ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่สุดยอดสำหรับ "อาร์ม" ศุภชัย ใจเด็ด แข้งดีกรีทีมชาติไทย กับการได้ทั้งแชมป์ไทยลีกควบดาวซัลโวไทยลีก กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
โดยในส่วนของ ท็อปสกอร์ไทยลีก นั้น นักเตะเลือดเนื้อเชื้อไขชาว ปัตตานี อดีตนักเตะ ร.ร.ปทุมคงคา ได้มาครอง 2 สมัยติดต่อกัน
ไทยลีก ครั้งที่ 26 ฤดูกาล 2022-2023 ศุภชัย คว้าดาวซัลโว ด้วยผลงาน 19 ประตูเป็นการประกาศอิสระภาพให้กองหน้าไทยได้อีกครั้งในรอบ 1 ทศวรรษ ( 10 ปี ) โดยแข้งไทยรายสุดท้ายที่เป็นดาวซัลโวไทยลีกคือ ธีรศิลป์ แดงดา ทำได้ไทยลีก 16 กับ เมืองทอง ฯ หลังจากนั้นเป็นแข้งนอกล้วนๆ ที่ได้ไปครอง
ซีซั่นที่เพิ่งจบไป ฤดูกาล 2024-2025 นั้น “อาร์ม” ขับเคี่ยวมากับ วิลเล่น โมต้าของ ทรูแบงค็อกฯ
สุดท้ายทั้งคู่ต้องมาชี้ชะตากันนัดสุดท้าย เมื่อ 26 พ.ค. 67 ที่ผ่านมาก่อนถึงนัดสุดท้ายนั้น โมต้า นำอยู่ 1 ประตู โดยเขาทำได้ 19 ประตู มากกว่า ศุภชัย อยู่ 1 ประตู
เกมสุดท้าย โมต้า ซัดได้แค่ 1 เม็ด ให้ ทรูแบงค็อกฯ เกมเปิดบ้าน ชนะ อุทัยธานี 3-0 ส่วน ศุภชัย ใจเด็ด ทำแฮตทริกให้ บุรีรัมย์ฯ เกม เปิดบ้าน ฉลองแชมป์ชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 8-2
นั้นทำให้ "อาร์ม" แซงหน้า โมต้า ผงาดคว้าดาวซัลโว สมัยที่ 2 ของตัวเอง ต่อจาก สุธี สุขสมกิจ สมัยอยู่กับ ธ.กสิกรไทย และ อานนท์ สังสระน้อย ตอนอยู่กับ บีอีซีเทโรฯ
"เบิร์ท" สุธี สุขสมกิจ นักเตะจากเมืองตราด อดีตทีมชาติไทย ที่ทำไว้ตอนอยู่กับทีมตำนานที่เลิกราไปแล้วอย่าง "แบงค์รวงข้าว" ธ.กสิกรไทย ทำได้ ไทยลีกครั้งที่ 4, 5 ปี พ.ศ. 2542,2543 ที่ 13,16 ประตู
"ดำ" อานนท์ สังสระน้อย นักเตะลูกหลานเมืองย่าโม โคราช นครราชสีมา ทำไว้ตอนเล่นกับ บีอีซีเทโรฯ ในไทยลีก ครั้งที่ 12,13 ปี พ.ศ. 2551,2552 ที่ 20 และ 18 ประตู
ส่วนรายอื่นที่เคยเป็นดาวซัลโวไทยลีก 2 สมัย มี "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ไทยลีก ครั้งที่ 2,6 กับ บีอีซีเทโรฯ 17,12 ประตู
"โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี กับ การท่าเรือฯ ไทยลีกครั้งที่ 7,9 ที่ 12 และ 10ประตู
ที่เหลือเป็นนักเตะต่างชาติ คือ เคลตัน ซิลวา ทำได้ 2 หน กับ 2 ทีมคือ บีอีซีเทโรฯ กับ เมืองทอง ยูฯ , ดิโอโก้ หลุย ซานโต กับ บุรีรัมย์ฯ
แน่นอนว่าซีซั่นหน้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ และหาก "อาร์ม" คว้าดาวซัลโวได้ก็จะทำให้เขาเป็น นักเตะคนแรกด้วยที่คว้าดาวซัลโวไทยลีกได้ 3 ซีซั่น อีกด้วย
ศุภชัย ใจเด็ด จะทำได้หรือไม่ ไว้มารอลุ้นกัน ฤดูกาลหน้า
ทำเนียบดาวซัลโวไทยลีก 27 ฤดูกาล
"ชายคลองเมืองนนท์"