เรื่องของฟุตบอลมันต้องใช้เวลา...

   โดยเฉพาะเรื่องของรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างขัดใจสาวกกิเลนผยอง

   แม้นัดแรกที่บุกไปปราชัยต่อ นครราชสีมา เอฟซี จะตื่นตาตื่นใจ ใส่เกียร์ห้าเดินหน้าไม่ยั้ง แต่เพราะความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้พวกเขาไร้แต้มติดมือกลับเมืองหลวง ทว่าแฟนๆ ยังพอให้อภัยกันได้

   แต่สองนัดหลังสุดที่ชนะ ลำพูน วอร์ริเออร์ส 1-0 รวมทั้งเสมอ ระยอง เอฟซี สดๆ ร้อนๆ 1-1 ต้องยอมรับว่ารูปแบบการเล่นของอดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย ดูจะไม่ไหลลื่นเท่าไรนัก

   3 ประตู ที่ เมืองทอง ทำได้ใน 3 เกมแรกมาจากความสามารถเฉพาะตัว 1, ลูกจุดโทษ 1 และการตะบันไกลอีก 1 ซึ่งบ่งชี้ไดัชัดเจนว่าพวกเขามีปัญหากับจังหวะเข้าทำจริงๆ

   จากสถิติการสร้างโอกาส 48 ครั้ง แต่ได้มาเพียง 3 ลูก เป็นตัวเลขที่ตอกย้ำให้เห็นถึงสิ่งที่กิเลนผยองกำลังประสบและพบเจอ

   จิโน่ เล็ตติเอรี่ กุนซือผู้มาใหม่จึงถูกตั้งคำถามว่าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับ เมืองทอง จริงๆ หรือเปล่า

   แต่มันคงไม่ยุติธรรมสำหรับเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน เท่าไรนัก เพราะต้องอย่าลืมว่านี่เพิ่งจะเข้าสู่เดือนที่ 2 เท่านั้นที่เขาเข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชกิเลนผยอง แถมงานนี้ยังเป็นงานแรกของเจ้าตัวบนแผ่นดินสยาม

   เท่านั้นไม่พอ ผู้เล่นของ เมืองทอง ก็เปลี่ยนโฉมจากซีซั่น 2023-24 ไปแทบจะครึ่งหนึ่ง

   ผู้รักษาประตูอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แขวนสตั๊ด, ฌอง-โคล้ด บีลลง กับ อี แช-ซอง คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักก็ไม่ได้รับการขยายสัญญา, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ที่กำลังฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ย้ายออก

   ทว่าที่ดูจะกระทบที่สุดคือการไร้ วิลเลียน พ็อพพ์ และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเกมรุก

   หากพวกเขาเหล่านี้ยังอยู่ในรั้ว ธันเดอร์โดม รับประกันเลยว่า กิเลนผยองมีลุ้นยาวๆ ในทุกถ้วยของเมืองไทย

   ดังนั้นด้วยองค์ประกอบที่ถือว่าใหม่แทบจะทั้งหมด นักเตะใหม่ 14 คน กุนซือก็ใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าแท็กติกก็ย่อมต้องใหม่ด้วยเช่นกัน

   อย่างไรก็ตาม ด้วยหน้าที่รับผิดชอบ มันจึงทำให้ เล็ตติเอรี่ ต้องพยายามหาส่วนผสมที่ลงตัวให้ไวที่สุด ไม่เช่นนั้นเขานี่แหละคือคนที่ต้องรับผิดชอบต่อผลงานที่เกิดขึ้น

   3 เกม ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเฮดโค้ชวัย 57 ปี เองก็ยังไม่มีแท็กติกที่ตัวเองชื่นชอบ เพราะปรับทั้งการเล่นกองหลัง 3 คน และ 2 คน - บ้างก็ใช้กองหน้าเดี่ยว บ้างก็หัวหอกคู่ ประมาณว่ายังไม่พบระบบการเล่นที่เหมาะสมกับทีมที่เขาต้องการจริงๆ

   ยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่โปรแกรมของ เมืองทอง ไม่หนักมาก เพราะกว่าที่จะเจอกับพวกท็อป 5 ด้วยกันก็โน่นเลย 29 กันยายน ที่จะบุกไปเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

   ตอนนี้มีอีก 6 นัด ก่อนที่จะถึง ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์ ที่ ช้าง อารีน่า แต่ตัว เล็ตติเอรี่ ก็ต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันให้กลับเข้ารูปเข้ารอยให้ได้ เพราะถ้ายังดูตีบตันไอเดียแบบนี้อยู่ บางทีความเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นในเร็ววัน

   ยังพอมีเวลาให้ได้ปรับจูน แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าเวลาที่มีก็ค่อนข้างกระชั้นชิด

   ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เล็ตติเอรี่ เพราะหลายๆ องค์ประกอบนั้นยังใหม่มากๆ สำหรับตัวเขา อีกทั้งเรื่องของฟุตบอลมันต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าเข้ามาปุ๊บ แล้วจะประสบความสำเร็จปั๊บ มันเกิดขึ้นได้ยาก

   เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ใช้เวลากว่า 4 ปี ที่จะเสกแชมป์แรกให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

   เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เช่นกันกับเวลา 4 ปี ที่ปลุกปั้น ลิเวอร์พูล จนได้สัมผัสโทรฟี่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

   หรือจะ มิเกล อาร์เตต้า ที่อาจจะพา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ตั้งแต่ปีแรกที่คุมทัพ แต่ฟุตบอลของเขาก็ถูกวิจารณ์พอสมควรว่าอาจจะพาปืนโตดิ่งเหว แต่ทุกวันนี้ล่ะ กลายเป็น เดอะ กันเนอร์ส คือทีมที่ต่อกร แมนเชสเตอร์ ได้สูสีที่สุด

   เล็ตติเอรี่ ก็ควรที่จะได้เวลาในการปรับจูนกิเลนผยองเช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้คงจะต้องรีบแก้ไขแบบไวว่องกว่าเดิม

   เรื่องของฟุตบอลมันต้องใช้เวลา...

ชิกกะด้าว