3 นัดตัดสิน!! 5 สโมสรกับตั๋ว ไทยลีก 2 ที่ทุกทีมอยากปฏิเสธ

[ 1 ] ประจวบ เอฟซี (อันดับ 12, 30 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลืออยู่

(เยือน) ชลบุรี เอฟซี 

(เหย้า) เชียงราย ยูไนเต็ด

(เยือน) ราชบุรี เอฟซี 

   นับตั้งแต่ได้ สะสม พบประเสริฐ เข้ามาเป็นกุนซือ ผลงานของ ประจวบ ดีวันดีคืนขึ้นอย่างชัดเจน จากที่จมบ๊วยของตารางอยู่นานถึง 12 สัปดาห์ ตอนนี้พวกเขาขยับขึ้นมารั้งอันดับ 12 โดยมีแต้มห่างจากโซนตกชั้น 4 คะแนน อีกต่างหาก

   ด้วยศักยภาพนักเตะในทีม บวกกับกึ๋นของเฮดโค้ช มันจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัว 6 เกม หลังสุดในลีก พวกเขาพ่ายแพ้ต่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียงทีมเดียว แถมยังเก็บชัยได้ถึง 3 นัด ซึ่งถือเป็นห้วงเวลาที่ดีที่สุดในฤดูกาล 2023-24

   อย่างไรก็ตาม โปรแกรมที่เหลืออยู่ของต่อพิฆาตค่อนข้างหนักหน่วง เนื่องจากต้องบุกไปเยือน ชลบุรี เอฟซี ที่กำลังดิ้นรนเช่นกัน ต่อด้วย เชียงราย ยูไนเต็ด และปิดท้ายด้วยการบุก ดราก้อน โซลาร์พาร์ค ของ ราชบุรี เท่ากับว่าต้องเผชิญหน้าทีมแกร่ง แถมยังเล่นนอกบ้านถึง 2 นัด 

   ดังนั้นเกมต่อไปที่จะเจอฉลามชลนั้นคือตัวชี้วัดว่า ประจวบ จะได้ไปต่อใน ไทยลีก 2024-25 หรือไม่

โอกาสรอด: 80 เปอร์เซ็นต์

[ 2 ] สุโขทัย เอฟซี (อันดับ 13, 29 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลืออยู่

(เหย้า) โปลิศ เทโร เอฟซี

(เยือน) ขอนแก่น ยูไนเต็ด 

(เหย้า) ลำพูน วอร์ริเออร์ส  

   จริงๆ แล้วงานของ สุโขทัย จัดว่าเบาที่สุดในจำนวนทีมโซนครึ่งล่างของตาราง แต่ความพ่ายแพ้ติดต่อกัน 3 นัด ทำให้พวกเขาต้องมาดิ้นรนในช่วงที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะการบุกไปปราชัย เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึง 0-5 ส่งผลถึงสภาพจิตใจมากทีเดียว

   ปัจจุบันพวกเขาหล่นมาอยู่อันดับ 13 ซึ่งมีแต้มเหนือกว่าทีมตกชั้นเพียง 3 คะแนน ดังนั้นต่อจากนี้ทัพค้างคาวไฟจะต้องพลาดให้น้อยที่สุด หากปรารถนาจะอยู่รอดปลอดภัยในซีซั่นหน้า

   อย่างไรก็ตาม สุโขทัย จะได้เปรียบทีมในกลุ่มท้ายตารางด้วยกันตรงที่จะได้เล่นในบ้าน 2 จาก 3 เกม ที่เหลืออยู่ แต่นัดที่สำคัญที่สุดคือแมตช์ต่อไปที่จะเปิด ทะเลหลวง สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ โปลิศ เทโร เอฟซี ซึ่งถ้าเก็บชัยได้ พวกเขาจะถีบตัวเองพ้นโซนอันตราย แถมยังเปรียบเสมือนผลักมังกรโล่เงินให้หยุดอยู่กับที่อีกด้วย

โอกาสรอด: 70 เปอร์เซ็นต์

[ 3 ] ชลบุรี เอฟซี (อันดับ 14, 26 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลืออยู่

(เหย้า) ประจวบ เอฟซี 

(เยือน) เมืองทอง ยูไนเต็ด 

(เหย้า) ตราด เอฟซี 

   เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากๆ ที่อดีตแชมป์ ไทยลีก 2007 ต้องมาดิ้นรนอยู่ก้นตารางการแข่งขัน ทั้งๆ ที่ฤดูกาลก่อนเพิ่งจะจบอันดับ 6 แถมนักเตะอายุน้อยหลายๆ คนก็เติบใหญ่ ซึ่งน่าจะมีความแก่กล้าสามารถขึ้นกว่าเดิม

   ผลงานของ ชลบุรี ย่ำแย่มากใน 4 เกมล่าสุด เพราะแพ้ไปถึง 3 นัด โดยเฉพาะความปราชัยต่อ ราชบุรี เอฟซี และ นครปฐม ยูไนเต็ด เนื่องจากได้เล่นต่อหน้าแฟนๆ ในรังของตนเอง

   จากโปรแกรมที่เหลืออยู่ ถือว่าสาหัสสากรรจ์สำหรับฉลามชลเลยทีเดียว เนื่องจากต้องเจอ ประจวบ เอฟซี ที่ฟอร์มกำลังดี แถมยังเป็นทีมที่ต้องการแต้มเพื่ออยู่รอดเช่นกัน ที่สำคัญทัพต่อพิฆาตยังมี สะสม พบประเสริฐ อดีตกุนซือที่รู้จักทุกซอกมุมของพวกเขาอีกต่างหาก

   เท่านั้นไม่พอ ชลบุรี ยังต้องเผชิญหน้า เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ขับเคี่ยวอันดับ 4 กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปิดท้ายด้วยการเล่นในบ้านเจอ ตราด เอฟซี - ดังนั้นต่อจากนี้ไป หากพวกเขาต้องการจะอยู่รอด อีก 3 เกม ต่อจากนี้จะต้องเล่นเหมือนนัดชิงชนะเลิศทุกๆ แมตช์

โอกาสรอด: 50 เปอร์เซ็นต์

[ 4 ] ตราด เอฟซี (อันดับ 15, 25 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลืออยู่

(เยือน) แบงค็อก ยูไนเต็ด

(เหย้า) ลำพูน วอร์ริเออร์ส 

(เยือน) ชลบุรี เอฟซี 

   ผลงานระยะหลังของ ตราด กระเตื้องขึ้นมา แต่ด้วยเงื่อนเวลาที่เหลืออยู่ โอกาสที่พวกเขาจะกลับไปสู่ ไทยลีก 2 นั้นมีสูงขึ้นเรื่อยๆ 

   นอกจากจำนวนเกมที่น้อยลง พวกเขายังต้องเจอศึกหนักล้วนๆ ไล่ตั้งแต่การบุก ทรู สเตเดี้ยม ของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านตนเองพบ ลำพูน วอร์ริเออร์ส ที่ก็ยังไม่การันตีว่าจะอยู่รอดร้อยเปอร์เซ็นต์

   เท่านั้นไม่พอ ต่อให้ชนะทั้งบียูและราชันโคขาว - เกมสุดท้ายของซีซั่น ตราด ก็ต้องบุกบ้าน ชลบุรี ที่ต้องการคะแนนไม่แพ้กัน 

   จากโปรแกรมและแต้มที่มี โอกาสที่ช้างขาวจ้าวเกาะจะหล่นสู่ ไทยลีก 2 นั้นมีเปอร์เซ็นต์สูงมากจริงๆ

โอกาสรอด: 40 เปอร์เซ็นต์

[ 5 ] โปลิศ เทโร เอฟซี (อันดับ 16, 21 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลืออยู่

(เยือน) สุโขทัย เอฟซี 

(เหย้า) แบงค็อก ยูไนเต็ด

(เยือน) บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   หลังความเปลี่ยนแปลงของ โปลิศ เทโร เมื่อช่วงปลายปี 2023 นับตั้งนั้นมาฟอร์มของพวกเขาก็ค่อยๆ ดิ่งลงแบบชัดเจน แม้จะได้ ตัน เชง โฮ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติมาเลเซีย มารับช่วงต่อจาก รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ก็ตาม

   เปิดเลกสองมาแล้ว 13 นัด พวกเขาแพ้ไปถึง 8 และเก็บชัยได้แค่เกมเดียว ซึ่งนี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปัจจุบันมังกรโล่เงินต้องมาจมบ๊วยเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน

   หนทางรอดยังมีอยู่ตามทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัตินั้นยากยิ่งนัก เพราะจากโปรแกรมที่เหลืออยู่ บางทีแมตช์ต่อไปที่จะบุกเยือน สุโขทัย เอฟซี อาจจะชี้ชะตาว่า โปลิศ เทโร จะได้ไปต่อฤดูกาลหน้าหรือไม่ หากเก็บ 3 คะแนนสำเร็จ จะเป็นการต่อลมหายใจอีกเฮือก แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงกันข้าม คงต้องเตรียมแผนสำหรับปีใหม่ในลีกรอง

   เท่านั้นไม่พอ สองเกมสุดท้ายพวกเขายังต้องเจอทั้ง แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนจะปิดฉากซีซั่นด้วยการบุก บีจี สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นทั้งคู่คือทีมแถมหน้าของ ไทยลีก และคงจะไม่มีทางพลาดท่าให้มังกรโล่เงินง่ายๆ แน่นอน 

โอกาสรอด: 30 เปอร์เซ็นต์