ศรายุทธ สมพิมพ์ ร่ายยาวขอความเป็นธรรม งงจัดถูกต้นสังกัดหักเงินเกือบ 80 % ทั้งที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ชี้หลายทีมสนใจตนและติดต่อขอยืม แต่ต้นสังกัดดันไปเรียกค่าตัวแพง สุดท้ายกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดไม่มีใครสู้ราคาได้ ถามโซเชียลทำถูกแล้วหรือไม่ ที่หักเงินเดือนโดยที่เราไม่ได้ยินยอม และไม่ใส่ชื่อตนทำงานที่เรารักในบริษัทของปีนั้น
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์เมื่อ ศรายุทธ สมพิมพ์ กองหลังวัย 25 ปี ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตราแกรมส่วนตัวเพื่อขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูกต้นสังกัดหักเงินเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ตัวเองตั้งใจทำงานและฝึกซ้อมอย่างเต็มที่สุดความสามารถ แถมตอนนี้เขากลายเป็นนักเตะที่ไร้สังกัดไม่มีชื่อลงเล่นกับสโมสรใดอีกด้วย
โดย "ตาหวาน" โพสต์ข้อความว่า "คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ สมมุติว่าคุณ เป็นหัวหน้าครอบครัว และต้องคอยหาเงินเพื่อแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ค่าอื่น ๆ อีกมากมาย คุณทำงานที่คุณรักมาก อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งอย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด"
"วันหนึ่งบริษัทเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงจำเป็นต้องขายคุณออก มีหลายคนติดต่อมาเพื่อยืมตัวคุณไปทำงานด้วย แต่บริษัทกลับยืนยันว่าจะขายในราคานี้เท่านั้น ไม่นานบริษัทกลับมาแจ้งว่าปล่อยยืมคุณแต่ ณ เวลานั้นกลับไม่มีตำแหน่งงานว่างและไม่มีใครสู้ราคาได้ ทำให้คุณต้องอยู่ทำงานที่นี่ต่อ"
"บริษัทจึงขอลดเงินเดือนคุณจ่ายแค่ 50 % ในเดือนแรกและไม่ส่งชื่อคุณไปทำงานรอบนี้ หลังจากนั้นบริษัทพยายามบอกคุณให้ไปทำงานที่อื่นรอแทนก่อนและไม่ขอจ่ายเงินที่หักก่อนหน้านี้รวมถึงเงินเดือนตามสัญญา คุณไม่ยินยอมกับข้อเสนอนี้ ในช่วงนั้นคุณก็โดนหักเงินเดือนเพิ่มอีกเกือบ 80 % ในเดือนที่ 2 และ 3 โดยที่คุณไม่ได้เซ็นรับทราบยินยอม รวมถึงไม่ให้คุณไปทำงานด้วย แต่คุณก็ยังคงไปทำงานที่บริษัทอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดตกบกพร่องตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้แม้ว่าจะไม่มีชื่อในที่ทำงานก็ตาม"
"หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ คุณคิดว่าบริษัทของคุณทำถูกแล้วหรือไม่ ที่หักเงินเดือนของคุณโดยที่คุณไม่ได้ยินยอม และไม่ใส่ชื่อของคุณทำงานที่คุณรักในบริษัทของปีนั้น คุณคิดว่าเป็นธรรมหรือไม่ กับคุณที่ต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัว และไม่ให้คุณได้ทำในสิ่งที่คุณรัก ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ กับเหตุการณ์ดังกล่าว ลองแสดงความคิดเห็นดูครับ"
สำหรับศรายุทธ สมพิมพ์ เคยผ่านประสบการณ์ค้าแข้งในทีมชุดเยาวชนและชุดใหญ่ของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมถึงถูกปล่อยยืมให้กับ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด, พีทีที ระยอง, สุพรรณบุรี เอฟซี และย้ายไปร่วมทัพ สมุทรปราการ ซิตี้ เป็นสโมสรล่าสุดก่อนจะกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด