5 ทีมมีลุ้นเป็นสถานีต่อไปของ "โจนาธาร เข็มดี"!

[ 1 ]  การท่าเรือ เอฟซี

สถานีคลองเตย คือที่ที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง จากปัจจัยหลายสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความคุ้นเคยกับ 'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งมีอีกตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย 

นอกจากนี้ ในรั้ว แพท สตเดี้ยม ยังอุดมไปด้วยผู้เล่นลูกครึ่งมากมาย ไล่ตั้งแต่ ชาริล ชัปปุยส์, ฟิลิป โรลเลอร์, เอเลียส ดอเลาะ, วิลเลียม ไวเดอร์สเฌอ, เควิน ดีรมรัมย์, เบน เดวิส และ กุสตาฟ ซาห์ลิน 

เรียกได้ว่า โจนาธาร ไม่ต้องห่วงเรื่องวัฒนธรรมและการสื่อสารเลยสักนิด

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟของ การท่าเรือ นั้นมีตัวเลือกมากมาย ดังนั้นถ้าปราการหลังเชื้อสายเดนมาร์ก ถูกดึงเข้ามาจริง ก็คงต้องมีบางรายที่ต้องย้ายออกไป 

[ 2 ] บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

บุรีรัมย์ คือสโมสรแรกๆ ที่นำเข้านักเตะลูกครึ่งเข้ามาเล่นใน ไทยลีก ดังนั้นพวกเขาจึงมีประสบการณ์และคอนเนกชั่นในการเสาะหาบรรดาผู้เล่นจากนอกประเทศพอสมควร

สิ่งที่จะทำให้ปราสาทสายฟ้าน่าจะสนใจในตัว โจนาธาร คือการที่ปัจจุบันชาวไทย ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟของพวกเขาอย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ กับ ชิติพัทธ์ เเทนกลาง นั้นอายุเลยเลข 3 ไปแล้ว

ด้วยเหตุผลนี้ จึงมีความเป็นไปได้เช่นกันว่า บุรีรัมย์ อาจจะกระโจนเข้ามาร่วมวงล่าปราการหลังวัย 20 ปี ผู้นี้

ที่สำคัญที่อาจจะเป็นแต้มต่อของแชมป์ ไทยลีก 7 สมัย คือการที่คุณแม่ของ โจนาธาร มีพื้นเพเป็นคนสุรินทร์ ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้ชิดกับบุรีรัมย์ มากๆ และนั่นอาจจะทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ หากย้ายมาเล่นในดินแดนขวานทองจริงๆ

[ 3 ] เมืองทอง ยูไนเต็ด

กิเลนผยองเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่มักจะดึงผู้เล่นลูกครึ่งเข้ามาอยู่ในทีม โดยปัจจุบันพวกเขามี โรนัน เปลยเมิน แบ็กซ้ายเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ส อยู่ในทีม

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ เมืองทอง คือเรื่องของการมีนักเตะอายุน้อยอยู่เต็มไปหมด ซึ่งหลายๆ คนก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ โจนาธาร ในทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ตรงจุดนี้แหละที่จะทำให้กองหลังดาวรุ่งไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนัก

เวลานี้กิเลนผยองอาจจะยังไม่ได้เฉิดฉายอยู่ในกลุ่มหัวตาราง ทว่าการที่มีโครงสร้างระบบเยาวชนที่แข็งแรง ทำให้พวกเขาสามารถต่อยอดได้ในอนาคต ซึ่งถ้าเซนเตอร์ฮาล์ฟลูกครึ่งเดนมาร์ก ย้ายเข้ามา ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กับทีม

[ 4 ] บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

แม้ว่าผู้เล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางของ บีจี ปทุม จะแน่นขนัดไปด้วยแข้งชั้นนำของลีก ไล่ตั้งแต่ อันเดรส ตูเนซ, อีร์ฟาน ฟานดี้, จักพัน ไพรสุวรรณ และ คาซิโอ ไชด์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหมดแรงปรารถนาที่จะต่อเติมความแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม ในรายของ ตูเนซ นั้นปีหน้าก็จะอายุ 36 ปี แล้ว ทำให้แชมป์ ไทยลีก 2020-21 คงต้องตระเตรียมตัวแทนในอนาคตเช่นกัน

ก่อนหน้านี้กระต่ายแก้วแสดงให้เห็นอยู่เสมอว่าพวกเขาพร้อมจะทุ่มเงินเพื่อนำเข้านักเตะอายุน้อยเข้ามาสู่ทีม ซึ่งบางที โจนาธาร อาจจะเป็นเป้าหมายรายต่อไปของ เดอะ บลู แมชีน ก็เป็นได้

เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของ บีจี ปทุม แน่ๆ อยู่ที่ว่าพวกเขาจะกระโจนเข้าหาปราการหลังทัพช้างศึกยู-23 คนนี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง

หากย้ายเข้ามาจริง การได้เห็น โจนาธาร จับคู่กับ อีร์ฟาน ก็คงจะเป็นอะไรที่น่าดูชมไม่น้อยเลยเชียว

[ 5 ] แบงค็อก ยูไนเต็ด

เวลานี้คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักของ แบงค็อก ในกรณีที่ฟิตสมบูรณ์ทุกคน จะเป็น เอแวร์ตอน กับ มานูเอล ทอม บีห์ร โดยมี สุพรรณ ทองสงค์ และ พุทธินันท์ วรรณศรี เป็นตัวเลือกรองลงมา

เมื่อกวาดสายตาดู จะเห็นว่าแผงหลังของบียูค่อนข้างจะเบียดได้ยากมากๆ เพราะถ้าตัด เอแวร์ตอน ซึ่งเป็นโควตาต่างชาติ ในรายของ ทอม บีห์ร กับ สุพรรณ ก็ดีกรีทัพช้างศึกชุดใหญ่ทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล และยิ่งกับสโมสรที่มีกำลังทรัพย์สูงลิ่วอย่าง แบงค็อก ด้วยแล้ว การจะดึง โจนาธาร เข้ามาไม่ใช่เรื่องที่ลำบากเกินไปแน่ อยู่ที่ว่าพวกเขาต้องการลายเซ็นของดาวรุ่งวัย 20 คนนี้จริงๆ หรือเปล่า