ไทยลีก 2023-24 เดินทางมาถึง 3 เกม สุดท้ายของฤดูกาล โอกาสแชมป์เข้าใกล้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีละนิด หลังการสะดุดของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำให้ปราสาทสายฟ้าฉีกยิ้มแบบไม่ต้องกังวล แต่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจกับการลุ้นตำแหน่ง 'ดาวซัลโวสูงสุด' ว่าศูนย์หน้าคนใดจะครองความเป็นเบอร์หนึ่งของซีซั่น!!
[ 1 ] ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, 17 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: การท่าเรือ เอฟซี (เหย้า), อุทัยธานี เอฟซี (เยือน), ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เหย้า)
เจ้าของรางวัล 'ดาวซัลโว' จากซีซั่น 2022-23 ที่เพิ่งจะมาเครื่องร้อนช่วงกลางฤดูกาลปัจจุบันกับการกดไป 15 ประตู จาก 20 เกมหลังสุดที่ลงสนาม จนสะสมไปแล้ว 17 ลูก นำเดี่ยวแบบโด่งๆ อยู่บนชาร์ตนักล่าตาข่าย
ความน่าสนใจของ ศุภชัย หากได้รับเท้าทองคำอีกครั้ง คือการที่เจ้าตัวทำสกอร์ได้จากลูกเซ็ตเพลย์ทุกประตู ไม่มีฟรีคิกหรือลูกจุดโทษเลยสักหน ซึ่งถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากๆ แถมตำแหน่งที่เล่นให้ บุรีรัมย์ ก็ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าอีกต่างหาก
จากโปรแกรมที่เหลืออยู่ มีโอกาสสูงทีเดียวที่เพื่อนร่วมทีมจะ 'ปั้น' ให้หัวหอกชาวปัตตานี คว้ารางวัลนี้แน่ๆ โดยเฉพาะเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่จะพบ ขอนแก่น ในบ้านตัวเอง
โอกาส: 80 เปอร์เซ็นต์
[ 2 ] ริคาร์โด ซานโต๊ส (อุทัยธานี เอฟซี, 16 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: ลำพูน วอร์ริเออร์ส (เยือน), บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (เหย้า), แบงค็อก ยูไนเต็ด (เยือน)
ศูนย์หน้าร่างใหญ่ที่ค้าแข้งในเมืองไทย มานานกว่า 6 ปี จนรู้จักฟุตบอลที่นี่เป็นอย่างดี ซึ่งมันส่งถึงผลงานในสนามเสียด้วย แม้จะอายุ 37 แต่พี่แกยังสามารถสร้างประโยชน์ให้กับต้นสังกัดได้อย่างมหาศาลจริงๆ
หากว่า ซานโต๊ส สามารถคว้า 'ดาวซัลโว' ไทยลีก 2023-24 ได้สำเร็จ เขาจะกลายเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รางวัลติดๆ กันจากลีกสองระดับ เนื่องจากฤดูกาล 2022-23 หมอนี่ยิงใน ไทยลีก 2 ไป 28 ประตู จนได้รองเท้าทองคำไปนอนกอด
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่หัวหอกชาวบราซิล จะทำสำเร็จนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากอีก 3 นัด ที่เหลืออยู่ อุทัยธานี ต้องเผชิญหน้าทั้ง ลำพูน, บุรีรัมย์ และ แบงค็อก ซึ่งมีความเหนียวแน่นในเกมรับมากๆ อีกทั้ง 9 จาก 16 ประตูที่เขาทำได้นั้นมาจาก 'จุดโทษ' ซึ่งเป็นจำนวนเกินครึ่งจากลูกเซ็ตเพลย์ ดังนั้นสถิติน่าจะหยุดอยู่ที่ตัวเลขนี้นี่แหละ
โอกาส: 50 เปอร์เซ็นต์
[ 3 ] วิลเลน โมต้า (แบงค็อก ยูไนเต็ด, 16 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: ตราด เอฟซี (เหย้า), โปลิศ เทโร เอฟซี (เยือน), อุทัยธานี เอฟซี (เหย้า)
นี่คือหัวหอกที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะคว้ารางวัล 'ดาวซัลโว' ไทยลีก 2023-24 เนื่องจากโปรแกรมที่เหลืออยู่นั้นค่อนข้างเบา อีกทั้งเขาก็คงจะได้รับการแอสซิสต์จากเพื่อนร่วมทีมแบบไม่มีเม้มแน่ๆ และที่สำคัญ หากได้จุดโทษ เชื่อว่า วานแดร์ ลุยส์ ที่เป็นมือสังหารเบอร์หนึ่ง คงจะมอบหน้าที่นี้ให้ โมต้า แน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ฟอร์มในระยะหลังของพี่แกค่อนข้างฝืด ยิงไม่ได้ติดต่อกัน 6 เกม โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่เสมอ ขอนแก่น 2-2 นั้นมีโอกาสมากมาย แต่กลับยิงทิ้งยิงขว้างไปอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้บียูผลงานดร็อปลงใน 5 นัดที่ผ่านมากับการเสมอไปถึง 4 แมตช์
ทว่าถ้าเรียกความมั่นใจกลับมาได้ บวกกับการที่ แบงค็อก มีตัวเปิดป้อนชั้นยอดหลายคน มั่นใจได้เลยว่า โมต้า มีสิทธิ์ที่จะคว้ารางวัลรองเท้าทองคำมาครองแบบแบเบอร์
โอกาส: 90 เปอร์เซ็นต์
[ 4 ] เชือง อู-กึน (ประจวบ เอฟซี, 14 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: ชลบุรี เอฟซี (เยือน), เชียงราย ยูไนเต็ด (เหย้า), ราชบุรี เอฟซี (เยือน)
ผู้นำในชาร์ตดาวยิงของเลกแรกกับฟอร์มที่ร้อนแรงกับ โปลิศ เทโร เอฟซี และพอย้ายมา ประจวบ ในช่วงต้นเลกที่สองก็ยังส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้บ่อยๆ
ทว่าการถูกโยกไปยืนริมเส้นบ่อยครั้งในระยะหลัง ส่งผลต่อฟอร์มการทำประตูของ เชือง อู-กึน โดยตรง แถมโปรแกรมที่เหลืออยู่ก็ค่อนข้างหนัก ซึ่งนั่นทำให้โอกาสที่เขาจะยิงกระหน่ำนั้นมีน้อยนิดเหลือเกิน
โอกาส: 30 เปอร์เซ็นต์
[ 5 ] วิลเลียน ลิร่า (ชลบุรี เอฟซี, 14 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: ประจวบ เอฟซี (เหย้า), เมืองทอง ยูไนเต็ด (เยือน), ตราด เอฟซี (เยือน)
เป็นเรื่องฤดูกาลที่ยำแย่มากๆ ของ ชลบุรี กับการรั้งอันดับ 3 จากท้ายตาราง ซึ่งมีโอกาสสูงทีเดียวที่พวกเขาจะหล่นสู่ ไทยลีก 2 ในฤดูกาลถัดไป ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง คงจะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีวันนี้ได้
ดังนั้น ลิร่า และบรรดาแนวรุกของฉลามชลจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งฟอร์มกลับมาให้ได้ในอีก 3 เกม ที่เหลืออยู่ ซึ่งก็มีลุ้นไม่น้อย เนื่องจากจะได้เล่นในบ้าน 2 นัด รับมือกลุ่มหนีตกชั้นเหมือนกัน แต่จะหนักหน่อยตรงที่ออกเยือน เมืองทอง นั่นเอง
จากโปรแกรมที่เหลืออยู่ หมอนี่นี่แหละจะเป็น 'ม้ามืด' สอดแทรกแซงขึ้นไปคว้ารางวัล 'ดาวซัลโว' ในบั้นปลาย
โอกาส: 60 เปอร์เซ็นต์
[ 6 ] วิลเลียน พ็อพพ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด, 14 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: ราชบุรี เอฟซี (เยือน), ชลบุรี เอฟซี (เหย้า), เชียงราย ยูไนเต็ด (เยือน)
หมอนี่เป็นอีกหนึ่งรายที่มาระเบิดฟอร์มในช่วงเลกที่สอง เพราะตอนต้นฤดูกาลยังยิงไปเพียง 3 ประตู เท่านั้น ก่อนจะค่อยๆ ผลิตสกอร์ได้เพิ่มขึ้น และนั่นเองที่ทำให้ เมืองทอง ทำอันดับมาบี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แบบรดต้นคอ
แม้ว่า พ็อพพ์ จะอยู่ในช่วงระอุเดือดกับการกดไป 11 ลูก จาก 10 เกมหลังสุด แต่อีกสามแมตช์ต่อจากนี้กิเลนผยองจะต้องเผชิญหน้ากับ ราชบุรี และ เชียงราย ที่มีเกมรับอันเหนียวแน่น แถมยังต้องเจอ ชลบุรี ที่ต้องการแต้มเพื่ออยู่รอด ดังนั้นโอกาสที่แนวรุกบราซิเลียน จะทำประตูเพิ่มเพื่อแซงกลุ่มผู้นำนั้นจึงมีไม่มากนัก
โอกาส: 40 เปอร์เซ็นต์
[ 7 ] ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (การท่าเรือ เอฟซี, 13 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (เยือน), ราชบุรี เอฟซี (เยือน), นครปฐม ยูไนเต็ด (เหย้า)
พัฒนาการของ ธีรศักดิ์ ก้าวกระโดดอย่างแท้จริงกับการกดไปถึง 13 ประตู ทั้งๆ ที่เจ้าตัวแทบจะไม่ได้ออกสตาร์ตตั้งแต่ต้นเกม แต่กลับกลายเป็นว่าลงมาในฐานะสำรองทีไร ได้เรื่องทุกทีไป
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เขาจะผลิตสกอร์เพื่อแซงบรรดากลุ่มผู้นำนั้นมีน้อยนิด ด้วยจำนวนนาทีที่จะได้ลงเล่น บวกกับโปรแกรมของ การท่าเรือ ที่ค่อนข้างหนัก เนื่องจากต้องบุกเยือนทั้ง บุรีรัมย์ และ ราชบุรี 2 เกม ติดต่อกัน
โอกาส: 30 เปอร์เซ็นต์
[ 8 ] กีเญร์เม่ บิสโซลี่ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, 12 ประตู)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: การท่าเรือ เอฟซี (เหย้า), อุทัยธานี เอฟซี (เยือน), ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เหย้า)
เปิดตัวกับการย้ายสู่ ไทยลีก เลกที่สองแบบสุดโหดด้วยสถิติ 10 ประตู จาก 5 เกม ที่ลงสนาม จนผู้คงทั้งวงการลูกหนังดินแดนขวานทองต่างพากันเชิดชูว่า บิสโซลี่ เป็นนักเตะประเภท 'ของจริง' ที่จะช่วยยกระดับการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากช็อตยิงจ่อๆ พลาดในเกมที่แมตช์ ชลบุรี 1-1 ดูเหมือนว่าฟอร์มของเขาจะถดถอยไปทันที และตอนนี้ก็สะสมเพิ่มได้อีกนิดๆ หน่อย และน่าจะทำเพิ่มมากกว่านี้ได้อีกไม่มากนัก เนื่องจากเพื่อนร่วมทีมต้องพยายามช่วยกันปั้น ศุภชัย ใจเด็ด ให้ไปถึงดวงดาว
โอกาส: 30 เปอร์เซ็นต์