จับตา 5 สิ่งที่น่าสนใจของ ไทยลีก แมตช์เดย์ ที่ 12

1. ลำปาง จอมเก็บแต้มทีมใหญ่

   นับตั้งแต่ ไทยลีก เป็นลีกอาชีพเต็มตัวในปี 2007 เป็นต้นมา มีเพียง 5 สโมสร ที่เคยคว้าแชมป์สำเร็จ ได้แก่ ชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันเวลาล่วงผ่านถึงซีซั่น 2022-23 ปรากฏว่า ลำปาง เอฟซี น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นหนแรก ได้เผชิญหน้ากับอดีตเบอร์หนึ่งของประเทศไปแล้ว 4 ทีม

    ผลการแข่งขันของพวกเขาถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะสามารถบุกไปเสมอกับ เมืองทอง และ บีจี ปทุม ได้ด้วยสกอร์ 2-2 แม้จะแพ้ต่อ เชียงราย รวมไปถึง ชลบุรี ทว่าการเก็บคะแนนจากทีมใหญ่ถือเป็นเรื่องดี หากคุณต้องการอยู่รอดปลอดภัยในฤดูกาลต่อไป

    ดังนั้นเกมในวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายนนี้ จึงน่าสนใจว่ากองทัพรถม้ามรกตจะอาจหาญไปแชร์แต้มมาจาก บุรีรัมย์ ได้หรือไม่ 

2.โค้ชเบ๊ประเดิมพบ เมืองทองฯ

  ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก หรือที่ผู้คนในวงการลูกหนังเรียกขานกันว่า 'โค้ชเบ๊' กุนซือผู้ช่ำชองการพาทีมหนีตกชั้น เพราะเคยช่วยให้หลายๆ สโมสรที่เคยคุมที่มีอันดับอยู่โซนสีแดง ค่อยๆ ทำแต้มจนอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดได้สำเร็จ

 ล่าสุดเขาเข้ามารับหน้าที่เทรนเนอร์คนใหม่ของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด แทนที่ คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ แปเรยร่า ที่แยกทางไป จากผลงานที่ย่ำแย่ของจงอางผยองในฤดูกาลปัจจุบันอย่างไรก็ตาม เกมประเดิมสนามในนามแม่ทัพใหญ่ของยอดทีมแห่งแดนอีสาน 'โค้ชเบ๊' จะต้องพบศึกหนักเมื่ออาคันตุกะคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่กำลังฟอร์มร้อนฉ่ากับการยิงประตูได้ถึง 17 ลูก จาก 3 เกม หลังสุด (ทุกรายการ)

  เกมนี้จะเป็นอีกหนึ่งนัดที่ผู้คนให้ความสนใจ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ ไพโรจน์ เองก็เคยคุมกิเลนผยองมาก่อน เมื่อปี 2019 ซึ่งตอนนั้นเขาก็เป็นโค้ชที่ชูเสื้อให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ตอนย้ายกลับมาเล่นให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด เช่นกัน   คู่นี้จะห้ำหั่นกันในวันอาทิตย์ และจะเป็นเกมที่จะทำให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นอย่างแน่นอน

 3. เชียงราย - ชลบุรี 2 ทีมนี้กำลังหาจุดเปลี่ยน

  เกมคู่แรกในวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 - เชียงราย ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับมือ ชลบุรี เอฟซี  นัดนี้ถือว่าสำคัญสำหรับทั้งสองทีมมากๆ  เริ่มจาก เชียงราย ยูไนเต็ด ที่อาจจะเกาะกลุ่มหัวตารางก็จริง แต่ผลงาน 6 นัด หลังสุด ชนะแค่แมตช์เดียวเท่านั้น โดยเป็นการเสมอไปถึง 4 เกม กว่างโซ้งมหาภัยยังคงเป็นหนึ่งในทีมใหญ่ของประเทศ ดังนั้นผลงานที่ออกมาย่อมไม่อยู่ในระดับที่พวกเขาพอใจแน่

  ขณะที่ฝั่งฉลามชลตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก หลังมีเรื่องราวนอกสนามเข้ามาทำให้ท้องฟ้าที่ ชลบุรี สเตเดี้ยม ค่อนข้างอึมครึม และการไม่ชนะใครเลยใน 4 เกม หลังสุด (ทุกรายการ) แถมยังตกรอบ เอฟเอ คัพ ไปสดๆ ร้อนๆ

 คงต้องบอกว่า ณ วินาทีนี้ ชลบุรี ยังไม่เหมือน ชลบุรี ตอนต้นฤดูกาลที่พร้อมปะทะได้ทุกทีม  ดังนั้นนี่คือเกมที่ทั้ง 2 ทีม ต่างหวังจะเก็บ 3 คะแนน เพื่อหา 'จุดเปลี่ยน' ของฤดูกาล 2022-23 ให้ได้ เพราะมันหมายถึงการเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในระยะยาว  แต่ถ้าฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ ฝ่ายนั้นก็อาจจะหลุดวงโคจรได้เลยเช่นกัน เพราะมันกระทบถึงความมั่นใจภายในทีม

4. บททดสอบสำคัญของ แมตต์ สมิธ และ บีจี ปทุม

    ซีซั่น 2022-23 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นั้นไม่ค่อยโสภาเท่าใดนัก พวกเขารั้งอันดับ 7 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึง 9 คะแนน   แม้การแข่งขันที่เหลืออยู่จะยังอีกยาวไกล ทว่าการที่พวกเขายังไม่สามารถฟื้นคืนฟอร์มเก่งได้ มันเท่ากับว่าช่องว่างระหว่างกระต่ายแก้วกับปราสาทสายฟ้าจะถีบตัวออกห่างไปอีก ไม่นับรวม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ก็พร้อมจะล่าแชมป์เช่นกัน

 จากผลงานที่เกิดขึ้น ทำให้ บีจี ปทุม มีการเปลี่ยนแปลงโค้ชจาก มาโกโตะ เทกูระโมริ มาเป็น แมตต์ สมิธ อดีตกัปตันทีมชาวออสเตรเลีย ที่เพิ่งเข้ามาสานงานต่อ โดยเกมแรกที่อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 40 ปี จะได้คุมทีมในลีกคือการบุกไปเยือน นครราชสีมา เอฟซี ที่มีเกมในบ้านสุดแข็งแกร่ง   ทีมแมวพิฆาตเล่นในรังไปแล้ว 7 เกม และแพ้แค่ 1 นัด คือปราชัยต่อ บุรีรัมย์ 0-1 ในแมตช์เปิดฤดูกาล

  นี่คือบททดสอบสุดหินของ บีจี ปทุม ว่าจะกลับคืนสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีได้หรือไม่ หากทำไม่สำเร็จ อาจจะต้องโบกมือลาแชมป์ ไทยลีก ไปได้เลย

5. ราชบุรี - ท่าเรือ ฟัดกันสนุก

  บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ที่ 12 คือเกมระหว่าง ราชบุรี เอฟซี และ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานในซีซั่นนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ โดยเฉพาะราชันมังกรที่กำลังบินสูง รั้งอันดับ 4 ของตารางแบบเซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีใครคาดคิดเช่นกันว่าพวกเขาจะเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์อยู่ แถมยังแพ้ไปแค่ 1 เกม เท่านั้น

    ขณะที่ การท่าเรือ ยังไม่ถือว่าเลวร้ายนัก แม้ผลงานจะหนักไปทางเสมอมากเกินไปก็ตาม แต่ยังพอได้ลุ้นอยู่ไกลๆ รอแค่นักเตะในทีมจูนกันติดมากกว่านี้ รับประกันได้เลยว่าพวกเขาจะบินสูงแน่นอน   ดังนั้นเกมนี้คือการพบกันของ 2 ทีม ที่มีฟอร์มการเล่นสุดสูสี แต่ก็น่าจะทำให้แฟนฟุตบอลชาวไทย ได้สนุกไปกับการแข่งขัน เพราะฝั่งเจ้าถิ่น ราชบุรี มีทีมเวิร์กที่ดี และเล่นได้อย่างเหนียวแน่นมาก

    ขณะที่ผู้มาเยือนอย่างสิงห์เจ้าท่าก็มาพร้อมนักเตะที่สามารถพลิกเกมได้ทุกวินาที นี่คือเกม บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ที่ 12 อย่างแท้จริง