ไทยลีก 2023-24 เพิ่งจบลงไป ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอจัด 'ทีมยอดเยี่ยม' สาขา 'นักเตะต่างชาติ' ในระบบ 3-4-4 มาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านได้รับทราบโดยทั่วกัน!!
*** ทั้งนี้ การจัดทีมนั้นเป็นทรรศนะของทีมงาน 'SIAMSPORT' เท่านั้น หากไม่ถูกใจคุณผู้อ่านท่านใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วย***
ผู้รักษาประตู: พาทริก ดีย์โต้ (ชลบุรี เอฟซี)
จอมหนึบต่างชาติเพียงหนึ่งเดียวของ ไทยลีก ซีซั่นนี้ แม้ว่า ชลบุรี เอฟซี ต้นสังกัดของเขาจะหล่นชั้น แต่ผลงานส่วนตัวก็ถือว่าช่วยทีมได้พอสมควร กับจังหวะเซฟมากมายจนกลายเป็นตัวเลือกแรกของทัพฉลามชล
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: ดิออน คูลส์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ปราสาทสายฟ้าไม่เคยขาดแคลนโควตาแข้งนอกชั้นยอดเลยสักฤดูกาล - คูลส์ ย้ายมาเมื่อมกราคมปี 2023 และก็แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะความเก่งกาจที่มีทำให้ บุรีรัมย์ เดินหน้าคว้าความสำเร็จอย่างต่อเนื่องโดยมีพี่แกคอยระวังหลังบ้านให้นี่แหละ
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: เอแวร์ตอน (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
กัปตันทีม แบงค็อก ยังรักษามาตรฐานของตนเองได้อย่างสม่ำเสมอ เขาคือคีย์แมนที่ทำให้บียูกลายเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดใน ไทยลีก ซึ่งก็น่าเสียดายมากๆ ที่ต้นสังกัดของหมอนี่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ทั้งๆ ที่มีช่วงนำเป็นจ่าฝูงรวมกันถึง 12 สัปดาห์เลยทีเดียว
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: ดีเอโก้ แลนดิส (เชียงราย ยูไนเต็ด)
กว่างโซ้งมหาภัยเลื่องชื่อเรื่องเกมรับอันเหนียวแน่นอยู่แล้ว พอได้ แลนดิส เข้ามา ยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้อีกเท่าตัว การจบอันดับ 11 ของตารางการแข่งขัน แต่เสียประตูไปเพียง 35 ลูก (น้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ ไทยลีก) บ่งชี้ได้ชัดเจนว่าเขามาช่วยทีมได้มากเพียงใด
กองกลางฝั่งขวา: เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
ฤดูกาลแรกในดินแดนขวานทองของ อัลวาเรซ แม้จะไปไม่ถึงแชมป์ลีก แต่ผลงานโดยรวมกับตัวเลข 5 ประตู และ 8 แอสซิสต์ อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ถ้าหากยังอยู่ในรั้ว บีจี สเตเดี้ยม รับประกันเลยว่าซีซั่นหน้าจะฟอร์มระเบิดกว่าเดิมแน่
กองกลาง: โกรัน เคาซิช (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
มาตรฐานของ เคาซิช สูงลิ่วจนยากแก่การที่ใครจะทาบทาม โดยเฉพาะตอนที่ยืนคู่กับ ธีราทร บุญมาทัน ในแผงมิดฟิลด์ ที่เข้าขารู้ใจกันมากๆ แม้จำนวนประตูจะลดลงจากปีก่อน แต่โดยรวมเขาก็ยังเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่เก่งกาจที่สุดของ ไทยลีก ยุคปัจจุบันอยู่ดี
กองกลาง: เลสลี่ย์ อะโบลร์ห (นครปฐม ยูไนเต็ด)
นี่คือดีลแห่งฤดูกาลอย่างแท้จริง เพราะการคัมแบ็กกลับมา นครปฐม ยูไนเต็ด ส่งผลให้เสือป่าราชาอยู่รอดปลอดภัยใน ไทยลีก ทั้งๆ ที่ก่อนเปิดฤดูกาลนักวิเคราะห์ต่างมองว่าพวกเขาคือตัวเต็งที่จะหล่นชั้น แต่ด้วยฟอร์มการเล่นของ อะโบลร์ห ที่ยิงไปถึง 10 ประตู แถมยังทำอีก 5 แอสซิสต์ บวกกับเรื่องเกมรับที่ไม่ขาดตกบกพร่อง มันจึงเป็นเหตุที่พี่แกควรค่าแก่คำสรรเสริญจริงๆ
กองกลางฝั่งซ้าย: วิลเลียน พ็อพพ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
พ็อพพ์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดของ ไทยลีก กับมาตรฐานการเล่นที่สม่ำเสมอ แม้ว่าเลกแรกจะยิงได้น้อยไปหน่อย แต่พอเครื่องติด พี่แกกดยับ ทั้งยังมักจะยิงทีมใหญ่เสียด้วย การจบอันดับ 5 ของ เมืองทอง ก็ต้องยกให้หมอนี่นี่แหละที่ท็อปฟอร์มในระยะหลัง
กองหน้า: กีเญร์เม่ บิสโซลี่ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
แม้ว่า บิสโซลี่ จะเพิ่งมาใหม่ในเลกที่สอง แต่คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธถึงความสำคัญที่ทำให้ บุรีรัมย์ แซงหน้า แบงค็อก กลับไปนำเป็นจ่าฝูง กระทั่งคว้าแชมป์ในท้ายที่สุด ด้วยฟอร์มอันร้อนฉ่าของหัวหอกหมายเลข 7 ที่กดไป 16 ประตู จาก 15 เกม พ่วงด้วย 5 แอสซิสต์ อีกต่างหาก
กองหน้า: วิลเลน โมต้า (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
หัวหอกชาวบราซิล เกือบจะได้รางวัลดาวซัลโวอยู่แล้วเชียว กับการยิงไป 20 ประตู และทำได้ 6 แอสซิสต์ แต่กระนั้น โมต้า ก็ถือเป็นนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างเกมได้ด้วยจังหวะเดียวเช่นกัน
กองหน้า: บาร์รอส ทาร์เดลี่ (การท่าเรือ เอฟซี)
11 ประตู และอีก 9 แอสซิสต์ คือตัวเลขที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ทาร์เดลี่ มีประโยชน์ต่อ การท่าเรือ เอฟซี มากเพียงใด เพราะไม่ว่าจะยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าหรือถูกขยับออกไปเล่นด้านข้าง หมอนี่ก็ยังเป็นนักเตะที่อันตรายอยู่เสมอ