บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือหนึ่งในสโมสรชั้นนำของเมืองไทย ยุคปัจจุบัน พวกเขาอุดมไปด้วยผู้เล่นทีมชาติ และนักเตะนำเข้าก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวท็อปของลีก ทว่าผลงานในฤดูกาล 2022-23 ที่ออกมานั้นน่าผิดหวัง จึงต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในรั้ว บีจี สเตเดี้ยม
มาโกโตะ เทกุระโมริ เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น เพิ่งแยกทางสดๆ ร้อนๆ ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงคัดสรรกุนซือที่มีโอกาสจะเข้ามารับงานต่อในอนาคตอันใกล้นี้ให้คุณได้อ่านกัน!!
[ 1 ] ดุสิต เฉลิมแสน
อดีตเฮดโค้ชผู้นำ บีจี ปทุม คว้าแชมป์ ไทยลีก ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ก่อนจะโยกไปคุม ราชประชา เอฟซี และ การท่าเรือ เอฟซี กระทั่งเป็นเฮดโค้ชของ ลำพูน วอร์ริเออร์ส คนปัจจุบัน
แม้ว่า ดุสิต จะเป็นบิ๊กบอสของราชันโคขาวในตอนนี้ แต่เขายังมีสัญญาอยู่กับทีมกระต่ายแก้ว ดังนั้นถ้าจะถูกต้นสังกัดดึงตัวกลับมา ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เขาจะกลับมาในเร็ววันนี้ยังไม่มากนัก เนื่องจาก ลำพูน ยังให้ความเชื่อมั่นในตัวเทรนเนอร์ชาวสกลนคร อยู่เต็มเปี่ยม อีกทั้งทาง บีจี ปทุม เองก็น่าจะมองไปที่โค้ชต่างชาติมากกว่า
แต่อย่าลืมว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ในโลกของฟุตบอล
[ 2 ] พาร์ค ฮัง-ซอ
นายใหญ่ของทีมชาติเวียดนาม คนปัจจุบันที่ยืนยันแล้วว่าจะอำลาทัพดาวทองแน่นอน หลังจบทัวร์นาเมนต์ อาเซียน คัพ ในเดือนมกราคม 2023
ผลงานของ พัก ฮัง-ซอ เป็นที่ประจักษ์ต่อทุกสายตาว่าฝีไม้ลายมือของเขาเก่งกาจเพียงใดกับการนำเวียดนาม ก้าวมาครองความเป็นเบอร์ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม สไตล์ฟุตบอลของเทรนเนอร์ชาวเกาหลีใต้ อาจจะไม่ตอบโจทย์ บีจี ปทุม นัก เนื่องจากเป็นกุนซือที่นิยมเรื่องพละกำลังเป็นหลัก ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ทีมกระต่ายแก้วไร้เสน่ห์ในการติดตาม
ทว่าจากโปรไฟล์ความสำเร็จ รวมถึงความคุ้นเคยกับฟุตบอลอาเซียน บางที ฮัง-ซอ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ เดอะ บลู แมชีน เช่นกัน เพียงแค่รอ ไทยลีก จบเลกแรกก่อนเท่านั้น
ขึ้นอยู่กับว่าถ้า บีจี ปทุม ยื่นข้อเสนอไปจริง ทางฝั่ง ฮัง-ซอ จะตอบรับหรือเปล่าเท่านั้นเอง
[ 3 ] วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช
อดีตเฮดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่น ผู้มากด้วยประสบการณ์และบารมี เพราะผ่านการคุมสโมสรใหญ่มาอย่างโชกโชน ทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), แทร็บซอนสปอร์ (ตุรกี), อัล อิตติฮัด (ซาอุดีอาระเบีย) และ ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย)
ขณะในระดับชาติ เขาเคยพา 4 ทีมไปตะลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไอวอรี่โคสต์ (2010), แอลจีเรีย (2014), ญี่ปุ่น (2018) และล่าสุดคือโมร็อกโก ที่จะได้เข้าไปแข่งขัน เวิร์ล คัพ 2022 ที่กำลังจะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ฮาลิลฮ็อดซิช ต้องกลายเป็นคนว่างงาน หลังจากถูกทีมสิงโตแอตลาสปลดฟ้าผ่าเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นครั้งที่ 3 จาก 4 หน ที่ไม่ได้คุมทัพในฟุตบอลโลก เนื่องจากแยกทางกับทีมชาติก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้นได้ไม่นาน
ด้วยดีกรีระดับนี้ เชื่อว่าน่าจะเข้ามาทำให้ บีจี ปทุม ตื่นจากภวังค์ไม่น่ายาก แต่ติดตรงที่อายุของเทรนเนอร์ชาวเซอร์เบีย ที่ตอนนี้ปาเข้าไป 70 ปี จึงอาจจะทำให้ถูกมาว่าตกยุคหรือเปล่า
[ 4 ] ดราแกน สโคชิช
เทรนเนอร์ชาวโครเอเชีย คนนี้เป็นอีกหนึ่งรายที่น่าสนใจมากๆ เพราะเขาคือผู้นำอิหร่านผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ ด้วยการมี 25 คะแนน จาก 10 นัด ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติอาหรับเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเปลี่ยนแปลงภายในของสมาคมฟุตบอล ทำให้ สโคชิช ต้องแยกทางกับสิงโตแห่งเปอร์เซีย ไปเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง
บิ๊กบอสวัย 54 เข้ามาหากินในเอเชีย ตั้งแต่ปี 2009 โดยตอนแรกทำทีมระดับสโมสรในลีกคูเวต ตามต่อด้วยซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน กระทั่งเฉิดฉายจนถูกแต่งตั้งให้เป็นกุนซือทีมชาติในปี 2020
แม้ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี เขาจะโลดแล่นในดินแดนตะวันออกกลาง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า สโคชิช จะไม่มีโอกาสโยกมาฟากตะวันออก เผลอๆ มันอาจจะเป็นการเดินทางครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสมกับ บีจี ปทุม ด้วยประการทั้งปวง
[ 5 ] อิมพอร์ตจาก เจลีก
บีจี ปทุม มีคอนเนกชั่นที่ดีในเอเชีย โดยเฉพาะที่สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาเป็นพันธมิตรของ เซเรโซะ โอซากะ มาตั้งแต่ปี 2012
การมาของ มาโกโตะ เทกุระโมริ แสดงให้เห็นแล้วว่าการใช้โค้ชจากแดนอาทิตย์อุทัยดูจะไปได้สวยในระยะยาว ทั้งเรื่องของความเป็นมืออาชีพ, การฝึกซ้อมและแท็กติก เพียงแต่กุนซือวัย 54 ปี ไม่สามารถนำทีมรักษามาตรฐานไว้ได้
ดังนั้นด้วยเครือข่ายของพวกเขามีต่อ เจลีก อาจจะทำให้ทีมกระต่ายแก้วเฟ้นหาเทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น เข้ามาสานงานต่อที่ บีจี สเตเดี้ยม เพื่อคงความต่อเนื่องในหลายๆ เรื่องเอาไว้