ร้อนแรงเกินต้าน!! 5 เหตุผล การท่าเรือ ฟอร์มแจ่มแหว๋ว

 ร้อนแรงเกินต้าน!! 5 เหตุผล การท่าเรือ ฟอร์มแจ่มแหว๋ว
การท่าเรือ เอฟซี คือหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ ไทยลีก ในห้วงหลายซีซั่นหลังสุด แต่ก็ยังไปไม่ถึงดวงดาวสักที

ทว่าฤดูกาล 2024-25 พวกเขาออกสตาร์ตได้ร้อนแรงสุดๆ กับชัยชนะ 4 เกมรวด เก็บ 12 คะแนนเต็ม ดังนั้นนี่อาจจะเป็นปีที่ดีของยอดทีมแห่งย่านคลองเตยก็ได้ 'SIAMSPORT' จึงคัด 5 เหตุผลที่สิงห์เจ้าท่าผลงานดีจนพร้อมออกล่าความสำเร็จมาให้คุณได้อ่านกัน!!

[ 1 ] แข้งใหม่โป๊ะเช๊ะ

หลายขวบปีหลังสุด การท่าเรือ มีสมาชิกใหม่ตบเท้าสู่รั้ว แพท สเตเดี้ยม มากมาย ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างมาพร้อมดีกรีและโปรไฟล์เลิศหรู แต่พอถึงเกมแข่งขันจริง ผลงานกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม มันจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โทรฟี่ ไทยลีก จึงยังไม่เฉียดใกล้ย่านคลองเตยสักที

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 2024-25 สิงห์เจ้าท่าดึง วิลเลน โมต้า, ลอนซาน่า ดูมบูญ่า, อีร์ฟาน ฟานดี้, อิสซัค ฮอนี่ย์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ชัยวัฒน์ บุราญ, ชนินทร์ แซ่เอียะ และ ภควัฒน์ สัพโส เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง

มันอาจจะไม่ใช่การซื้อตัวที่ทำให้ทุกคนร้องว้าวเหมือนที่ผ่านๆ มา แต่เมื่อวัดถึงคุณภาพฝีเท้า ถือว่านักเตะเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ที่ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ต้องการได้เต็มเหนี่ยว

โมต้า กับ ดูมบูญ่า คือกองหน้าที่เจนเวทีฟุตบอลไทย แม้อายุจะเยอะแล้ว แต่ประสบการณ์ของหัวหอกต่างชาติคู่นี้เข้มคลั่ก รู้จังหวะในการเล่นที่จะสร้างความแตกต่างได้ ขณะที่ อีร์ฟาน ก็มีความดุดัน อาจจะได้รับบาดเจ็บบ่อยไปหน่อย แต่ทุกครั้งที่ลงสนามเขาทุ่มเทเกินร้อยเสมอ

ฮอนี่ย์ แนวรับโปรไฟล์ไม่ฉูดฉาด ทว่าหมอนี่มีประโยชน์กับทีมมหาศาล ที่สำคัญยังเป็นศิษย์เก่าที่ รังสรรค์ มีคู่มือใช้งานเป็นอย่างดี ขณะที่ ชัยวัฒน์ บุราญ และ ชนินทร์ แซ่เอียะ อาจจะไม่ได้เป็นตัวหลัก แต่ทั้งคู่ก็มีจุดเด่นที่ช่วยสิงห์เจ้าท่าได้แน่ๆ

ในรายของ พีรดนย์ นั้นทุกคนรู้ดีถึงฝีเท้าระดับทีมชาติ ขอเพียงเวลาปรับตัวอีกนิด รับประกันเลยว่าเขาจะต้องสร้างความระทมสมองให้กุนซือ เพราะไม่รู้จะเลือกใครลงสนามดี เนื่องจากแต่ละคนนั้นเก่งกาจทั้งนั้น

ซีซั่น 2024-25 แข้งใหม่ การท่าเรือ อาจจะไม่หวือหวา แต่รับประกันเลยว่าปัญหาที่ผ่านๆ มาจะหมดไป เพราะทุกคนต่างเข้ามาเสริมในจุดส่วนที่ขาดหายของทีมนั่นเอง

[ 2 ] แท็กติก 'โค้ชอ้น' เริ่มสัมฤทธิ์ผล

นับตั้งแต่ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เข้ามาเป็นเฮดโค้ชของ การท่าเรือ ในเดือนพฤศจิกายน 2023 เขาก็ค่อยๆ ปรับจูนให้ดีขึ้นทีละนิด ซึ่งแน่นอนว่าช่วงแรกผลการแข่งขันยังไม่ตอบสนองต่อแรงปรารถนาของแฟนๆ เท่าไรนัก เนื่องจากนักเตะยังต้องใช้เวลาในการเรียนรู้แท็กติกของกุนซือคนใหม่อยู่ 

แต่พอหลายๆ อย่างเริ่มลงล็อก ผู้เล่นเริ่มซึมซับกลยุทธ์ ผลงานของทีมก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

ระบบ 4-4-2 ที่เน้นเกมด้านข้างดูจะเหมาะสมกับสิงห์เจ้าท่าชุดปัจจุบันมาก และเมื่อบวกกับคุณภาพของตัวนักเตะ แท็กติกของ 'โค้ชอ้น' จึงไหลลื่นตามไปด้วย โดยเฉพาะเกมรุกอันดุดัน

หากนับรวมจากฤดูกาล 2023-24 มาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 5 นัดติดต่อกันที่พวกเขายิงไปเกิน 2 ประตูต่อเกม ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมทีเดียว และก็ไม่มีทีท่าจะลดถอยลงเสียด้วย

ดังนั้นการที่ระบบของ รังสรรค์ เริ่มเฉิดฉาย มันจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฟอร์มของ การท่าเรือ โดดเด่นขึ้นแบบชัดเจน

[ 3 ] ตัวจริง-สำรองทดแทนกันได้

การท่าเรือ คือหนึ่งในทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นนำของประเทศ ทั้งแข้งไทย และต่างชาติ แต่เมื่อมองในแง่ของความสมดุล ดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะดูดีกว่าสโมสรอื่นเสียด้วย

ผู้รักษาประตูตอนนี้ วรวุฒิ ศรีสุภา ซึ่งเป็นมือสอง เพราะตัวจริงอย่าง สมพร ยศ ยังรักษาอาการบาดเจ็บ แต่ในฐานะพระรอง เขาก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม และไม่สร้างความลำบากใจให้แนวรับต้องกังวล อีกทั้งยังมี ชนินทร์ แซ่เอียะ อีกรายที่พร้อมลงเฝ้าเสาทุกเมื่อ

เซนเตอร์ฮาล์ฟ - ฟรานส์ ปูโตรส์ ขยับมายืนถาวร โดยมี เฉลิมศักดิ์ อักขี, อีร์ฟาน ฟานดี้ และ อิสซัค ฮอนี่ย์ แย่งตำแหน่งกันลงสนาม ซึ่งแต่ละรายก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าโค้ชจะเลือกใช้งานอย่างไร

ฟูลแบ็ก คือตำแหน่งที่ทุกคนต้องอิจฉา เพราะว่า การท่าเรือ มีทั้ง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ กับ อัสนาวี่ มังกูอาลาม ในฝั่งขวา ส่วนด้านซ้าย เควิน ดีรมรัมย์ จองพื้นที่ แต่ก็มี ชัยวัฒน์ บุราณ และ จตุรพัช สัทธรรม ที่ทดแทนได้

กองกลาง ปัจจุบันเป็น วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ประสานงาน โนโบรุ ชิมูระ โดยบนม้านั่งสำรองมีชื่อของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชานุกูล ก๋ารินทร์,  พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช รวมไปถึงสุดยอดดาวรุ่งแห่งยุคอย่าง สิทธา บุญหล้า ซึ่งแต่ละรายก็เล่นได้ไม่แตกต่างเลย

ปีกสองข้าง บดินทร์ ผาลา จองตำแหน่งแน่ๆ นอกจากนี้ยังมี ปกรณ์ เปรมภักดิ์, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา และ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ที่พร้อมทุกสถานการณ์

ส่วนแดนหน้า ณ ปัจจุบัน วิลเลน โมต้า จะลงเล่นพร้อมกับ ลอนซาน่า ดูมบูญ่า ซึ่งก็เป็นหัวหอกที่รูปร่างใหญ่ทั้งคู่ มันจึงสร้างความยากลำบากให้ฝั่งตรงข้ามในการรับมือ แถมข้างสนามยังมี ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ที่ยิงไป 5 ประตู จาก 3 เกม ในฐานะตัวสำรองอีกต่างหาก

เมื่อขุมกำลังแนวลึกมีผู้เล่นที่สามารถทดแทนกันได้โดยไม่แตกต่าง มันจึงทำให้ การท่าเรือ พร้อมชนกับทุกทีมในประเทศ และถ้าสามารถรักษามาตรฐานได้ในระยะยาว มีหรือที่แชมป์ ไทยลีก จะหนีห่างจาก แพท สเตเดี้ยม 

[ 4 ] บดินทร์ และปลอกแขนกัปตันทีม

บดินทร์ ผาลา อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งก็เข้าสู่เข้าสู่ฤดูกาลที่ 6 กับการค้าแข้งในรั้ว แพท สเตเดี้ยม และด้วยระยะเวลา ถือว่าปีกชาวอุบลราชธานีเป็นผู้เล่นระดับซีเนียร์ของสโมสร

ฟอร์มการเล่นของเขาอาจจะหวือหวา ด้วยสกิลลูกหนังอันเอกอุ เนื่องจากมีพื้นฐานจากการเล่นฟุตซอลมาก่อน แต่ความสม่ำเสมอของหมอนี่ยังไม่สามารถรักษาไว้ได้ยาวๆ 

บางเกมที่มั่นใจก็ไม่มีใครหยุดอยู่ แต่ในหลายๆ นัดจู่ๆ ก็หายไปดื้อๆ 

คือมาตรฐานการเล่นยังไม่สม่ำเสมอนั่นเอง

ทว่าฤดูกาล 2024-25 เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม เพราะว่า ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของปลอกแขนนั้นมีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ - บดินทร์ จึงรับบทบาทใหม่ที่มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง

การเป็นหัวหน้าทีมนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย - ข้อดีคือมันทำให้นักเตะที่ได้เป็นมีความกระตือรือร้นมากกว่าเดิมในฐานะผู้นำ แต่ข้อเสียก็คือตรงกันข้ามเลย และมันอาจจะส่งผลให้ผู้เล่นคนนั้นขาดความมั่นใจก็ได้ หากไม่สามารถทำผลงานได้ตามความคาดหวัง

แต่กับ บดินทร์ นั้นมีแต่ข้อดีล้วนๆ ด้วยฟอร์มจะกระฉูดสุดๆ ด้วยการยิง 3 แอสซิสต์ 3 จาก 4 เกมแรก จนกลายเป็นว่านาทีนี้เขาคือปีกที่ดีที่สุดในเมืองไทย

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของแนวรุกวัย 29 ปีคนนี้ มันจึงส่งเสริมให้ การท่าเรือ ยึดหัวหาดอยู่บนท็อปของตารางได้มั่นคง และถ้าสามารถรักษามาตรฐานได้ยาวๆ รับรองเลยว่ารางวัล 'ผู้เล่นยอดเยี่ยม' ประจำฤดูกาลคงจะอยู่ที่ แพท สเตเดี้ยม แน่นอน

[ 5 ] ฟูลแบ็กเฉิดฉาย-ชิมูระเก็บกวาดสะอาดเนี๊ยบ

วินาทีนี้ต้องยอมรับว่าฟอร์มการเล่นทางฝั่งขวาของ อัสนาวี่ มังกูอาลาม จัดจ้านเหลือร้าย กับเกมรับที่แน่นหนัก ส่วนเกมบุกก็เติมจนสุดเส้น แถมความสามารถเฉพาะตัวก็สูงลิ่ว พลิ้วไหวจนกองหน้าหลายๆ ทีมยังต้องอายม้วนทีเดียว

ด้วยผลงานอันเจิดจรัส มันจึงทำให้เกมฝั่งขวาของ การท่าเรือ ดุดันมากๆ เพราะฟูลแบ็กทีมชาติอินโดนีเซีย แข็งแกร่งเกินต้านทานจริงๆ

ฝั่งขวาว่าแจ๋วแล้ว พอข้ามมาฟากซ้าย เควิน ดีรมรัมย์ ก็กำลังคึกไม่ต่างกันกับ 3 แอสซิสต์จาก 4 แมตช์ แม้เกมรับจะดูไม่เนี๊ยบเท่า อัสนาวี่ แต่เรื่องการบุก พี่แกเติมไม่มีเม้ม

นอกจากแบ็กสองข้างจะแจ่มเกินใคร มิดฟิลด์ตัวรับของ การท่าเรือ อย่าง โนโบรุ นิชิมูระ ก็แสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจกับปีที่ 2 ใน ไทยลีก ที่ดูดีขึ้นกว่าเดิม

มิดฟิลด์เลือดซามูไรทำให้งานของคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟเบาลงแบบชัดเจน วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในฐานะพาร์ตเนอร์เองก็เล่นสบาย แถมริมเส้นทั้งขวาและซ้ายก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย 

ด้วยองค์ประกอบของกองกลางตัวรับและฟูลแบ็กขวา-ซ้ายที่ฟอร์มฮอตแบบนี้มันจึงส่งถึงผลงานในสนามที่เบียดบี้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์

ภาพจาก : การท่าเรือ เอฟซี Port FC


ที่มาของภาพ : การท่าเรือ เอฟซี Port FC
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport