รวบรวม 5 ความท้าทายใหม่ที่รอ วิลเลียน พ็อพพ์ อยู่ที่เมืองจีน กับศึกฟุตบอล ไชนีส ซูเปอร์ ลีก
วิลเลียน พ็อพพ์ คือหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่เก่งกาจที่สุดที่เคยมาค้าแข้งในประเทศไทย ดังนั้นการย้ายออกไป ไชนีส ซูเปอร์ ลีก จึงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะแฟนๆ จะไม่ได้เห็นเขาโชว์ฝีเท้าต่อหน้าต่อตาในสยามประเทศอีกแล้ว (อย่างน้อยๆ ก็ 6 เดือน) ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอรวบรวม 5 ความท้าทายใหม่ที่รอเจ้าตัวอยู่ที่ เซี่ยงไฮ้ พอร์ท จ่าฝูงและแชมป์เก่าของเมืองจีน!!
[ 1 ] ได้เล่นถ้วยใหญ่เอเชีย
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก คือถ้วยชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ที่นักเตะทุกคนที่เล่นในทวีปนี้ต่างปรารถนาจะสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขัน เพราะมันคือเวทีอันดับ 1 ของภูมิภาค
นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา เซี่ยงไฮ้ พอร์ท คือทีมที่มีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทุกครั้ง ยกเว้นเมื่อปี 2022 ที่จำเป็นต้องถอนตัว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีน ที่ยังอันตราย
ผลงานของพวกเขาใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ถือว่าน่าดูชมมากๆ เพราะเคยทะลุถึงรอบรองชนะเลิศมาแล้วในปี 2017 แถมยังผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อก-เอาต์ได้บ่อยๆ อีกด้วย
ในซีซั่น 2024-25 มีการเปลี่ยนชื่อรายการมาเป็น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ซึ่งทาง เซี่ยงไฮ้ พอร์ต ก็ได้เข้ามาเล่นโดยอัตโนมัติ ในฐานะแชมป์ ไชนีส ซูเปอร์ลีก 2023 โดยจะเริ่มฟาดแข้งกันเกมแรกในวันที่ 16-18 กันยายนที่จะถึงนี้
ดังนั้นการที่ พ็อพพ์ ย้ายไปมันจึงทำให้เขามีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับสโมสรเอเชีย แน่ๆ ซึ่งมันคือความท้าทายใหม่ของตนเอง เพราะก่อนหน้านี้แนวรุกวัย 30 ปี ยังไม่เคยสัมผัสกับรายนี้เลยสักครั้งในชีวิต
[ 2 ] ลุ้นแชมป์ลีกจีน
นอกจาก พ็อพพ์ จะไม่เคยได้เล่นในถ้วยฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย เขาเองก็ยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี่แชมป์เลยสักครั้งเช่นกัน
นับตั้งแต่ลัดฟ้าสู่ดินแดนตะวันออก โดยเริ่มจาก ปูซาน ไอพาร์ค (2016), อาวิสปา ฟูกูโอกะ (2017), ปูเชื้อ เอฟซี (2018) และมาปักหลักสร้างชื่อที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปี 2020 ทุกทีมที่มีส่วนร่วม เขายังไร้รางวัลมาประดับบารมี
อาจจะจริงที่ผลงานของ พ็อพพ์ โดดเด่นที่สุดตอนเล่นให้กิเลนผยอง เพราะเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม 3 ซีซั่นติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติเทียบเท่า ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งเป็นตำนานของสโมสร แต่ในแง่ของถ้วยแชมป์ เขายังไม่สามารถไขว่คว้ามาครองได้สำเร็จ
ดังนั้นการย้ายไป ไชนีส ซูเปอร์ ลีก จึงน่าจะเติมเต็มความฝันให้กับเขาได้ไม่ยาก ยิ่งปัจจุบัน เซี่ยงไฮ้ พอร์ท ก็นำเป็นจ่าฝูง ด้วยฟอร์มการเล่นอันดุดัน ทั้งยังไม่แพ้ใครอีกต่างหาก
การที่ พ็อพพ์ ย้ายไปอยู่กับทัพอินทรีแดงจึงมีโอกาสสูงทีเดียวที่เขาอาจจะได้สัมผัสกับโทรฟี่แชมป์ครั้งแรกในชีวิต
[ 3 ] เคียงข้าง ออสการ์ และ อู๋ เล่ย
ไชนีส ซูเปอร์ ลีก อาจจะไม่มีซูเปอร์สตาร์ระดับโลกมากมายเท่าลีกของซาอุดีอาระเบีย แต่บรรดาแข้งต่างชาติของที่นี่นั้นไม่เป็นรองประเทศไหนๆ ในเอเชีย แน่
โดยเฉพาะ ออสการ์ อดีตเพลย์เมเกอร์เจ้าของสถิติติดทีมชาติบราซิล 48 นัด ที่ย้ายมาสร้างความตื่นตาตื่นใจในเมืองจีน ตั้งแต่ปี 2017
แนวรุกวัย 32 คือเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ของ พ็อพพ์ และการที่เป็นคนประเทศเดียวกัน มันจึงทำให้สตาร์จาก เมืองทอง แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก แถมยังมีแนวโน้มว่าน่าจะเฉิดฉายกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะจะได้บอลสวยๆ จากกัปตัน เซี่ยงไฮ้ พอร์ท แน่ๆ
เท่านั้นไม่พอ เขายังจะได้เล่นกับ อู๋ เล่ย ศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของทีมชาติจีน อีกคน ซึ่งนี่คือนักเตะที่กองหลังทุกคนต่างครั่นคร้ามในความสามารถ
ไม่นับรวมก๊วนบราซิล ที่นอกจาก ออสการ์ ที่นำทัพ ที่นั่นก็ยังมี กุสตาโว่, เลเอา ซิตตาดินี่ และ มาเธอุส ชุสซ่า ที่รอต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างอบอุ่นอยู่อีก
[ 4 ] เติมเชื้อไฟก่อนกลับกิเลน
แน่นอนว่าดีลของ พ็อพพ์ ที่โยกสู่ ไชนีส ซูเปอร์ ลีก นั้นทำให้แฟนๆ เมืองทอง ต้องเสียดายกันถ้วนหน้า เพราะเขาเปรียบเสมือน 'ความหวังสูงสุด' ของเหล่ากิเลนผยองในการล่าความสำเร็จ ยิ่งปัจจุบันที่ยอดทีมแห่งย่านแจ้งวัฒนะเสริมทัพได้ยอดเยี่ยมมากๆ มันจึงทำให้ทุกคนต่างมองเห็นอนาคตอันสดใสในเวลาอันใกล้นี้
ทว่าการไม่มีแนวรุกคนสำคัญย่อมกระเทือนถึงผลงานในสนามแน่ๆ และที่สำคัญคือก่อนหน้านั้นพวกเขาก็เพิ่งปล่อย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ไปให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ในเมื่อไร้ทั้ง พ็อพพ์ และ เจริญศักดิ์ ซึ่งเป็นกำลังหลักในแดนหน้ามาตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ย่อมทำให้ประสิทธิภาพของทีมลดลงแบบไม่อาจหลีกเลี่ยง
แต่ด้วยความเป็น เมืองทอง สโมสรที่ทำธุรกิจสุดชาญฉลาด การที่ยอมปล่อย พ็อพพ์ ออกไป น่าจะมาถึงการได้ค่ายืมตัวเป็นจำนวนเงินมหาศาล เพื่อนำไปแลกกับแข้งใหม่ที่รอการเปิดตัวในเร็ววัน
นอกจากจะได้ทุนทรัพย์มาต่อเติมความแข็งแกร่ง - เซี่ยงไฮ้ พอร์ท ก็จะได้นักเตะที่เก่งกาจไปเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุก เพื่อล่าความสำเร็จทั้งในและนอกประเทศ
ดังนั้นนี่จึงเป็นดีลที่ 'วิน-วิน' กั้นทั้งสองฝ่าย
อย่าลืมว่า พ็อพพ์ ไปด้วยสัญญา 'ยืมตัว' ครึ่งฤดูกาล ซึ่งการไปเล่นในลีกจีน คงจะช่วยเติมเชื้อไฟและพัฒนาฝีเท้าของเขาได้มากทีเดียว ก่อนจะกลับมาเติมความฝันของตนเองที่เมืองไทย กับการนำกิเลนกลับมาผยองให้ได้อีกครั้งในอนาคต
[ 5 ] ความใหม่ในทุกๆ เรื่อง
พ็อพพ์ อาจจะคุ้นชินกับทวีปเอเชีย พอสมควร กับห้วงเวลาที่ ปูซาน ไอพาร์ค (เกาหลีใต้), อาวิสปา ฟูกูโอกะ (ญี่ปุ่น), ปูเชือน เอฟซี (เกาหลีใต้) และรวมไปถึงความศิวิไลซ์ของไทยแลนด์ ณ เมืองทอง ซึ่งรวมๆ กันแล้วก็ราวๆ เกือบสิบปีทีเดียวที่เขาโลดแล่นในต่างแดน
อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศที่เจ้าตัวเคยอยู่อาศัยนั้นมีลักษณะการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันพอสมควร
ไม่เพียงแค่เรื่องสภาพอากาศ เกาหลีใต้ กับญี่ปุ่น ที่ค่อนข้างเย็น ขณะที่ไทย นั้นร้อนอบอ้าว - ส่วนเรื่องผู้คน ไทย กับญี่ปุ่น นั้นอาจจะดี แต่เกาหลีใต้ เราก็อาจจะไม่เป็นมิตรเท่าสองชาติแรก
นอกจากนี้เรื่องของ 'ฟุตบอล' ที่ทั้งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
มันคือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ พ็อพพ์ ต้องปรับตัวเมื่อย้ายถิ่นฐาน และการไปค้าแข้งที่เมืองจีน เขาคงต้องเผชิญสิ่งใหม่ๆ อีกมากมาย
ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่เขาเองต้องพยายามต่อสู้กับมันอย่างหนักหน่วง เพื่อรักษามาตรฐานการเล่นให้ได้เหมือนที่ทำกับ เมืองทอง