ในศึกชิงตำแหน่ง 'จ่าฝูง' ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด จบลงไปด้วย 3 คะแนนของเจ้าถิ่นที่ทำได้ดีกว่าอาคันตุกะจากพระนคร
ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสามาวิเคราะห์ว่าเหตุใด ปราสาทสายฟ้าจึงสามารถน็อกทีมแข้งเทพได้สำเร็จ!!
[1] ปราสาทสายฟ้าได้ประตูเร็ว
บุรีรัมย์ ในฐานะเจ้าถิ่นมาแปลกด้วยการส่งนักเตะที่เล่นกองหน้าลงพร้อมๆ กันถึง 4 คน ไล่ตั้งแต่ ลอนซาน่า ดุมบูญ่า, โจนาต็อง โบลันญี่, ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฎฐ์ เหมือนตาลงพร้อมๆ กันว่าแปลกตาแล้ว แต่ยิ่งแปลกเข้าไปอีกเมื่อขยับ โบลันญี่ ที่ปกติจะเป็นหัวหอกตัวเป้าออกไปเล่นตัวรุกฝั่งซ้าย โดยให้ ศุภณัฎฐ์ ส่วนคู่หน้าเป็น ดุมบูญ่า กับ ศุภชัย
นับเป็นไม้เด็ดที่เคยใช้ได้ผลมาแล้วในเกมที่ปราสาทสายฟ้าเอาชนะ หนองบัว พิชญ 3-1 ซึ่งจัดผังผู้เล่นแดนบนลักษณะนี้ ก่อนจะมาเข้าทีอีกครั้งกับ แบงค็อก
การที่มีทั้ง ดุมบูญ่า, โบลันญี่ และ ศุภชัย ทำให้การโจมตีภาคอากาศของ บุรีรัมย์ อันตรายเพิ่มขึ้น เพราะแต่ละคนต่างสูงใหญ่ ไหนจะ เรบิน ซูลาก้า รวมไปถึง โกรัน เคาซิช ที่เล่นลูกโด่งได้ดีอีกต่างหาก
ในเมื่อมี 'อาวุธหนัก' แบบนี้ เจ้าพ่อลูกนิ่งอย่าง ธีราทร บุญมาทัน จึงได้เฉิดฉายอย่างชัดเจน และประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 9 ก็ทำให้ทุกอย่างเข้าทางเจ้าถิ่น ก่อนจะสามารถเก็บ 3 คะแนน อันล้ำค่าเอาไว้ได้
[2] บียู ขาด วานแดร์ มีผลจริง
จุดเด่นของ แบงค็อก ในฤดูกาล 2022-23 คือการประสานงานกันระหว่าง เฮแบร์ตี้ และ วานแดร์ ลุยซ์ 2 แนวรุกบราซิล ที่มีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมแข้งเทพทำได้เกินกว่าครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เกมกับ บุรีรัมย์ ทีมชีตของบียูกลับไร้ชื่อของ วานแดร์ ทั้งใน 11 ตัวจริงและบนม้านั่งสำรอง โดยไม่มีรายงานว่านักเตะวัย 32 ปี ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า เนื่องจากเรื่องติดโทษพักแข้งนั้นไม่ใช่แน่
ก่อนหน้านี้เล่นมา 10 นัด วานแดร์ ไม่เคยหายหน้าไปจากทีมเลย และผลที่ออกมาก็คือ แบงค็อก พลาดท่าแค่เกมเดียวต่อ ราชบุรี เอฟซี เท่านั้น ส่วนที่เหลือเขากระชากลากเลื้อยและสร้างความแตกต่างให้ทีมได้เสมอ
พอ เฮแบร์ตี้ ขาดคู่ขาอย่าง วานแดร์ ก็ส่งผลกระทบต่อทีมชัดเจน เพราะกลายเป็นว่าเขาต้องทำเกมอยู่คนเดียว หลายๆ จังหวะที่ดาวยิงสูงสุดตลอดกาล ไทยลีก ต้องลงมาล้วงบอลต่ำมากๆ มันเลยลดทอนประสิทธิภาพของทีมไปด้วย
เท่านั้นไม่พอ วิลเลน โมต้า อีกหนึ่งแข้งบราซิเลียน ก็โดดเดี่ยว เพราะบอลลำเลียงไม่ถึง ซึ่งนั่นก็มาจากการที่ไม่มีตัวทะลุทะลวงอย่าง วานแดร์ อีกเช่นกัน
การที่ไม่มี วานแดร์ อยู่ในสนาม มันเลยทำให้เกมรับของ บุรีรัมย์ เองก็เล่นง่ายไปด้วย และนั่นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของ 3 คะแนน ที่ปราสาทสายฟ้าได้รับ
[3] วินัยเกมรับ บุรีรัมย์ ดียกทีม
สิ่งที่ต้องชื่นชม บุรีรัมย์ อย่างแรงเลยคือการที่ 'วินัย' ของนักเตะทั้ง 11 คนยอดเยี่ยมมากๆ
พวกเขาวิ่งบีบพื้นที่ตั้งแต่แดนหน้า นำโดย ดลอนซาน่า ดุมบูญ่า และ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ไล่กวด มานูเอล ทอม บีร์ห กับ เอแวร์ตอน สองคู่ปราการหลัง แบงค็อก ตั้งแต่ในแดน
พอหลุดไปด้านข้าง ทั้งฟากขวา-ซ้าย ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา และ โจนาต็อง โบลันญี่ ก็ไม่ปล่อยให้ฟูลแบ็กของบียูขึ้นไปเติมเกมได้ถนัด
หรือจะเข้ามาตรงกลาง ธีราทร บุญมาทัน กับ โกรัน เคาซิช ก็สลับสับกันขึ้น-ลงได้อย่างลงตัว โดยแทบไม่ได้เห็นผู้เล่นของ แบงค็อก ได้เล่นกันง่ายเลย
ส่วนแดนหลังก็ไม่มีข้อผิดพลาด หากจะมี ก็คงแค่จังหวะเดียวเท่านั้น ในนาทีที่ 66 ที่ปล่อยให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้โหม่งเหน่งๆ แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง
นั่นจึงทำให้ นพพล ละครพล แทบไม่ต้องออกแรงเซฟเลยในเกมนี้
[4] ตัวเปลี่ยนเกมของ แบงค็อก ไม่เป็นผล
แบงค็อก มีชุดผู้เล่นตัวจริงที่แข็งแกร่ง และพร้อมชนะได้ทุกทีมที่เผชิญหน้า แต่ก็ต้องยอมรับว่าขุมกำลังสำรองของพวกเขายังไม่สามารถพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้ดีเท่าที่ควร
ยิ่งกับวันที่ไร้ วานแดร์ ในแนวรุกด้วยแล้ว ยิ่งตอกย้ำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
รัชนาท อรัญญไพโรจน์ กับ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก สองตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาในครึ่งหลังของเกมบุกไปปราชัย บุรีรัมย์ 0-1 แทบไม่ได้โอกาสสร้างสรรค์เกมรุกเลย
โดยเฉพาะรายแรกที่ยังควานหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจอ เหมือนที่สำแดงเดชกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ในซีซั่น 2021-22 อีกทั้งยังจ่ายบอลผิดพลาดดื้อๆ อยู่พอสมควร
ขณะที่ ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ซึ่งรอโอกาสอยู่บนซุ้มม้านั่งสำรองก็ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม ทำให้ไม่สามารถโชว์ศักยภาพให้เห็น
ทว่าเมื่อย้อนกลับมามองในอีกแง่หนึ่ง นี่อาจจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้ แบงค็อก ต้องเสริมทัพในช่วงเลกที่สอง เพราะถ้ามีนักเตะที่สามารถพลิกเกมได้มากกว่านี้ พวกเขาน่าจะได้ลุ้นยาวๆ
แต่ที่สำคัญคือต่อจากนี้ไปต้องห้ามพลาดทำแต้มหลุดมืออีกแล้ว เพราะอาจจะทำให้ถูก บุรีรัมย์ ฉีกคะแนนหนีห่างไปไกลกว่าที่เป็นอยู่
[5] เคาซิช ประกบติด เฮแบร์ตี้
นับจนถึงวินาทีนี้ โกรัน เคาซิช น่าจะเป็นการซื้อตัวที่ 'คุ้มค่า' ที่สุดของฤดูกาล 2022-23 กับผลงานที่ออกมา
8 ประตู กับการลงสนาม 11 เกมในลีกถือเป็นตัวเลขที่เหลือเชื่อมากๆ เพราะอย่าลืมว่าผู้เล่นชาวเซอร์เบีย คนนี้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ที่สำคัญยังเป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกมอีกต่างหาก
นอกจากสถิติการพังตาข่ายที่น่าทึ่ง คุณประโยชน์ของ เคาซิช ยังโดดเด่นในเรื่องของเกมรับที่ทำได้ไร้ที่ติจริงๆ
ไม่ว่าคู่ขาจะเป็น ธีราทร บุญมาทัน, รัตนากร ใหม่คามิ หรือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี - เขาสามารถกลมกลืนไปกับทุกคนได้อย่างเนียนตา และนั่นเป็นที่มาว่าเหตุใดแผงมิดฟิลด์ของปราสาทสายฟ้าจึงสมดุลมาก
ฟอร์มของ เคาซิช ในเกมหยุด แบงค็อก ก็เปล่งประกายฉายแสงกับการตามติด เฮแบร์ตี้ จนแนวรุกชาวบราซิล แทบจะหมดพิษสงไปเลย
ดาวซัลโวตลอดกาล ไทยลีก ลงสนามในตำแหน่ง 'หน้าต่ำ' ซึ่งคอยทำเกมอยู่หลัง วิลเลน โมต้า ที่ยืนค้ำเป็นหัวหอกตัวเป้า ทว่าต้องถอยลงมาเล่นในแดนตัวเอง เพราะว่าถูกกองกลางเซอร์เบีย ไล่บีบจนไปไม่เป็น
พอฤทธิ์เดชของ เฮแบร์ตี้ ถดถอย พลังในเกมบุกของ แบงค็อก ย่อมลดลงตามไปด้วย และก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ เคาซิช ที่ตามประกบติดจนส่งผลให้ บุรีรัมย์ เก็บชัยชนะได้สำเร็จ