เสร็จศึก เอเชียน คัพ 2023 และกลับมาสู่ ไทยลีก 2023-24 ที่กลับมาห้ำหั่นกันอีกครั้ง โดยจะประเดิมด้วย 'ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์' ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 19:00 น. ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงคัด 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดเกมที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ด้วยประการทั้งปวง!!
[ 1 ] ไทยลีก ครั้งแรกของ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร
ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร คือหนึ่งในนักเตะแห่งอนาคตของทีมชาติไทย - ประสบการณ์การค้าแข้งในยุโรป กับลีกฝรั่งเศส และอังกฤษ คือเครื่องการันตีเป็นอย่างดีถึงฝีเท้าว่าเก่งกาจเพียงใด
ผลงานกับทัพช้างศึกช่วงปี 2021 ต่อถึง 2022 ก็เห็นโดยทั่วกันว่าหมอนี่มีประโยชน์ขนาดไหน ด้วยสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว, วิสัยทัศน์กว้างไกล, จ่ายบอลแม่นยำและทำให้คนรอบกายเล่นง่ายไปด้วย ซึ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติของกองกลางชั้นยอด
อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาบาดเจ็บ ทำให้มิดฟิลด์เชื้อสายสุพรรณบุรี ต้องพักยาว โดยเริ่มจากสมัยอยู่ เลสเตอร์ ซิตี้ กระทั่งหมดสัญญา แล้วย้ายมา เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ก็ยังรักษาตัวแบบต่อเนื่องอยู่นานพอสมควร
พลันที่สลัดออกจากปัญหาเรื้อรัง ภาพที่เขาลงซ้อมกับเพื่อนๆ และได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ทำให้แฟนฟุตบอลทั้งประเทศต่างชื่นมื่น เพราะมันคือนิมิตหมายอันดี เนื่องจาก ธนวัฒน์ สามารถยกระดับให้ทีมได้แน่นอน
ดังนั้นระหว่าง เมืองทอง กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ จึงน่าสนใจเหลือเกินว่าถ้านักเตะหมายเลข 10 ของกิเลนผยองลงสนาม เขาจะบันดาลความมหัศจรรย์ได้มากน้อยแค่ไหน
[ 2 ] วีระเทพ ป้อมพันธ์ จะประเดิมดวลทีมเก่าเลยหรือไม่
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเกมที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม คือการกลับมาของ วีระเทพ ป้อมพันธ์ มิดฟิลด์มันสมองที่ปัจจุบันกลายเป็นตัวเลือกแรกในแดนกลางทีมชาติไทย ภายใต้การกำกับ มาซาทาดะ อิชิอิ ไปแล้ว
นักเตะวัย 27 ปี เพิ่งตกลงใจย้ายจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ข้ามฟากไปเล่นให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเลกที่สองของฤดูกาล 2023-24 ซึ่งทำให้บรรดาสาวกกิเลนผยองรู้สึกเสียดายมากๆ เพราะหมอนี่คือคนที่ทำให้เกมของทีมมีความสมดุล
ด้วยความที่ทีมแข้งเทพขาดขุมกำลังสำคัญในแดนกลางไปหลายคนจากปัญหาบาดเจ็บ พวกเขาจึงรีบดึง วีระเทพ มาโดยด่วน เพราะถ้าปรารถนาจะเป็นแชมป์ ก็ต้องเสริมทัพให้ตรงจุด ซึ่งดีลนี้ถือว่าเกาได้ถูกที่คันจริงๆ
อย่างไรก็ตาม จากการที่ทีมชาติไทย เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจ เอเชียน คัพ 2023 มันจึงอยู่ที่ว่า ธชตวัน ศรีปาน กุนซือบียูจะตัดสินใจเช่นไร เนื่องจากสมาชิกใหม่รายนี้มีส่วนร่วมกับทัพช้างศึกทุกนัดในทัวร์นาเมนต์ที่ประเทศกาตาร์ แถมเล่นไปถึง 283 นาที เลยทีเดียว
ดังนั้นระหว่าง เมืองทอง กับ แบงค็อก ในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ จึงน่าสนใจว่า วีระเทพ จะได้ลงเล่นเผชิญหน้าอดีตต้นสังกัดของตนเองหรือไม่ แต่จากภาพการณ์แล้ว มีโอกาสสูงทีเดียวที่เขาจะได้เล่นต่อหน้าสาวกกิเลนผยองที่สนาม ธันเดอร์โดม
[ 3 ] ธันเดอร์โดม ต้อนรับคนคุ้นเคย
เมืองทอง ยูไนเต็ด คือสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องปั้นนักเตะ ไม่ว่าจะผลักดันจากอะคาเดมี่ของสโมสร หรือซื้อเข้ามาเพื่อพัฒนาฝีเท้า แล้วส่งต่อไปที่อื่นๆ ซึ่งใน ไทยลีก ทุกวันนี้ก็มีอดีตแข้งกิเลนผยองเล่นอยู่ทุกทีมเลยทีเดียว
แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็คือหนึ่งในทีมที่มีศิษย์เก่าของอดีตแชมป์ลีก 4 สมัย ร่วมทัพอยู่มากมาย ไล่ตั้งแต่ บุญทวี เทพวงศ์ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่เติบใหญ่มาจากระบบเยาวชน เมืองทอง ตามด้วย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, อดิศักดิ์ ไกรษร, ชญาวัต ศรีนาวงษ์, สุพรรณ ทองสงค์ และ ปฏิวัติ คำไหม ที่ถูกเซ็นสัญญาตั้งแต่ยังโลดแล่นในระดับฟุตบอลนักเรียน
นอกจากนี้ยังมี พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร และรายล่าสุดอย่าง วีระเทพ ป้อมพันธ์
เท่ากับว่ามีนักเตะแข้งเทพถึง 9 คน ที่มีอดีตกับกิเลนผยองแถมรายชื่อเหล่านี้ยังเป็นผู้เล่นหลักของบียูชุดปัจจุบันอีกต่างหาก
ดังนั้นระหว่าง เมืองทอง กับ แบงค็อก ในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ จึงเป็นเหมือนการกลับบ้านหลังที่คุ้นเคยของบรรดาศิษย์เก่าจากรั้ว ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม นั่นเอง
[ 4 ] โคทาโระ โอโมริ และ วานแดร์ ลุยซ์
นอกจาก ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และ วีระเทพ ป้อมพันธ์ ยังมีอีก 2 ผู้เล่นที่น่าสนใจมากๆ สำหรับเกมนี้คือ โคทาโระ โอโมริ กับ วานแดร์ ลุยส์
รายแรกเป็นนักเตะนำเข้าจากญี่ปุ่น ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งมาพร้อมโปรไฟล์เลิศหรูกับการยืนสถานะตัวหลักของ กัมบะ โอซากะ ชุด 'เทรเบิ้ลแชมป์' ในซีซั่น 2014
เท่านั้นไม่พอ ฤดูกาล 2019 ซึ่งเป็นปีที่ ธีราทร บุญมาทัน ผงาดขึ้นชูโทรฟี่ เจลีก ในฐานะผู้เลน โยโกฮามะ มะรินอส - โอโมริ ซึ่งย้ายไปอยู่กับ เอฟซี โตเกียว ก็ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กันไปจนถึงช่วงนัดสุดท้ายเลยทีเดียว
มันน่าสนใจว่าการย้ายมาสวมใส่หมายเลข 8 ที่เมืองไทย เขาจะสามารถยกระดับให้กิเลนผยองได้มากน้อยเพียงใด
ส่วนอีกคน วานแดร์ หนึ่งในนักเตะต่างชาติที่เก่งกาจที่สุดของสยามประเทศในปัจจุบัน เขาเพิ่งสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนๆ ได้อีกครั้ง ซึ่งนั่นคือสัญญาณเตือนแนวรับทั่วทั้งลีกว่าเตรียมรับมือกับความสยดสยองในไม่ช้า
การที่ แบงค็อก มีผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างได้เพียงเสี้ยววินาทีคนนี้มา มันเหมือนพยัคฆ์ติดปีก เพราะเท่ากับว่าจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ทำลายล้างฝั่งตรงข้ามมากกว่าเดิม เนื่องจากเท่าที่มีอยู่ก็ล้วนแล้วแต่ระดับพระกาฬทั้งนั้น
แต่นี่ได้ วานแดร์ มาเพิ่มอีก มิติและความหลายหลากก็เพิ่มขึ้น แถมอานุภาพยังหนักหน่วงเสียด้วย
อย่างไรก็ตาม เคสของแนวรุกชาวบราซิล มันมองได้หลายมุม - มุมแรก คือฟอร์มการเล่นที่จะเปรี้ยงปร้างเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะร้างสนามไปนาน มุมที่สองคือเมื่อกลับมา จะกระทบต่อแท็กติกที่ ธชตวัน ศรีปาน วางไว้หรือไม่
เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่าปีกหมายเลข 90 ของบียูนั้นความสามารถเฉพาะตัวสูง ดังนั้นเขาจึงมักจะลากตะลุยบุกเดี่ยวคนเดียวบ่อยๆ ซึ่งครั้งนั้นทำดี ก็ดีไป แต่ถ้าเลี้ยงไม่ผ่าน เพื่อนก็เหนื่อยเช่นกัน
ดังนั้นระหว่าง เมืองทอง กับ แบงค็อก ในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ มันจึงน่าดูชมเหลือเกิน ว่านักเตะใหม่ของกิเลนผยองจะสร้างความแตกต่างได้เพียงใด เช่นเดียวกับฝั่งบียู ที่พอได้ วานแดร์ กลับมา ระบบทีมจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวกหรือลบ
[ 5 ] ผลแพ้-ชนะสะเทือนการลุ้นแชมป์
จากการที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด สะดุดในช่วง 3 นัด หลังสุดก่อนปิดเลกแรก ด้วยผลเสมอ 2 และแพ้ 1 นัด ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์ ไทยลีก 2023-24 กลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง
เวลานี้อันดับในตาราง พวกเขามีแต้มเหนือกว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียง 4 คะแนน เท่านั้น ทั้งยังมี การท่าเรือ เอฟซี กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ไล่ล่ามาแบบไม่ลดละ (ตามหลังทีมละ 5 คะแนน)
ด้วยเหตุนี้เอง การบุกไปเยือน เมืองทอง ยูไนเต็ด จึงมีเงื่อนไขเดียวสำหรับบียู นั่นคือต้องเก็บชัยชนะให้ได้เท่านั้น เพื่อรักษาระยะห่างจากบรรดาผู้ตามมาให้ไม่ใกล้ไปกว่านี้ เพราะถ้าถูกบีบ บางทีภาระความกดดันอาจจะถูกส่งมาที่ทีมแข้งเทพเสียเอง
ก่อนหน้าในหลายๆ ซีซั่น แบงค็อก เองก็มีผลงานที่ดีในเลกแรก แต่กลับมาสะดุดดื้อๆ ในเลกที่สอง จนสุดท้ายกลายเป็นแห้วทุกรายการ ซึ่งนั่นคือบทเรียนอันแสนชอกช้ำที่มักจะหลอกหลอนพวกเขาอยู่เรื่อยมา
ไม่ใช่แค่บียูเท่านั้นที่ลุ้นระทึก หากแต่ บุรีรัมย์, การท่าเรือ และ บีจี ปทุม เองก็คงจะส่งใจเชียร์กิเลนผยองให้ช่วยหยุดทีมเยือน เพราะถ้าทำได้ โอกาสต่างๆ จะเปิดกว้างขึ้นหลายเท่าตัว
ดังนั้นระหว่าง เมืองทอง กับ แบงค็อก ในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ - อาคันตุกะจึงต้องเน้นเป็นพิเศษ เพื่อลุ้นสร้างประวัติศาสตร์กับการคว้าแชมป์ลีกให้ได้สักที (ไม่นับรวมสมัยยังใช้ชื่อมหาวิทยาลัยกรุงเทพ)