คมกฤช นภาลัย ผู้สมัครนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ระบุ "ผมสมัครครั้งนี้ผมไม่เคยโทรไปหาสโมสรใดๆทั้งสิ้น ไม่เคยขอเสียง เพียงแค่อยากใช้เวทีนี้สื่อไปถึงคนทำฟุตบอล ให้ความสำคัญกับการพัฒนาฟุตบอลเยาวชนให้มากขึ้น ใช้โมเดลอิตาลีแบกอิสระผู้ตัดสิน"
คมกฤช นภาลัย ผู้สมัครนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล หมายเลข 5 ให้สัมภาษณ์ในงาน THAI SPORT PLUS โดย บริษัท อัพไลท์ สปอร์ต จำกัด ร่วมกับองค์กรสื่อ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ว่า
"ทำไมผมถึงมาสมัครครั้งนี้ คือเราต้องเสริมจุดแกร่ง และลบจุดด้อย หลายๆคนที่พูดคุยกัน ผมยังเห็นว่า เขาไปคุยกันที่ปลายยอด ไทยลีกจะเติบโตยังไง บอลไทยจะไปบอลโลกยังไง กีฬาจะเติมโตได้ยังไง สำหรับผมคือรากฐานคือสิ่งสำคัญ ผมเน้นเรื่องเยาวชนมากๆ โดยเฉพาะเรื่องยูธลีกที่ทุกวันนี้เกิดอะไรขึ้น บางสนามไปถึงไม่มีแข่ง ยิ่งเป็นฟุตบอลนักเรียน กรมพลศึกษาไม่จัดฟุตบอลนักเรียน 14 ปีบ้าง นี่คือบ้านเรา"
"ผมสมัครครั้งนี้ผมไม่เคยโทรไปหาสโมสรใดๆทั้งสิ้น ไม่เคยขอเสียง เพียงแค่อยากใช้เวทีนี้สื่อไปถึงคนทำฟุตบอล ให้ความสำคัญกับการพัฒนาฟุตบอลเยาวชนให้มากขึ้น แค่อยากจะสื่อถึงตรงนั้นมากกว่า เราเคยไปเยาวชนโลกมาแล้ว"
"คอมเพนเซชั่น ผมจะเอาระบบนี้มาใช้ คือการขึ้นทะเบียนนักฟุตบอลเยาวชนทั่วประเทศเอาไว้ในระบบนี้ ซึ่งเป็นการตอบแทนการคืนสู่รากหญ้าอย่างแท้จริง นี่คือระบบที่จะทำให้การคืนมูลค่าสู่รากหญ้าของเรา หากนักฟุตบอลคนนั้นมีการซื้อขายเกิดขึ้น"
"อีกหนึ่งเรื่องคือเรื่องผู้ตัดสิน เราต้องแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ผมไปเอาตัวอย่างมาจากอิตาลีที่แยกอิสระชัดเจน แต่ผมก็มองว่าน่าจะต้องใช้เวลา 4 ปี เพื่อแยกออกมา รายได้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ผู้ตัดสินจะเป่าให้มีจรรยาบรรณ"
"ฟุตบอลไทย ก็เหมือนเดิม 8 ปี ย้อนหลัง ผู้บริหารก็จะมองแต่ผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น อีกอย่างนึงคือการไปแก้ข้อบังคับ ผมบอกเลยว่า วันที่ 8 ก.พ.67 อาจจะเป็นวันที่ต้องจารึกไว้ เพราะ กกต. ทำผิดข้อบังคับ โดยเฉพาะการที่จะต้องให้สิทธิ์สโมสรที่ขึ้นทะเบียนไว้เกือบ 500 สโมสร ได้มีความเท่าเทียมกันด้วย ไม่ใช่แค่ให้ 40 กว่าสโมสรที่จะมีการประชุมรับรองในช่วงเช้าก่อนการเลือกตั้ง"