ไทยลีก 2023-24 เพิ่งจบลงไป ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอจัด 'ทีมยอดเยี่ยม' สาขา 'นักเตะไทย' ในระบบ 4-3-3 มาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านได้รับทราบโดยทั่วกัน!!
*** ทั้งนี้ การจัดทีมนั้นเป็นทรรศนะของทีมงาน 'SIAMSPORT' เท่านั้น หากไม่ถูกใจคุณผู้อ่านท่านใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วย***
ผู้รักษาประตู: ปฏิวัติ คำไหม(แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ถือว่าเป็นตำแหน่งที่เลือกยากมากๆ เนื่องจากยังมี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จอมหนึบของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีสถิติ 13 คลีนชีต แถมยังคว้าแชมป์อีกต่างหาก ทว่า ณ ชั่วโมงนี้ ปฏิวัติ กำลังไปได้สวย ทั้งยังยึดมือหนึ่งทีมชาติไทย พร้อมกับมีส่วนสำคัญที่ทำให้ แบงค็อก เสียประตูน้อยที่สุดใน ไทยลีก
แบ็กขวา: นิติพงษ์ เสลานนท์(แบงค็อก ยูไนเต็ด)
จริงๆ แล้ว ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ทริสต็อง โด และ ธนาเสฏฐ์ สุจริต ก็อยู่ในข่าย แต่เมื่อมองถึงภาพรวม ต้องยกตำแหน่งแบ็กขวาของซีซั่นให้กับ นิติพงษ์ ที่ฟอร์มสม่ำเสมอมากๆ เพราะไม่ว่าจะรับหรือรุก พี่แกรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองได้อย่างดีเยี่ยม
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: สุพรรณ ทองสงค์ (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
การกลับมาติดทีมชาติไทย อีกครั้งของ สุพรรณ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะผลงานในฤดูกาล 2023-24 จัดจ้านทีเดียว เข้าสกัดแม่นยำ, ปะทะกองหน้าต่างชาติได้ไม่เป็นรอง และที่สำคัญคือเรื่องของหัวใจที่สู้เกินร้อยเพื่อทีมตลอดทั้ง 90 นาที
เซนเตอร์ฮาล์ฟ: โจนาธาร เข็มดี (ราชบุรี เอฟซี)
น่าเสียดายที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่เรียก โจนาธาร ติดทัพช้างศึกชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 ทั้งๆ ที่ปราการหลังเชื้อสายเดนมาร์ก เล่นอย่างโดดเด่นกับ ราชบุรี และเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ราชันมังกรเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีก
แบ็กซ้าย: เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)
ตัวเลือกในตำแหน่งนี้ยังมี สถาพร แดงสี ที่เจิดจรัสกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทว่าเพิ่งมาเล่นในเลกที่สอง ดังนั้นต้องให้ เควิน ที่ลงสนามอย่างสม่ำเสมอให้ การท่าเรือ เอฟซี ทั้งยังมี 4 ประตูและอีก 4 แอสซิสต์การันตีความยอดเยี่ยม
กองกลาง: วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (การท่าเรือ เอฟซี)
เป็นอีกรายที่หลุดโผทีมชาติไทย ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะซีซั่น 2023-24 เป็นฤดูกาลที่ วรชิต ก้าวข้ามสู่อีกระดับไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการกำกับเกมในแดนกลางที่ทำได้เนียนตายิ่งนัก แม้ว่าจะมีเพียง 4 แอสซิสต์ แต่ถ้าเจาะลึกรายละเอียดดีๆ จะเห็นได้ชัดเลยว่าประตูของ การท่าเรือ เอฟซี มักจะมีจุดเริ่มต้นมาจากมิดฟิลด์ชาวเชียงใหม่ คนนี้นี่เอง
กองกลาง: ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ถูกขยับมายืนเป็นกองกลางอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังเจิดจรัสอยู่เช่นเคย และสถิติ 12 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของ ไทยลีก ก็การันตีได้เป็นอย่างดีว่า ธีราทร คือนักเตะที่สามารถพลิกสถานการณ์ของการแข่งขันได้ในชั่วพริบตา
กองกลางตัวรุก: ปรเมศย์ อาจวิไล (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ยกระดับตนเองสู่การเป็นกองหน้าชั้นนำของประเทศได้อย่างเต็มตัว และไม่ว่าจะเล่นในตำแหน่งใดบนระนาบแนวรุก ปรเมศย์ ทำได้เยี่ยมยอดกับเซ้นส์ฟุตบอลที่ไม่ธรรมดา 11 ประตู บวกด้วย 10 แอสซิสต์ ทำให้ เมืองทอง ฟอร์มร้อนแรงในเลกที่สองจนจบอันดับ 5 ของตาราง
กองหน้าฝั่งขวา: เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
อีกหนึ่งแข้งฟอร์มกระฉูดของกิเลนผยอง รายนี้อาจจะมีจำนวนประตูและแอสซิสต์ไม่มากนัก ทว่า เจริญศักดิ์ เป็นนักเตะที่ทำลายล้างแนวรับฝั่งตรงข้ามเสียจนขาดวิ่น ซึ่งนั่นส่งผลให้ เมืองทอง สามารถเอาชนะคู่แข่งได้สบายๆ
กองหน้าตัวเป้า: ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
เจ้าของรางวัล 'ดาวซัลโว' ไทยลีก 2 ซีซั่นติดต่อกัน ยังคงรักษาผลงานของตนเองได้ต่อเนื่อง แม้จะฝืดอยู่บ้างในเลกแรก แต่พอความมั่นใจกลับมา บุรีรัมย์ ก็คัมแบ็กด้วยเช่นกัน และการที่ปราสาทสายฟ้าเถลิงบัลลังก์แชมป์สมัยที่ 9 ก็เป็นเพราะฟอร์มอันไฉไลของหัวหอกชาวปัตตานี คนนี้นี่แหละ
กองหน้าฝั่งซ้าย: ชนาธิป สรงกระสินธ์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
ถูกปรับบทบาทไปยืนทางฝั่งซ้ายในระยะหลัง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับนักเตะพรสวรรค์สูงอย่าง ชนาธิป ที่กลายเป็นผู้เล่นที่เฉิดฉายที่สุดของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2023-24 ด้วยสถิติ 4 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์