน-เฮือง มาขันน๊อตแนวรับ และบวกกับ อัลวิน ฟอร์เตส ที่มาเพิ่มมิติในเกมรุก
ผลงานของ ราชบุรี เลยบินสูงกับการรั้งอันดับ 3 ของตาราง แถมยังมาพร้อมสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในลีกอีกด้วย
แม้ว่าจะตามหลัง บุรีรัมย์ ถึง 10 คะแนน แต่ในโลกของฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเลกที่สองจึงไม่อาจประมาทพวกเขาด้วยประการทั้งปวง
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร ราชบุรี เอฟซี ***
[ 13 ] น่าผิดหวัง 'ที่สุด'
บีจี ปทุม กับอันดับ 5
ด้วยทรัพยากรผู้เล่นที่มี ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงกองหน้า บีจี ปทุม มีขุมกำลังที่ทุกสโมสรต้องอิจฉา ทว่าผลงานในเลกแรกของพวกเขากลับสวนทางโดยสิ้นเชิง
ชนะ 7, เสมอ 3 และแพ้ถึง 5 นัด มีแต้มห่าง บุรีรัมย์ ถึง 15 คะแนน เป็นตัวเลขที่เหลือเชื่อมากๆ ที่เกิดขึ้นกับทีมกระต่ายแก้ว
อันที่จริง เดอะ บลู แมชีน น่าจะต้องเบียดกับปราสาทสายฟ้าอยู่บนหัวแถว แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาคงจะลุ้นแชมป์ลีกลำบาก และคงต้องเบนเข็มไปหาฟุตบอลถ้วยแทน
*** ขอขอบคุณภาพประกอบจากสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ***